กลุ่มอาการคุชชิง ( Cushing syndrome ) เกิดจากฮอร์โมน Glucocorticoid สูงกว่าปรกติ ทำให้หน้าบวมคล้ายพระจันทร์ มีก้อนไขมันที่หลังคอ ปัสสาวะบ่อย นอนไม่หลับ ผิวแห้งโรคคุชชิง กลุ่มอาการคุชชิง อาการหน้าบวม โรคไม่ติดต่อ

โรคคุชชิง หรือ กลุ่มอาการคุชชิง ภาษาอังกฤษ เรียก Cushing syndrome  เป็นโรคต่อมไร้ท่อ เกิจากความผิดปรกติของต่อมใต้สมอง ลักษณะเด่นของโรคนี้ คือ อาการบวมของใบหน้าคล้ายพระจันทร์ เป็นอาการของโรคที่เกิดจากการมีฮอร์โมน Glucocorticoid มากเกินไป ชึ่งเกิดจากการได้รับฮอร์โมนจากภายนอกร่างกาย

Glucocorticoid เรียกย่อๆว่า GC เป็นฮอร์โมนสเตียรอยด์สร้างจากต่อมหมวกไต อยู่ภายใต้การควบคุมของฮอร์โมน ACTH ภาษาอังกฤษ เรียก Adrenocorticotropic hormone ที่ถูกสร้างด้วยต่อมใต้สมอง ซึ่งฮอร์โมน ACTH มีหย้าที่ในการควบคุมการสร้างฮอร์โมน Glucocorticoid

โดยฮอร์โมน Glucocorticoid เป็น ฮอร์โมนที่มีความสัมพันธ์กับอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย เกี่ยวข้องกับการรักษาความสมดุลของน้ำและเกลือแร่ ต่างๆในร่างกาย เป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของมนุษย์ โดยเฉพาะเด็ก รวมถึงการสร้าง ระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกายมนุษย์ด้วย การผิดปรกติของฮอร์โมน Glucocorticoid เป็นโรคกลุ่มอาการคุชชิง

หากกล่าวถึง โรคคุชชิง แล้ว โรคนี้พบครั้งแรกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยศลัยแพทย์ด้านระบบประสาท ชื่อ ฮาร์เวย คุชชิง เมื่อปี พ.ศ. 2475 พบร่างกายผิดปรกติจากภาวะฮอร์โมน Clucocorticoid ในร่างกายสูงเกินไป โรคนี้พบได้ไม่บ่อย ซึ่งสามารถพบได้ในคนช่วงอายุ 20 ถึง 50 ปี และพบว่าผู้หญิงมีความเสี่ยงในการเกิดโรคมากกว่าผู้ชาย

สาเหตุของการเกิดโรค กลุ่มอาการคุชชิง

พบว่า สาเหตุหลักของการเกิดโรค นี้ คือ ฮอร์โมน Glucocorticoid ในร่างกายสูงกว่าปรกติ ซึ่งสามารถแยกสาเหตุของโรคเป็น 2 เหตุหลักๆ คือ การสร้างฮอร์โมนในร่างกายผิดปรกติ และการได้รับฮอร์โมนมากกว่าปรกติ ซึ่งรายละเอียดของสาเหตุ สามารถอธิบายได้ดังนี้

  1. สาเหตุจากร่างกายสร้างฮอร์โมน Glucocorticoid มากกว่าปกติ ซึ่งทางการแพทย์พบว่า เกิดจากความผิดปรกติของต่อมไร้ท่อ ที่ต่อมหมวกไต เช่น การเกิดเนื้องอก หรือ มะเร็งที่ต่อมใต้สมอง หรือ มะเร็งที่ต่อมไทรอยด์ ชนิด Medullary carcinoma สาเหตุของโรคคิชชิง จากการสร้างฮอร์โมนมากผิดปรกติ พบได้น้อย และโอกาสเสี่ยงของการเกิดพบว่า ผู้หญิงมีดอกาสเป็นมากกว่าผู้ชายถึง 6 เท่า
  2. สาเหตุของโรคจากการได้รับฮอร์โมน Glucocorticoid จากภายนอกร่างกาย ซึ่งสาเหตุของการได้รับฮอร์โมนเข้าสู่ร่างกาย เกิดจากการใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ เพื่อใช้ในการรักษาโรคบางชนิด เช่น โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ โรคออโตอิมมูน เป้นต้น

กลุ่มของผู้ที่มีความเสี่ยงของการเกิดโรคกลุ่มคุชชิง คือ ผู้ที่ได้รับยาสเตียรอยด์ ที่ใช้ในการรักษาโรค เช่น โรคหืดหอบ โรคออโตอิมมูน

อาการของโรคกลุ่มอาการคุชชิง

อาการของโรคนี้สามารถแบ่งอาการของโรค ได้เป็น 2 ส่วน คือ ลักษณะอาการทั่วไป และลักษณะอาการที่เป็นเฉพาะที่ รายละเอียดของอาการกลุ่มโรคคุชชิง มีรายละเอียดดังนี้

  1. ลักษณะอาการทั่วไป เป็นอาการที่เกิดจากฮอร์โมนClucocorticoid ที่มีผลต่อเนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ เช่น หิวบ่อย กินมากขึ้น ใบหน้าบวมพระจันทร์เต็มดวง อ้วนบริเวณไหปลาร้า มีพุง แต่แขนขาลีบ มีก้อนไขมันที่ด้านหลังคอ ปัสสาวะมาก ปัสสาวะบ่อย นอนไม่หลับ ผิวหนังแห้ง ผิวหนังบาง ผิวหนังแตกง่าย เป็นแผลง่าย แผลหายยาก ความดันโลหิตสูง ค่าน้ำตาลในเลือดสูง เป็นเบาหวาน มีภาวะกระดูกพรุน กระดูกหักง่าย ต้นแขน ต้นขา ลีบและอ่อนแรง ระบบสมองแปรปรวน ซึมเศร้า ประจำเดือนมาไม่ปกติ ขนดก ความรู้สึกทางเพศลดลง ติดเชื้อโรคง่าย ลักษณะอาการทั่วป แต่ส่งผลกับระบบในร่างกายทุกส่วน
  2. ลักษณะอาการเฉพาะที่ เป็นลักษณะของอาการเนื้องอกที่ต่อมใต้สมองหรือ ต่อมหมวกไต ทำให้มีอาการปวดศีรษะเรื้อรัง มีความผิดปกติเรื่องการมองเห็นภาพ

การวินิจฉัยโรคกลุ่มอาการคุชชิง

สามารถทำได้โดยการ การตรวจร่างกาย การตรวจเลือด การตรวจปัสสาวะ การตรวจน้ำลาย เพื่อดูระดับฮอร์โมนGlucorticoid ในร่างกาย นอกจากนั้น การตรวจชิ้นเนื้อ การตรวจช่องท้อง และการเอ็กซ์เรยสมอง เพื่อดูหาเนื้อร้าย เป็นต้น

การรักษาโรคกลุ่มอาการคุชชิง

การรักษาโรคนี้ สามารถทำการรักษาโดยการปรับลดระดับออร์โมนที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรค และการประคับประคอบอาการแทรกซ้อนที่เป็นผลจากการมีฮอร์โมนมากเกินไป รายละเอียด ดังนี้

  1. การปรับลดระดับฮอร์โมน Clucocorticoid โดยการให้หยุดยากลุ่มสเตียรอยด์ แต่ให้ลดปริมาณยาทีละน้อย ห้ามลดโดยการเลิกยาแบบกระทันหัน อาจเกิดอาการขาดยาได้ เรียกอาการขาดยา ว่า Adrenal crisis ซึ่งลักษณะของอาการขาดยา คือ ไข้สูง เหงื่อออก ปวดท้อง ท้องเสีย หัวใจเต้นเร็ว คลื่นไส้ อาเจียน ความดันโลหิตต่ำ อ่อนเพลียมาก ต้องรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที เนื่องจากอันตรายถึงเสียชีวิตได้
  2. การรักษาอาการจากความผิดปรกติของออร์โมน Glucocorticoid สูงกว่าปรกติ สามารถทำการรักษาโดย การผ่าตัด เนื้องอกหรือเซล์มะเร็ง ที่เป็นสาเหตุของโรค เช่น มะเร็งปอด เนื้องอกต่อมหมวกไต เนื้องอกต่อมใต้สมอง แต่การฝ่าตัดเนื้อร้ายออกจะทำให้เกิดอาการ Adrenal crisis ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
  3. การรักษาโดยประคับประคองตามอาการ เช่น การลดน้ำตาลในเลือด การลดความดันโลหิต เป็นต้น

การดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคกลุ่มอาการคุชชิง

โดยปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์ กินยาให้ครบและถูกต้อง รักษาสุขอนามัย ควบคุมอาหาร ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ระวังการเกิดอุบัตติเหตุจากการกระแทกอย่างรุนแรง

การป้องกันโรคกลุ่มอาการคุชชิง

สามารถทำได้โดย ไม่ซื้อยากลุ่มสเตียรอยด์มาใช้เอง การป้องกันเราสามารถป้องกันโรคจากสาเหตุภายนอกเท่านั้น ส่วนสาเหตุอื่นๆป้องกันได้ยาก

โรคคุชชิง กลุ่มอาการคุชชิง ( Cushing syndrome ) เกิดจากฮอร์โมน Glucocorticoid สูงกว่าปรกติ ความผิดปรกติของต่อมใต้สมอง ส่งผลให้เกิดอาการบวมของใบหน้าคล้ายพระจันทร์ อ้วนบริเวณไหปลาร้า มีพุงแต่แขนขาลีบ มีก้อนไขมันที่หลังคอ ปัสสาวะมาก ปัสสาวะบ่อย นอนไม่หลับ ผิวหนังแห้ง เป็นแผลง่าย ความดันโลหิตสูง มีภาวะกระดูกพรุน

เบาหวาน ( Diabetes Mellitus ) ฮอร์โมนอินซูลิน ( Insulin )ในร่างกายผิดปกติ ทำให้เกิดน้ำตาลสะสมในเลือดสูง อาการสายตาพร่ามัว เป็นแผลเรื้อรัง ปวดและชาตามมือเท้าโรคเบาหวาน ภาวะน้ำตาลในเลือกสูง โรคไม่ติดต่อ การรักษาโรคเบาหวาน

โรคเบาหวาน ( Diabetes Mellitus ) ฮอร์โมนอินซูลิน ( Insulin )ในร่างกายผิดปกติ ทำให้เกิดน้ำตาลสะสมในเลือดสูง อาการของโรคเบาหวาน คือ สายตาพร่ามัว เป็นแผลเรื้อรัง ปวดและชาตามมือเท้า ติดเชื้อที่ผิวหนัง ปาก หรือ กระเพาะปัสสาวะ ง่าย ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำบ่อย การคุมระดับน้ำตาลในเลือด มีความสำคัญกับผู้ป่วย การรักษาโรคเบาหวาน รักษาตามอาการ เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อน เป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด ต้องระวังการกิน

โรคเบาหวาน เป็นเบาหวานนั้น การคุมเบาหวาน หรือ การคุมระดับน้ำตาลในเลือด มีความสำคัญกับผู้ป่วย การรักษาโรคเบาหวาน เป็นการรักษาตามอาการที่เกิดจากเบาหวาน ซึ่งการรักษาโรคแทรกซ้อนของเบาหวาน เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อน เป็นสิ่งที่สำคัญ โรคเบาหวานเป็นโรคที่ไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ แต่เราก็สามารถควบคุมความรุนแรงของโรคให้อยู่ในระดับที่คงที่และบรรเทาเบาลงได้

เนื้อหาเกี่ยวกกับโรคเบาหวาน เป็นโรคเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ สามารถถ่ายทอดทางพันธุ์กรรมได้ โดยเราจะเสนอเนื้อหา ว่า อาการโรคเบาหวาน การรักษาโรคเบาหวาน การป้องกันโรคเบาหวาน การใช้สมุนไพรช่วยรักษาโรคเบาหวาน โรคเบาหวาน ภาษาอังกฤษ เรียกว่าอย่างไร  เบาหวาน สมุนไพร อาการแทรกซ้อนต่างของเบาหวาน เบาหวานขึ้นตา

โรคเบาหวาน เป็น โรคยอดฮิตของมนุษย์ เราพบว่าร้อยละ 10 ของประชากรประเทศไทย เป็นโรคเบาหวาน ซึ่งโรคนี้สามารถพบได้ในทุกเพศ และทุกวัย และแนวโน้มจะมีผู้ป่วยโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นอีกได้ ซึ่งปัจจัยของการเกิดโรคเบาหวาน คือ พฤติกรรมการบริโภค พฤติกรรมการใช้ชิวิต และ กรรมพันธุ์ เป็นต้น ซึ่งการป่วยเป็นโรคเบาหวาน ผู้ป่วยบางคนไม่ทราบว่าตัวเองเป็นโรคนี้ และจะป่วยหนัก เมื่อเกิดภาวะแทรกซ้อน ที่มีความรุนแรง ดังนั้น วันนี้เราจะมาให้ความรู้เรื่องโรคนี้อย่างจริงจัง

สาเหตุของการเกิดโรคเบาหวาน

สาเหตุของเบาหวาน คือ การทำงานของฮอร์โมนอินซูลิน(Insulin)ในร่างกายผิดปกติ ซึ่งโฮโมนอินซูลินนี้ มีหน้าที่นำน้ำตาลในกระแสโลหิตเข้าสู่เซลล์ต่างๆของร่างกาย เพื่อนำพลังงานไปใช้ การที่โฮโมนอินซูลินทำงานไม่ปรกติ จะทำให้เกิดน้ำตาลสะสมในกระแสเลือด ทำให้ส่งผลต่ออวัยวะต่างๆของร่างกายทำงานผิดปรกติ เป็นสาเหตุของโรคแทกซ้อนจากการเป็นเบาหวาน สาเหตุของการเกิดโรคเบาหวาน อาจเกิดได้จากการขาดฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้เกิดน้ำตาลสะสมในเลือดสูงขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้อธิบายไปแล้วว่า ฮอร์โมนอินซูลิน เป็นอย่างไร โดยแหล่งผลิดฮอโมนชนิดนี้ คือ ตับอ่อน หากจะแยกเป็นข้อๆ เกี่ยวกับ สาเหตุที่ทำให้เกิดเบาหวาน ได้ดังนี้

  • ความอ้วนจากการไม่ออกกำลังกาย
  • อายุที่มากขึ้น ทำให้ฮอร์โมนอินซูลินผลิตได้น้อยลง
  • ความผิดปกติของตับอ่อน
  • การติดเชื้อไวรัสบางชนิด ที่มีผลต่อตับอ่อน
  • การใช้ยาบางชนิด ที่ทำให้มีการสร้างน้ำตาลมากขึ้นจากตับ และทำให้การตอบสนองของอินซูลินที่กล้ามเนื้อและเซลล์ไขมันทำได้ไม่ดี
  • การตั้งครรภ์ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงที่มีฮอร์โมน ซึ่งมีผลต่อการยับยั้งการทำงานของอินซูลิน

ประเภทของโรคเบาหวาน

ซึ่ง เบาหวาน สามารถแบ่งได้ เป็น 4 ประเภท คือ เบาหวาน ประเภทที่1 เบาหวาน ประเภทที่ 2 เบาหวาน ที่เกิดจากการตั้งครรถ์ และ เบาหวาน ที่เกิดจากสาเหตุอื่นๆ โดยรายละเอียดของ เบาหวานแต่ละประเภท มี ดังนี้

  1. เบาหวาน ประเภทที่ 1 ภาษาอังกฤษ เรียก Type 1 Diabetes เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินเพื่อให้ร่างกายไปใช้งานไม่ได้ เนื่องจากเบตาเซลล์(beta cells) ของตับอ่อนถูกทำลาย ด้วยภูมิคุ้มกันของร่างกายตัวเอง โรคเบาหวานประเภทนี้ พบมากถึงร้อยละ 10 ของผู้ป่วยโรคเบาหวาน พบในผู้ป่วยอายุน้อยกว่า 35 ปี จะเกิดโรคลักษณะเฉียบพลัน ซึ่งผู้ป่วยจะกระหายน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย น้ำหนักลดลงเร็ว ทานอาหารบ่อย เหนื่อยง่าย และเกิดการคั่งสารคีโตน ผู้ป่วยเบาหวานประเภทนี้ต้องได้รับอินซูลินโดยการฉีดหรือใช้เครื่องปั๊มอินซูลิน
  2. เบาหวาน ประเภทที่ 2 ภาษาอังกฤษเรียก Type 2 Diabetes พบว่าประเภทนี้เป็นมากที่สุด พบมากถึงร้อยละ 90 ของผู้ป่วยเบาหวาน เกิดจากตับอ่อนสามารถสร้างอินซูลินไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ประเภทนี้ สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย ผู้ป่วยจะมีอาการตาพร่ามัว เป็นแผลแล้วหายช้า มีอาการชาตามมือและเท้า และติดเชื้อได้ง่าย ผู้ป่วยต้องควบคุมอาหาร และใช้อินซูลินชนิดฉีดเพิ่ม
  3. เบาหวาน ประเภทที่เกิดระหว่างการตั้งครรภ์ ซึ่งสตรีที่ตั้งครรถ์มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคเบาหวาน ซึ่งเกิดจากการที่ผู้ตั้งครรถ์ไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำรงค์ชีวิตขณะตั้งครรถ์ ซึ่งระดับน้ำตาลในเลือดจะกลับสู่ภาวะปกติ หลังจากการคลอดบุตร
  4. เบาหวาน ประเภทที่เกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น พันธุกรรม โรคจากตับอ่อน โรคเนื้องอกที่ต่อมหมวกไต เป็นต้น

อาการของผู้ป่วยโรคเบาหวาน

ซึ่งจะพบมากในผู้ป่วยที่มีภาวะน้ำหนักตัวเกินกว่าปรกติ หรือ อ้วน นั้นเอง ซึ่งอาการของโรคจะไม่มีให้เห็นอย่างชัดเจน โดยจะค่อยๆเกิดขึ้น โดยให้สังเกตุอาการ ดังนี้ สายตาพร่ามัว เป็นแผลเรื้อรังหายช้า ปวดและมีอาการชาตามมือและเท้า ติดเชื้อที่ผิวหนัง ปาก หรือ กระเพาะปัสสาวะ ได้ง่าย ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำบ่อย และอยากทานอาหารเพิ่ม

โรคแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

โรคเบาหวาน เป็นอันตรายที่เกิดจากโรคนี้ โรคเบาหวาน ส่งผลให้ เกิดโรคเกี่ยวกับ ตา หัวใจและหลอดเลือด ไต และระบบประสาท โดยรายละเอียด ดังนี้

  • โรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งหลอดเลือดจะถูกทำลาย ทำให้หลอดเลือดอุดตันได้ ส่งผลให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น ซึ่งภาวะนี้สามารถทำให้ เกิดโรคความดันโลหิตสูง หัวใจล้มเหลวได้ ซึ่งสิ่งนี้เกิดจากภาวะหัวใจและหลอดเลือดถูกทำลาย
  • โรคตา ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานในเวลานาน หลอดเลือดในจอตาที่เรียกว่า “เรตินา” ถูกทำลาย ทำให้การมองเห็น ได้รับผลกระทบ หากเป็นหนักมากจะส่งผลถึงการสูญเสียความสามารถในการมองเห็นหรือตาบอดได้
  • โรคไต โรคเบาหวานจะทำให้เกิดปัญหาที่ไตมากที่สุด ซึ่งไตทำหน้าที่ในการกรองเลือดและกำจัดของเสียออกจากร่างกายทางปัสสาวะ หากไตมีปัญหา จะทำให้การกรองของเสียและการขับของเสียออกจากร่างกายทำได้ไม่ดี เราเรียกว่าภาวะไตเสื่อม
  • โรคทางระบบประสาท เมื่อน้ำตาลในกระแสเลือดสูง น้ำตาลจะทำลายประสิทธิภาพการเป็นฉนวนของเส้นประสาท ทำให้เส้นประสาทเหล่านั้นไม่ตอบสนอง ระบบประสาทจะถูกทำลายอย่างช้าๆ

การรักษาโรคเบาหวาน

สามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำรงชิวิต ลดการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลมาก ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ  และควบคุมการเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ที่มีสาเหตุจากโรคเบาหวาน และการให้ฮอโมนอินซูลิน เพื่อช่วยกระตุ้นการนำน้ำตาลในเลือดไปใช้งาน เพื่อลดการสะสมน้ำตาลในเลือดนั้นเอง โรคนี้การรักษาที่ดีที่สุดคือการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกาย

นอกจาก การควบคุมอาหาร แล้วการรับประทานอาหารที่มีสรรพคุณใน การช่วยไขมันและน้ำตาลในเลือด ช่วยการขับของเสียออกจากร่างกายก็สามารถช่วย รักษาโรคเบาหวาน ได้เป็นอย่างดี เราจึงขอแนะนำ สมุนไพรรักษาโรคเบาหวาน มีดังนี้

เก๋ากี้ สมุนไพร โกจิเบอร์รี่ สรรพคุณของโกจิเบอร์รี่เก๋ากี้ โกจิเบอร์รี่ ลูกสมอไทย สมอไทย ราชาสมุนไพร สมุนไพรไทยสมอไทย
ถั่วเขียว ถั่วงอก ธัญพืช สมุนไพรถั่วเขียว หญ้าปักกิ่ง สมุนไพร หญ้าเทวดา สรรพคุณหญ้าเทวดาหญ้าปักกิ่ง
ชุมเห็ดเทศ ต้นชุมเห็ดเทศ สรรพคุณของชุมเห็ดเทศ สมุนไพรชุมเห็ดเทศ มะกอก สรรพคุณของมะกอก น้ำมันมะกอก โทษของมะกอกมะกอก

ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove