มะกรูด ( Kaffir lime ) สมุนไพรพื้นบ้าน ประโยชน์และสรรพคุณบำรุงผม มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเจริญอาหาร ช่วยผ่อนคลาย ป้องกันมะเร็ง ใช้ดับกลิ่นคาวอาหาร บำรุงเส้นผม

มะกรูด ต้นมะกรูด สรรพคุณของมะกรูด สมุนไพร

ต้นมะกรูด ภาษาอังกฤษ เรียก Kaffir lime มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Citrus hystrix DC เป็นพืชตระกูลเดียวกันกับส้ม มะกรูดเป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้าน นิยมนำมาทำอาหาร ให้กลื่นหอม ชื่ออื่นๆของมะกรูด เช่น มะขู , มะขุน มะขูด , ส้มกรูด ส้มมั่วผี  เป็นต้น มะกรูดถือเป็นวัตถุดิบสำคัญในการทำเครื่องแกง นอกจากจะเป็นสมุนไพรใช้ในครัวแล้ว ยังเป็นไม้มงคลเชื่อกันว่า มะกรูดจะทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความสุข

ลักษณะของต้นมะกรูด

มะกรูด เป็นไม้ยืน ขนาดเล็ก ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็ง ตามลำต้นและกิ่งของมะกรูดจะมีหนามแหลม ใบมะกรูด เป็นใบประกอบชนิดลดรูป เรียงสลับกันตามกิ่ง รูปทรงไข่ ใบมีสีเขียวแก่ และผิวใบเรียบ มัน หนา มีกลิ่นหอมมาก ดอกของมะกรูดออกเป็นกระจุก มี 3 – 5 ดอกต่อกระจุก กลีบดอกสีขาว เกสรสีเหลือง มีกลิ่นหอม ผลของมะกรูดมีสีเขียว ลักษณะเหมือมมะนาวแต่ผิวขรุขระ ผลสุกจะเป็นสีเหลือง การขยายพันธุ์มะกรูดสามารถทำได้โดยการตอนกิ่ง การทาบกิ่ง หรือการเพาะเมล็ด เป็นต้น

สรรพคุณของมะกรูด

การใช้ประโยชน์มะกรูด สรรพคุณของมะกรูด สามารถนำมาใช้ได้ทุกส่วน ตั้งแต่ ราก ใบ ผล โดยรายละเอียด ดังนี้

  • รากของมะกรูด สามารถใช้ รักษาฝี แก้เสมหะเป็นพิษ แก้กระหายน้ำ
  • ใบของมะกรูด สามารถสกัดน้ำมันหอมระเหย มีสารต้านอนุมูลอิสระ สร้างภูมต้านทานร่างกาย ช่วยเจริญอาหาร ช่วยผ่อนคลาย ป้องกันมะเร็ง น้ำมันหอมระเหยใช้แก้ปวดเมื้อย ช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ใช้ดับกลิ่นคาวอาหาร ลดความดันโลหิต
  • ผลของมะกรูด สามารถนำมาแต่งกลิ่น รักษาโรคเส้นผม รักษาโรคผิวหนัง ใช้ทำความสะอาด บำรุงเส้นผม ช่วยผ่อนคลาย ช่วยแก้ไอ ขับเสมหะ บำรุงเลือด ขับลม ยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ บำรุงเลือด
  • น้ำมะกรูด สามารถใช้รักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน ใช้บำรุงเส้นผม ล้างสิ่งอุดตันบนใบหน้า
    ผิวของผลมะกรูด สามารถนำมาทำเป็นยาขับลม บำรุงหัวใจ แก้เสมหะเป็นพิษ แก้ท้องอืด

มะกรูด สมุนไพร คู่ครัวคนไทย สามารถนำมาทำอาหารให้กลิ่นหอม ดับคาวอาหารได้ดี สรรพคุณของมะกรูด เช่น ใช้รักษาฝี แก้เสมหะเป็นพิษ แก้กระหายน้ำ มีสารต้านอนุมูลอิสระ สร้างภูมต้านทานร่างกาย ช่วยเจริญอาหาร ช่วยผ่อนคลาย ป้องกันมะเร็ง แก้ปวดเมื้อย ช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ใช้ดับกลิ่นคาวอาหาร ลดความดันโลหิต รักษาโรคเส้นผม รักษาโรคผิวหนัง บำรุงเส้นผม ช่วยผ่อนคลาย ช่วยแก้ไอ ขับเสมหะ บำรุงเลือด ขับลม ยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ รักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน ล้างสิ่งอุดตันบนใบหน้า เป็นยาขับลม บำรุงหัวใจ แก้ท้องอืด

มะกรูด พืชสมุนไพร ช่วยบำรุงเส้นผม ทำให้ผมดำ ผมเงางาม นิยมนำมาทำเป็นยาสระผม เราขอแนะนำ สมุนไพรอื่นๆ ที่ ช่วยบำรุงเส้นผม ได้ด้วย มีดังนี้

ตะไคร้ พืชสวนครัว สมุนไพร สรรพคุณของตะไคร้ตะไคร้
ขิง สมุนไพร สมุนไพรไทย สรรพคุณของขิงขิง
ชะอม ใบชะอม สมุนไพร สรรพคุณของชะอมชะอม
ฟักข้าว สมุนไพร สมุนไพรไทย สรรพคุณของฟักข้าวฟักข้าว
กระเทียม สมุนไพร พืชสวนครัว สรรพคุณของกระเทียมกระเทียม
อัญชัน ดอกอัญชัน สมุนไพร สรรพคุณของดอกอัญชันอัญชัน
ต้นย่านาง ใบย่านาง สมุนไพร สรรพคุณของใบย่านางย่านาง
ว่านหางจระเข้ สมุนไพร สมุนไพรไทย สรรพคุณของว่านหางจระเข้ว่านหางจระเข้

มะกรูด ( Kaffir lime ) พืชตระกูลส้ม สมุนไพรพื้นบ้าน ประโยชน์ของมะกรูด สรรพคุณของมะกรูด บำรุงผม แก้กระหายน้ำ มีสารต้านอนุมูลอิสระ สร้างภูมต้านทานร่างกาย ช่วยเจริญอาหาร ช่วยผ่อนคลาย ป้องกันมะเร็ง แก้ปวดเมื้อย ใช้ดับกลิ่นคาวอาหาร ลดความดันโลหิต บำรุงเส้นผม

งาดำ สมุนไพร เมล็ดงาดำนิยมนำมาบริโภค ลักษณะของต้นงาดำเป็นอย่างไร คุณค่าทางโภชนาการของงาดำ สรรพคุณช่วยชะลอวัย บำรุงผิวพรรณ บำรุงผม โทษของงาดำ มีอะไรบ้าง

งาดำ สมุนไพร สรรพคุณของงาดำ

งาดำ ( Sesamum ) ชื่อวิทยาศาสตร์ของงาดำ คือ Sesamum indicum L สมุนไพร คุุณค่าทางโภชนาการของงาดำ สรรพคุณของงาดำ ช่วยชะลอความแก่  ช่วยบำรุงผิว ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ช่วยซ่อมแซมผิวพรรณ ช่วยบำรุงรากผม ช่วยให้ผมดกเงางาม ช่วยป้องกันการเกิดผมหงอก ช่วยบำรุงกำลัง ช่วยสลายไขมัน ใช้ลดความอ้วน ช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลในร่างกาย

นอกจากนั้น งาดำยังมีสรรพคุณ ช่วยป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยบำรุงสมอง ช่วยบำรุงโลหิต ลดความดันโลหิต ช่วยขยายหลอดเลือด ช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว ช่วยให้นอนหลับสบาย  ป้องกันโรคหวัด ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ช่วยบำรุงกระดูก ช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน ป้องกันโรคท้องผูก ช่วยบรรเทาโรคริดสีดวงทวาร ช่วยป้องกันโรคข้อเสื่อม เป็นยาระบายอ่อนๆ  งาดำสามารถช่วยบำรุงร่างกาย ได้มากมาย เช่น ผม ผิว กระดูก เล็บ การขับถ่าย ระบบเลือด บำรุงหัวใจ หรือผู้หญิงวัยทอง ซึ่งงาดำช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ได้ดี

งาดำ ถือเป็นพืชชนิดพืชล้มลุก งาดำ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Sesamum indicum L งาเป็นพืชท้องถิ่นของเอเชีย และแถบตะวันออกของทวีปแอฟริกา ในปัจจุบันสามารถพบงานได้ในประเทศเขตร้อน ต้นงา จะมีความสูงประมาณ 2 เมตร เมื่อผลของงาเแห้งจะมีเมล็ดเล็กๆสีดำ สามารถนำมารับประทานได้ งาถือว่าเป็นพืชที่มีประโยชน์มาก หากรับประทานอย่างต่อเนื่องจะทำให้ร่างกายแข็งแรง ในงาดำ จะมาสารอาหารมากมายประกอบด้วย วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 วิตามินบี9 ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุโซเดียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุสังกะสี และธาตุเหล็ก

ลักษณะของต้นงาดำ

ต้นงาดำ เป็นพืชล้มลุก เป็นไม้เนื้ออ่อน มีขนาดเล็ก ลำต้นตั้งตรงถึงยอด ลำต้นเป็นสี่เหลี่ยมสีเขียวเข้มปนม่วง มีร่องตามยาวและมีขนปกคลุม อวบน้ำ สูงประมาณ 0.5-2 เมตร ใบมีลักษณะคล้ายกับใบหญ้างวงช้าง มีขนตลอดทั้งใบ เป็นใบเดียวรูปไข่ หรือรูปหอก ขอบใบเป็นจัก ใบมีสีเขียวอ่อนไปจนถึงเขียวเข้ม บางพันธุ์ใบอาจเป็นสีเหลือง ก้านใบยาว 5 เซนติเมตร ดอกเป็นดอกสมบูรณ์เพศ กลุ่มละ 1-3 ดอก ก้านดอกสั้น กลีบรองดอกมี 5 แฉก กลีบดอกมีสีขาว ขาวอมชมพู หรือม่วงอ่อน ผลหรือฝักขนาดค่อนข้างกลม รูปทรงกระบอกหรือแบน มีขนสั้น ๆ ปกคลุมรอบฝัก ปลายฝักมีจงอยแหลม เมล็ดมีรูปไข่ งาดำจะมีเมล็ดเป็นสีดำขนาดใหญ่กว่าเม็ดแมงลักเล็กน้อย ส่วนงาขาวจะมีสีนวล

คุณค่าทางโภชนาการของงาดำ

นักวิชาการได้ศึกษางาดำขนาด 100 กรัม พบว่า คุณค่าทางโภชนาการของงาดำต่อ 100 กรัม ให้พลังงาน 573 กิโลแคลอรี่ มีสารอาหารสำคัญ ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 23.45 กรัม กากใยอาหาร 11.8 กรัม โปรตีน 17.73 กรัม น้ำ 4.69 กรัม น้ำตาล 0.30 กรัมไขมันรวม 49.67 กรัม กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 18.759 กรัม กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 21.773 กรัม กรดไขมันอิ่มตัว 6.957 กรัม
กรดกลูตามิก 3.955 กรัม กรดแอสพาร์ติก 1.646 กรัม เมไธโอนีน 0.586 กรัม ทรีโอนีน 0.736 กรัม ซีสทีอีน 0.358 กรัม ซีรีน 0.967 กรัม ฟีนิลอะลานีน 0.940 กรัม อะลานีน 0.927 กรัม อาร์จินีน 2.630 กรัม โปรลีน 0.810 กรัม ไกลซีน 1.215 กรัม ฮิสทิดีน 0.522 กรัม ทริปโตเฟน 0.388 กรัม ไทโรซีน 0.743 กรัม วาลีน 0.990 กรัม ไอโซลิวซีน 0.763 กรัม ลิวซีน 1.358 กรัม ไลซีน 0.569 กรัม
ไฟโตสเตอรอล 714 มิลลิกรัม เบต้าแคโรทีน 5 ไมโครกรัม วิตามินเอ 9 มิลลิกรัม วิตามินอี 0.25 มิลลิกรัม วิตามินบี 1 0.791 มิลลิกรัม
วิตามินบี 2 0.247 มิลลิกรัม วิตามินบี 3 4.515 มิลลิกรัม วิตามินบี 5 0.050 มิลลิกรัม วิตามินบี 6 0.790 มิลลิกรัม วิตามินบี 9 97 ไมโครกรัม ธาตุแคลเซียม 975 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 14.55 มิลลิกรัม ธาตุซีลีเนียม 5.7 ไมโครกรัม ธาตุโซเดียม 11 มิลลิกรัม
ธาตุฟอสฟอรัส 629 มิลลิกรัม ธาตุสังกะสี 7.75 มิลลิกรัม ธาตุโพแทสเซียม 468 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 351 มิลลิกรัม
ธาตุแมงกานีส 2.460 มิลลิกรัม และธาตุทองแดง 4.082 มิลลิกรัม

สรรพคุณของงาดำ

สำหรับ สรรพคุณทางยาของงาดำ ประกอบด้วย ช่วยชะลอความแก่  ช่วยบำรุงผิว ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ช่วยซ่อมแซมผิวพรรณ ช่วยบำรุงรากผม ช่วยให้ผมดกเงางาม ช่วยป้องกันการเกิดผมหงอก ช่วยบำรุงกำลัง ช่วยสลายไขมัน ใช้ลดความอ้วน ช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลในร่างกาย ช่วยป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยบำรุงสมอง ช่วยบำรุงโลหิต ลดความดันโลหิต ช่วยขยายหลอดเลือด ช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว ช่วยให้นอนหลับสบาย  ป้องกันโรคหวัด ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ช่วยบำรุงกระดูก ช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน ป้องกันโรคท้องผูก ช่วยบรรเทาโรคริดสีดวงทวาร ช่วยป้องกันโรคข้อเสื่อม

ข้อควรระวังในการบริโภคงาดำ

  1. สำหรับคนที่ลดน้ำหนักโดยการกินงาดำ เนื่องจากงาดำมีน้ำหนักเบา ซึ่งทำให้น้ำหนักตัวลดมาก อาจไม่ดีต่อสุขภาพ
  2. การบริโภคเมล็ดงาดำ มากเกินไปทำให้ลำไส้ใหญ่ถูกทำลายได้ และเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
  3. เมล็ดงา ทำให้ลำไส้ใหญ่อักเสบได้ และอาจทำให้ท้องผูก ปวดท้องได้
  4. อาการแพ้งาดำ ในการบริโภคงาดำสามารถทำให้แพ้ได้ อาการการแพงงาดำ เช่น ระบบย่อยอาหารผิดปกติ ตาอักเสบ น้ำมูกไหล หายใจลำบาก เป็นต้น หรือบางรายมีอาการแพ้อย่างรุนแรง คือ หอบ ความดันโลหิตต่ำ รู้สึกแน่นหน้าอก และทางเดินหายใจตีบตัน อาจเสียชีวิตได้ในที่สุด
  5. การบริโภคงาดำมากเกินไปอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่ไส้ติ่งได้
  6. คุณสมบัติหนึ่งของาดำคือ เป็นยาระบาย ซึ่งถ้าบริโภคมากเกินไปจะทำให้มีการถ่ายท้องมากเกินไป
  7. งาดำมีสรรพคุณในการบำรุงผม แต่ถ้าหากใช้มากเกินไป จะทำให้ผมร่วงได้
  8. ในสตรีมีครรภ์ ช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ไม่ควรรับประทานงาดำ อาจทำให้แท้งบุตรได้

ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove