ถั่งเฉ่า เห็ดถั่งเช่า ตังถั่งเช่า หญ้าหนอน ( chong cao ) สมุนไพรเมืองหนาว ประโยชน์และสรรพคุณเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ บำรุงกำลัง ข้อควรระวังในการกินถั่งเช่ามีอะไรบ้างถั่งเช่า สมุนไพร สมุนไพรเพิ่มสมรรถาพทางเพศ ทำให้หำแข็งนาน

ถั่งเช่า ถั่งเฉ่า ตังถั่งแห่เช่า เห็ดถั่งเช่า ตังถั่งเช่า หรือ หญ้าหนอน คือ สมุนไพรตัวเดียวกัน เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณในเรื่องรเพิ่ม สมรรถภาพทางเพศ บำรุงกำลังและเชื่อว่ารักษามะเร็ง สมุนไพรชนิดนี้ มีอยู่ในประเทศจีน พบที่ทิเบต มณฑลชิงไห่ มณฑลเสฉวน มณฑลกานซู มณฑลยุนนาน และแทบเทือกเขาหิมาลัย สมุนไพรถั่งเช่า นั้นมีกลิ่นหอม รสขมอมหวาน ช่วยบำรุงปอดและบำรุงไต รักษาอาการอ่อนเพลีย

ถั่งเช่า ภาษาอังกฤษ เรียก chong cao  ตังถั่งเช่า หรือ ตังถั่งแห่เช่า(dong chong xia cao) นั้นมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Ophiocordyceps sinensis มีความหมายว่า “หญ้าหนอน” หรือ “ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า” สมุนไพรชนิดนี้ดูคล้ายตัวหนอนขนาดเล็ก ถั่งเช่า นั้นเป็นเห็ดชนิดหนึ่ง ที่ชอบอาการหนาว เป็นปรสิตที่อาศัยอยู่ในตัวอ่อนของหนอนชนิดหนึ่ง เมื่อถึงฤดูร้อนหนอนจะตาย และเกิดเห็ดรางอกออกจากตัวหนอน เราจึงเรียก “ถั่งเช่า” หรือ “เห็ดถั่งเช่า”

ถั่งเช่าในประเทศไทย

สำหรับถั่งเช่าในประเทศไทย มีการศึกษาและวิจัยมาสักระยะหนึ่งแล้ว มีการอบรมเกี่ยวกับการเพาะถั่งเช่า เป็นถั่งเช่าสีทอง ถั่งเช่าสายพันธ์ไทย พันธุ์ Cordyceps sinensis (cs-4) เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความต้องการของตลาดสูง ถั่งเช่าไทยสามารถเพาะได้ในแลป ระบบปิด ควบคุมอุณหภูมิ

คุณสมบัติของถั่งเช่าไทย

ถั่งเช่าสีอง เป็นสายพันธ์ไทย ที่เพาะได้ในประเทศไทย และ ได้รับการส่งเสริมจากหน่วยงานของรัฐ และมหาวิทยาลัย ที่ทำการวิจัยด้านนี้ ซึ่งคุณสมบัติของถั่งเช่าไทย มีดังนี้

  • สามารถเพาะได้ในแลป ที่มีระบบปิด ควบคุมอุณหภูมิ เท่านั้น
  • มีสาร cordycipin มากกว่าถั่งเช่าทิเบต

สมุนไพรจีนถั่งเช่า เป็นสมุนไพรที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจสูง ราคาขายกิโลกรัมละ 250,000 บาท หากเป็นถั่งเช่าเกรดเอแล้ว ราคาของถั่วเช่า สามารถสูงถึง 2 ล้านบาทได้ หญ้าหนอนหรือตังถั่งเช่า หายาก มีการศึกษาวิจัยสมุนไพรตังถั่งเช่า พบว่า สามารถช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงหลอดเลือด และช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศสำหรับผู้ชายได้ เป็นยาไวอกร้าจากธรรมชาติ ถั่งเช่ามีผลต่อ ผู้สูงวัยที่มีภาวะความดันโลหิตสูง หรือโรคเบาหวาน เนื่องจากสมุนไพรชนิดนี้จะทำให้ร่างกายร้อนและเพิ่มความดันโลหิต ควรระมัดระวังการใช้

ประโยชน์ของถั่งเช่า

หากนำมาใช้ประโยชน์จะเหมาะกับผู้ที่อาการภูมิแพ้ หอบหืด โรคปอด มะเร็งปอด วัณโรค หลอดลมตีบ โรคหัวใจ โรคตับ โรคสมอง ถั่งเช่าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและการทำงานของปอด ลดอาการอักเสบในเยื่อบุโพรงจมูก ผนังหลอดลม เพิ่มออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง ช่วยลดอาการโรคอัลไซเมอร์ ช่วยลดอาการโรคพาร์กินสัน ชะลอความแก่

การศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของถั่งเช่า พบว่าในถั่งเช่า มีสารอาหารที่มีประโชน์ต่อร่างกาย ถึง 5 ชนิด คือ

  1. สารคอร์ไดเซปิน ( Cardycepin ) สารชนิดนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการไหลเวียนของระบบโลหิต ต้านเชื้อแบคทีเรีย บำรุงระบบการทำงานของไตและปอด ช่วยบรรเทาอาการไตอักเสบ รักษาโรคนิ่วในไต
  2. กรดคอร์ไดเซปิก ( Cordycepic acid ) กรดชนิดนี้ช่วยกระตุ้นกระบวนการเมตาบอริซิม ( Metabolism ) ช่วยเพิ่มพลัง ชะลออาการเลือดออกในสมอง โรคหัวใจขาดเลือด และโรคหอบหืด
  3. สารสเตรอล ( sterol ) สารชนิดนี้ช่วยป้องกันไตอักเสบเรื้อรังได้ ป้องกันโรคหอบหืด และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจ
  4. โปรตีน กรดอะมิโน และวิตามินอี วิตามินเค วิตามินบี1 วิตามินบี2 และวิตามินบี12
  5. สารโพลีแซคคาไรด์ ( Polysacharide ) เป็นสารที่ช่วยต้านและยับยั้งเซลล์มะเร็ง ช่วยบรรเทาอาการแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน ลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยรักษาสมดุลของระบบประสาท รักษาสมดุลของระบบฮอร์โมนและภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  6. มีสารไนตริกออกไซด์ ( Nitric Oxide ) ช่วยสมรรถภาพทางเพศ เพิ่มจำนวนเชื้ออสุจิ และทำให้อสุจิแข็งแรง เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต

สรรพคุณของถั่งเช่า 

ถั่งเช่ามีสรรพคุณ ช่วยบำรุงร่างกาย เพิ่มภูมิต้านทานโรค แก้อาการอ่อนเพลีย ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่ ช่วยระงับประสาท ช่วยเพิ่มความจำ ป้องกันโรคความจำเสื่อม ช่วยลดการตายของเซลล์สมอง ช่วยบำรุงหลอดเลือด ช่วยบำรุงปอด ช่วยบรรเทาการเจ็บหน้าอก ช่วยแก้อาการไอเรื้อรัง รักษาถุงลมโป่งพอง รักษาโรคหลอดลมอักเสบ รักษาโรคหอบหืด รักษาวัณโรค ช่วยละลายเสมหะ ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยรักษาเบาหวาน ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือด ช่วยขยายหลอดเลือด เพิ่มระดับออกซิเจนในเลือด ช่วยบำรุงตับ บำรุงไต ช่วยลดการอักเสบ ช่วยห้ามเลือด ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ ช่วยให้อสุจิแข็งแรง

ข้อควรระวังในการบริโภคถั่งเช่า

  • ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับยาลดน้ำตาลในเลือด
  • ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับยาป้องกันการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด
  • ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ( immunosuppressive )
  • ไม่แนะนำให้ใช้ในหญิงมีครรภ์ หญิงระยะให้นมบุตร และในเด็ก เพราะยังมีข้อมูลมาเพียงพอ

ถั่งเฉ่า ตังถั่งแห่เช่า เห็ดถั่งเช่า ตังถั่งเช่า หญ้าหนอน ( chong cao ) สมุนไพร ประโยชน์ของถั่งเช่า สรรพคุณของถั่งเช่า เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ บำรุงกำลัง ถั่งเช่า รสขมอมหวาน พบแถบเทือกเขาหิมาลัย ข้อควรระวังในการกินถั่งเช่า โทษของถั่งเช่า มีอะไรบ้าง

กรดไหลย้อน น้ำย่อยไหลย้อนเข้าสู่หลอดอาหาร ทำให้หลอดอาหารอักเสบ จุกเสียด แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก กลืนลำบาก เจ็บคอเวลากลืนอาหาร คลื่นไส้ เรอ กรดไหลย้อนรักษาอย่างไรโรคกรดไหลย้อน โรคระบบทางเดินอาหาร โรคระบบทางเดินหายใจ โรคไม่ติดต่อ

กรดไหลย้อน โรคในระบบทางเดินอาหาร ที่ใครๆคุ้นหู วันนี้เรามาเล่า เรื่องเกี่ยวกับโรคกรดไหลย้อน ให้ฟังกันว่า เป็นอย่างไร สาเหตุของโรค อาการโรคกรดไหลย้อน การรักษาโรคกรดไหลย้อน ทำอย่างไร โรคของคนรุ่นใหม่ อธิบายถึงอาการของกรดไหลย้อน วิธีการดูแลรักษาตัวเองให้ปลอดภัยจากโรคกรดไหลย้อน  การดูแลและรักษาผู้ที่มีภาวะกรดไหลย้อนหากมีอาการแสบร้อนกลางอกและมีน้ำรสเปรี้ยวหรือรสขม กลืนลำบาก หายใจไม่อิ่ม ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน

โรคกรดไหลย้อน ภาษาอังกฤษ เรียก Gastro Esphageal Reflux เรียกย่อๆ ว่า GERD โรคนี้ เรียก ว่า โรคการไหลย้อนจากกระเพาะอาหารมาหลอดอาหาร  โรคกรดไหลย้อน หมายถึง ภาวะของน้ำย่อยที่มีฤทธ์เป็นกรดที่อยู่ในกระเพาะอาหาร ไหลย้อนเข้าสู่หลอดอาหาร เมื่อกรดเข้าสู่หลอดอาหารจะทำให้เกิดอาการอักเสบ

โดยปรกติแล้วหลอดอาหารจะมีการบีบตัวเพื่อไล่อาหารลงด้านล่างและมีหูรูด ที่ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้น้ำย่อยไหลย้อนกลับมา เมื่อหูรูดประสิทธิภาพการทำงานน้อยลง ทำให้กรดไหลย้อนกลับเข้าสู่หลอดอาหาร โรคกรดไหลย้อนนี้ สามารถพบได้กับคนทุก ช่วงอายุ ทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งจากสถิติพบว่า มีคนเป็นโรคนี้ร้อยละ 20 และสามารถพบว่าผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคนี้ คือ คนอ้วนและคนสูบบุหรี่ โรคกรดไหลย้อนสามารถส่งผลเสียต่อ กล่องเสียง ลำคอ และปอดได้ ในกรณีที่มีอาการเรื้อรังมีโอกาสเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้ โรคกรดไหลย้อน สามารถแบ่งระดับของโรคได้ 3 ระยะ คือ ระยะแรก ระยะที่สองและระยะที่สาม รายละเอียด ดังนี้

  1. โรคกรดไหลย้อน ระยะแรก เรียก Gastro Esophageal Reflux เรียกย่อว่า GER ในระยะนี้ ผู้ป่วยเป็นๆหายๆ อาการไม่รุนแรง ไม่มีผลต่อสุขภาพ
  2. โรคกรดไหลย้อน ระยะที่สอง เรียก Gastro Esophageal Reflux Disease เรียกย่อว่า GERD ในระยะนี้ ผู้ป่วยจะมีอาการมากขึ้น โดยเฉพาะอาการที่หลอดอาหาร
  3. โรคกรดไหลย้อน ระยะที่สาม เรียก Laryngo Pharyngeal Reflux เรียกย่อว่า LPR ในระยะนี้ผู้ป่วยจะมีกรดไหลย้อนจากกระเพาะอาหารมาก จนถึงกล่องเสียงและหลอดลม

สาเหตุของการเกิดโรคกรดไหลย้อน

โรคกรดไหลย้อน เป็น ความผิดปรกติของระบบทางเดินอาหาร ในส่วน หูรูดของหลอดอาหาร ที่อยู่ระหว่างรอยต่อระหว่างหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร ซึ่ง สาเหตุหลักของการเกิดโรคกรดไหลย้อน เกิดจากปัจจัยต่างๆ ประกอบด้วย

  • นอนหลังจากกินอาหารไม่ถึง 4 ชั่วโมง เนื่องจากการย่อยยังไม่เสร็จ เมื่อนอนก็เกิดการย้อยกลับของอาหารเข้าสู่หลอดอาหาร
  • เกิดจากกระเพาะอาหารส่วนต้น ยื่นเข้าไปกะบังลม
  • การสูบบุหรี่
  • การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์
  • การดื่มน้ำอัดลม
  • การรับประทานอาหารทอด ของมัน หรืออาหารรสเปรี้ยวหรือเผ็ดจัด

อาการของผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน

อาการของผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน จะมีอาการ เสียงแหบ ซึ่งเป็นอาการแหบที่มากกว่าปกติ แต่ผู้ป่วยไม่ได้เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดอาหาร มีอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณหน้าอก เนื่องจากกรดเข้าไปทำให้หลอดอาหารอักเสบ มีอาการจุกเสียด และแน่นหน้าอก หายใจไม่ออกเวลานอน กลืนอาหารลำบาก เจ็บคอเวลากลืนอาหาร คลื่นไส้ มีอาการเรอ ซึ่งการเรอนั้นจะมีกลิ่นเปรี้ยวและรสขม

การรักษาโรคกรดไหลย้อน
การรักษาโรคกรดไหลย้อนนั้น สามารถทำการรักษาโดยการใช้ยารักษา การผ่าตัดและการปรับพฤติกรรมส่วนตัว โดยรายละเอียดดังนี้

  1. การรักษาโรคกรดไหย้อนโดยใช้ยา ซึ่งวิธีนี้จะได้ผลดีที่สุด เมื่อเกิดอาการอักเสบที่ของหลอดอาหาร ดดยใช้ยาลดกรด ใช้สำหรับผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง การใช้ยานั้นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
  2. การรักษาโรคกรดไหลย้อนโดยการผ่าตัด เป็นการผ่าตัดผูกหูรูดกระเพาะอาหาร เพื่อป้องกันอาการกรดไหลย้อน วิธีนี้จะใช้รักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง
  3. การรักษาโดยการปรับพฤติกรรม เป็นวิธีการรักษาที่ยั่งยืนที่สุด ซึ่งพฤติกรรมใดๆที่มีส่วนทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อนให้เลิกกระทำทั้งหมด เช่น การทานอาหารมากเกินไป การนอนหลังจากรับประทานอาหารเลย การกินอาหารที่มีรสจัด การปรับท่านอน เลิกสูบบุหรี่ และดื่มสุรา เป็นต้น

วิธีบรรเทาอาการโรคกรดไหลย้อน

  • ลดความอ้วน เนื่องจากไขมันในช่องท้องและไขมันรอบพุง มีส่วนเพิ่มแรงดันในช่องท้อง ทำให้กรดไหลย้อนได้ง่าย
  • ลดเครียด เนื่องจาก ความเครียดจะทำให้เกิดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหามากขึ้นได้
  • เลิกบุหรี่ เนื่องจากบุหรี่สามารถเพิ่มการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารได้
  • ไม่สวมเสื้อผ้าที่รัดเกินไป การใส่เสื้อผ้ารัดมากจะช่วยให้การบีบรัดตัวของดันของกระเพาะอาหารมากขึ้น
  • ระวังเรื่องท้องผูก การถ่ายอุจจาระในขณะเกิดภาวะท้องผูกจะเพิ่มแรงดันในกระเพาอาหาร
  • ระวังเรื่องการไอ เนื่องจากการไปจะทำให้ช่องท้องเกรงเพิ่มแรงดันที่ช่องท้อง
  • ไม่รับประทานอาหารอิ่มเกิน เนื่องจาก อาหาร น้ำ และลมในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้นมาก
  • รับประทานอาหารในมิ้อค่ำ ให้น้อยลง
  • ไม่ยกของหนัก การยกของหนักทำให้เกิดการเกร็งที่ลำตัว เพิ่มการบีบรัดของกระเพาอาหาร
  • ลดการดื่มน้ำอัดลม
  • ปรับท่านอนให้หัวสูงขึ้นลำตัวลาดลง ช่วยลดการไหลย้อนของกรดในกระเพาะอาหาร

ข้อปฏิบัติต่างๆเหล่านี้ สามารถช่วยให้บรรเทาการเกิดโรคกรดไหลย้อนได้ ซึ่งจากรายละเอียดที่กล่าวมา ปัญหาของโรคกรดไหลย้อนเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม เมื่อเกิดอาการผิดปรกติแล้วก็ต้องดูแลตัวเองให้หายจากโรคกรดไหลย้อน ซึ่งการรักษานั้น ต้องใช้เวลานาน ค่อยเป็นค่อยไป

โรคกรดไหลย้อน ภาวะน้ำย่อยไหลย้อนเข้าสู่หลอดอาหาร ทำให้หลอดอาหารอักเสบ จุกเสียด แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก กลืนลำบาก เจ็บคอเวลากลืนอาหาร คลื่นไส้ เรอ กรดไหลย้อน โรคระบบทางเดินอาหาร สาเหตุของโรค อาการโรคกรดไหลย้อน การรักษาและดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคกรดไหลย้อน