หญ้าคา พืชเศรษฐกิจพอเพียง ต้นหญ้าคาเป็นอย่างไร สรรพคุณลดความดันโลหิต บำรุงสมอง เพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกาย ขับปัสาวะ แก้ร้อนใน บำรุงไต แก้อ่อนเพลีย ช่วยเจริญอาหารหญ้าคา ต้นหญ้า สมุนไพร สรรพคุณของหญ้าคา

ต้นหญ้าคา มีชื่อเรียก ในแต่ละท้องถิ่น เช่น คาหลวง คา ลาลาง เก้อฮี ชื่อเรียกจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละท้องถิ่น หญ้าคาชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Imperata cylindrica (L.) P.Beauv  ชื่อเรียกอื่นๆของหญ้าคา เช่น สาแล  กะหี่  บร่อง ทรูล ลาลาง ลาแล แปะเม่ากึง เตี่ยมเซากึง คา แฝกคา ลาแล เก้อฮี เป็นต้น หญ้าคา เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในตระกูลหญ้า สูงประมาณ ๕๐-๑๐๐ เซนติเมตร

ลักษณะของหญ้าคา

หญ้าคา เป็นพืช ที่มีเหง้าสีขาวอยู่ใต้ดิน เป็นพืชที่ทนต่อแสงแดดและความร้อนได้ดี และเจริญเติบโตไว ขยายพันธุ์โดยวิธีการใช้เมล็ดและเหง้า พบเห็นทั่วไปตามท้องไร่นา และตามพื้นที่ป่า

  • ลำต้นหญ้าคา ลักษณะลำต้นเป็นทรงกลมเรียวยาวขนาดเล็ก ลำต้นสูงประมาณ 20 เซนติเมตร จะมีกาบใบหุ้มอยู่ ริมของใบหญ้าจะมีขน
  • ใบหญ้าคา ใบแบนมีลักษณะเป็นขนกระจุก เป็นเส้นตรงยาว และขอบใบมีลักษณะคมกริบ
  • ดอกหญ้าคา ดอกสีขาวอมเหลือง หรือในบางทีจะพบเป็นสีม่วง ออกดอกเป็นช่อก้านยาวสีขาว คล้ายหางกระรอก

สรรพคุณของหญ้าคา

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า ที่รากของหญ้าคามีสารสำคัญอยู่ 5 ชนิด คือ ฟินอลิก (phenolic compounds) โครโมน (chrmones) ไตรเตอร์ปินอยด์ (triterpenoid) เซสควิทเตอร์ปินอยด์ (sesquiterpenoids) และ โพลีแซคคาไรด์ ซึ่งมีสรรพคุณทางยาในการ ต้านอาการอักเสบ ต้านเลือดเหนียว ขยายหลอดเลือด ลดความดันโลหิต บำรุงสมอง เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และต้านเชื้อโรคจุลชีพที่ทำให้เกิดโรค

การนำหญ้าคามาใช้ประโยชน์ในแพทย์แผนโบราณ

นำหญ้าคาแห้ง 1 กำมือ มาบดเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นนำไปต้มน้ำ และกรองเอาแต่น้ำ นำมาดื่มก่อนอาหาร 1 ถ้วยน้ำชา จะช่วยขับปัสสาวะ แก้ร้อนใน แก้กระหายน้ำ ช่วยรักษาการอักเสบที่ทางเดินปัสสาวะ บำรุงไต แก้โรคดีซ่าน แก้อ่อนเพลีย ช่วยเจริญอาหาร ช่วยขับปัสสาวะ แก้ร้อนใน แก้กระหายน้ำ ช่วยรักษาการอักเสบที่ทางเดินปัสสาวะ บำรุงไต แก้โรคดีซ่าน แก้อ่อนเพลีย ช่วยเจริญอาหาร

โทษของหญ้าคา

  1. หน่อของหญ้าคาแหลมคมมาก ถ้าเดินเข้าไปโดยไม่ระมัดระวัง จะทิ่มแทงฝ่าเท้า ทำให้เกิดความเจ็บปวดได้
  2. สามารถขึ้นได้ตามพื้นที่รกกร้าง ไร่หรือท้องนา ทำให้ชาวไร่ชาวนาส่วนมากไม่ค่อยชอบ
  3. เมื่อนำไปมุงหลังคาบ้าน หรือกระท่อม ไม่ค่อยทนทาน และถ้าดูแลไม่ดี อาจจะเกิดอัคคีภัย ก่อให้เกิดความเสียหาย แก่ทรัพย์สินได้

หญ้าคา สมุนไพร พืชเศรษฐกิจพอเพียง ลักษณะของต้นหญ้าคา สรรพคุณของหญ้าคา ต้านอาการอักเสบ ต้านเลือดเหนียว ขยายหลอดเลือด ลดความดันโลหิต บำรุงสมอง เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย  ช่วยขับปัสาวะ และต้านเชื้อโรคจุลชีพ ช่วยขับปัสสาวะ แก้ร้อนใน แก้กระหายน้ำ ช่วยรักษาการอักเสบที่ทางเดินปัสสาวะ บำรุงไต แก้โรคดีซ่าน แก้อ่อนเพลีย ช่วยเจริญอาหาร  บำรุงเลือด

Beezab.com แหล่งความรู้ด้านสุขภาพ สมุนไพร โรค แม่และเด็ก อาหารเพื่อสุขภาพ โยคะ ธรรมะครูบาอาจารย์ ดูแลตัวเองเบื้องต้นด้วยข้อมูลดีๆ เนื้อหาในเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อการศึกษาหรือเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเท่านั้น เราไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือ การรักษาโรคแต่อย่างใด หากคุณมีอาการเจ็บป่วยหรือรู้สึกไม่สบาย ควรคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานของเรา

Beezab.com source of health knowledge, herbsdiseasesmothers and childrenhealthy foodyoga and Dhamma.  The content on this page is for educational purposes only. We are not intended to be a substitute for medical advice. Diagnosis of disease or treatment of disease in any way If you are sick, You should consult a doctor.

สะเดา Siamese neem tree ผักพื้นบ้าน สมุนไพรมีรสขม สรรพคุณดูแลช่องปาก เหงือกและฟัน ช่วยถ่ายพยาธิ รักษาโรคผิวหนัง ลดความดัน ลดไข้ แก้อ่อนเพลีย ช่วยเจริญอาหาร

สะเดา สมุนไพร สรรพคุณของสะเดา

ต้นสะเดาในประเทศไทย เราพบว่า สะเดาสามารถการกระจายพันธุ์อยู่ตามธรรมชาติตามป่าเบญจพรรณและป่าแดง ทั่วประเทศ  นอกจากนี้ยังสามารถพบสะเดาได้ตามป่าแล้งในประเทอินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า ปากีสถานและศรีลังกา

ต้นสะเดา ภาษาอังกฤษ เรียก Siamese neem tree. มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Azadirachta indica A. Juss. Var. siamensis Veleton. ชื่ออื่นๆของสะเดา เช่น สะเลียม กะเดา จะตัง สะเดาบ้าน เดา กระเดา จะดัง จะตัง ผักสะเลม ลำต๋าว สะเรียม ตะหม่าเหมาะ ควินิน สะเดาอินเดีย ไม้เดา เป็นต้น

ลักษณะของต้นสะเดา

ต้นสะเดา เป็นไม้ยืนต้น มีความสูงประมาณ 7 เมตร ใบของสะเดาเป็นแบบขนนก เรียงสลับใบ ยอดอ่อนของใบมีสีน้ำตาลอมแดง ดอกของสะเดา จะออกบริเวณปลายของกิ่ง และจะดอกสะเดาจะออกเมื่อใบของสะเดาแก่และร่วงไป ดอกสะเดามีกลีบดอกสีขาวและมีกลิ่นหอม ผลของสะเดา มีลักษณะเป็นรูปรี กลม

คุณค่าทางโภชนาการของสะเดา

นักโภชนาการได้ศึกษา คุณค่าทางอาหารของสะเดา พบว่า ยอดสะเดา 100 กรัม ให้พลังงานต่อร่างกาย 76 กิโลแคลอรี ซึ่มประกอบไปด้วยน้ำ 77.9 กรัม แคลเซี่ยม 354 มิลลิกรัม โปรตีน 5.4 กรัม ฟอสฟอรัส 26 มิลลิกรัม คาร์โบไฮเดรต 12.5 กรัม ไขมัน 0.5 กรัม กากใยอาหาร 2.2 กรัม ธาตุเหล็ก 4.6 มิลลิกรัม วิตามินซี 194 มิลลิกรัม วิตามินบีหนึ่ง 0.06 มิลลิกรัม เบต้า-แคโรทีน 3611 ไมโครกรัม วิตามินบีสอง 0.07 มิลลิกรัม ในสะเดาพบว่ามีสารสำคัญที่มีประโยชน์ เช่น ในใบสะเดามี quercetin และสารพวก limonoid ได้แก่ nimbolide และ nimbic acid ในเมล็ดสะเดามี Azadirachtin ประมาณ 0.4-1% ในเปลือกต้นสะเดามีสาร nimbin และ desacetylnimbin

สรรพคุณทางสมุนไพรของสะเดา

สามารถนำส่วนต่างๆมาใช้ประโยชน์ได้ เช่น ยอดอ่อน ขนอ่อน เปลือกต้น ก้ายใบ กระพี้ ยาง แก่น ราก ใบ ผล เมล็ด รายละเอียด ของ สรรพคุณของสะเดา มีดังนี้

  • ดอกสะเดาและยอดอ่อนสะเดา สามารถใช้ แก้พิษโลหิต หยุดเลือดกำเดา รักษาริดสีดวงในลำคอ บำรุงธาตุ ช่วยขับลม
  • ขนอ่อนสะเดา สามารถใช้ถ่ายพยาธิ แก้ริดสีดวง แก้ปัสสาวะพิการ
  • เปลือกต้นสะเดา ใช้ลดไข้ ช่วยเจริญอาหาร แก้ท้องเดิน
  • ก้านใบสะเดา สามารถใช้ลดไข้ นำมาทำเป็นยารักษาโรคมาลาเรีย
  • กระพี้ สามารถใช้รักษาถุงน้ำดีอักเสบ
  • ยางของต้นสะเดา ใช้ในการดับพิษร้อน
  • แก่นสะเดา รักษาอาการแก้อาเจียน ช่วยขับเสมหะ
  • รากสะเดา สามารถนำมาใช้รักษาโรคผิวหนัง ขับเสมหะ
  • ใบสะเดา และผลสะเดา สามารถใช้ทำเป็นยาฆ่าแมลง และบำรุงธาตุ
  • ผลของสะเดา จะมีรสขม นิยมนำมาใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ เป็นยาระบาย รักษาโรคหัวใจเดินผิดปกติ
  • เปลือกของรากสะเดา จะมีรสฝาด ใช้ลดไข้ ทำให้อาเจียน และใช่รักษาโรคผิวหนัง
  • เมล็ดสะเดา สามารถนำมาสกัดน้ำมัน และสามารถใช้รักษาโรคผิวหนัง และทำเป็นยาฆ่าแมลง

ข้อควรระวังในการบริโภคสะเดา

  1. ห้ามบริโภคสะเดาในคนที่มีความดันต่ำ เนื่องจากสะเดามีฤทธ์ให้ความดันโลหิตต่ำลง
  2. สะเดา เป็น ยาเย็น มีรสขมอาจทำให้ท้องอืด เกิดลมในกระเพาะได้
  3. ในสตรีหลังคลอด ไม่ควรรับประทาน เพราะจะทำให้น้ำนมแห้ง

การปลูกสะเดา

สามารถปลูกได้ในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน และก่อนปลูกควรไถพรวนแปลงอีกรอบ และตากดินนาน 3-5 วัน วิธีการปลูก เตรียมต้นกล้าสำหรับปลูกที่มีอายุ 3-5 เดือน และมีความสูงประมาณ 20 เซ็นติเมตร จากนั้นนำลงแปลงปลูก ขุดหลุมในระยะระหว่างหลุมประมาณ 3 เมตร ควรให้ขนานกับแนวของดวงอาทิตย์ในทิศตะวันออก-ตะวันตก เพื่อให้ต้นสะเดาสามารถรับแสงได้อย่างทั่วถึง


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove