ยอ สมุนไพรไทย ต้นยอเป็นอย่างไร สรรพคุณของลูกยอ เช่น แก้อาเจียน ช่วยขับลม ช่วยย่อยอาหาร คุณค่าทางโภชนาการของลูกยอ ลูกยอเป็นอันตรายกับคนท้อง ทำให้แท้งลูกได้

ลูกยอ สรรพคุณของลูกยอ สมุนไพร สมุนไพรไทย

ต้นยอ ภาษาอังกฤษ เรียก Great morinda , Tahitian noni , Indian mulberry , Beach mulberry ชื่อวิทยาศาสตร์ของต้นยอ คือ Morinda citrifolia L. สำหรับชื่อเรียกอื่นๆของต้นยอ เช่น แย่ใหญ่ ตาเสือ มะตาเสือ ยอบ้าน เป็นต้น ต้นยอ เป็นพืชพื้นเมืองของประเทศแถบโพลีนีเซียตอนใต้ ( Polynesia ) ซึ่งพบได้ทั่วไป ผลยอมีรสชาติเผ็ดร้อนและมีกลิ่นแรง

ลูกยอ มีสารอาหารต่างๆหลากหลาย อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ผลลูกยอมีสารอาหารประกอบไปด้วย คาร์โบไฮเดรต กากใยอาหาร วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี3 ธาตุแคลเซียม ธาตุเหล็ก ธาตุโพแทสเซียม ธาตุโซเดียม กรดไขมัน ลิกนิน พอลิแซ็กคาไรด์ ฟลาโอนอยด์ อีริดอยด์ สโครโปเลติน แอลคาลอยด์ เป็นต้น ซึ่งในทางการแพทย์แผนไทย นิยมใช้ในการรักษาอาการคลื่นไส้อาเจียน ช่วยขับลม และ ช่วยย่อยอาหาร แต่เป็นอันตรายสำหรับสตรีมีครรภ์ อาจทำให้แท้งลูกได้

สายพันธุ์ต้นยอ

สำหรับต้นยอ สามารถแบ่งได้ เป็น 3 สายพันธุ์ ประกอบด้วย citrifolia  , bracteata และ cultivar potteri  รายละเอียด ดังนี้

  • citrifolia พบได้บริเวณหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น ฮาวาย ตาฮิติ เป็นต้นสายพันธุ์นี้ลักษณะของผลมีหลายขนาด
  • bracteata พบมากในทวีปเอเชียและหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งลักษณะของลูกยอสายพันธุ์นี้มีผลขนาดเล็ก
  • cultivar potteri พบทั่วไปตามหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งสายพันธุ์นี้มีใบเป็นสีเขียวและสีขาว

ลักษณะของต้นยอ

ต้นยอ เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ลักษณะของผลยอ มีเอกลักษณ์และลักษณะที่ไม่เหมือนใคร ลักษณะของต้นยอ มีดังนี้

  • ลำต้นยอ ความสูงของต้นยอประมาณ 5 เมตร เปลือกของลำต้นบางติดกับเนื้อไม้ เปลือกของลำต้นสีเหลืองนวล หยาบและสากเล็กน้อย
  • ใบยอ ลักษณะเป็นใบเดี่ยว ซึ่งใบจะแทงออกตรงข้ามกันตามกิ่ง ใบเป็นทรงรี ใบอ่อนมีสีเขียวสด ใบแก่สีเขียวเข้ม ปลายใบแหลม ผิวใบเป็นมัน ลักษณะเป็นคลื่น
  • ดอกยอ ลักษณะดอกเป็นช่อเดี่ยว กลีบดอกสีขาว ลักษณะเป็นหลอด ดอกยอจะแทงออกตามง่ามใบ ผิวดอกด้านนอกเรียบ ส่วนผิวดอกด้านในมีขน
  • ผลยอ ลักษณะกลมรี มีตุ่มทั่วผล ผลอ่อนมีสีเขียวสด ผลแก่เป็นสีเหลืองอมเขียว ภายในลูกยอมีเมล็ดมีจำนวนมาก ซึ่งลักษณะของเมล็ดยอ ลักษณะแบน สีน้ำตาลเข้ม

คุณค่าทางโภชนาการของยอ

สำหรับสารอาหารต่างๆที่มีประโยชน์ของยอ ใช้ประโยชน์จากลูกยอและใบยอ ลูกยอสุก สามารถรับประทานได้ กินกับเกลือ หรือ กะปิ สามารนำมาคั้นน้ำลูกยอ ใช้ดื่มเป็นยาลดความดันโลหิต ส่วนใบอ่อนยอ สามารถรับประทานเป็นผักสด โดยใบอ่อนยอนำมาลวกกินกับน้ำพริก ต้มแกงจืด ทำแกงอ่อม เป็นต้น ลูกยอ มีสารเคมีหลายชนิด เช่น ลิกนัน โพลีแซคคาไรด์ ฟลาโอนอยด์ อีริดอยด์ กรดไขมัน สโคโปเลติน และ อัลคาลอยด์ เป็นต้น

คุณค่าทางโภชนาการของใบยออ่อน ขนาด 100 กรัม มีสารอาหารสำคัญประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 11.1 กรัม โปรตีน 3.8 กรัม ไขมัน 0.8 กรัม กากใยอาหาร 1.9 กรัม แคลเซียม 350 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 86 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 4.9 มิลลิกรัม วิตามินเอ 9,164 หน่วยสากล วิตามินบี1 0.3 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.14มิลลิกรัม และ วิตามินซี 78 มิลลิกรัม

คุณค่าทางโภชนาการของผลยอดิบ ขนาด 100 กรัม มีสารอาหารสำคัญประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 7.5 กรัม โปรตีน 0.5 กรัม กากใยอาหาร 1.1 กรัม แคลเซียม 39 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 17 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 0.4 มิลลิกรัม วิตามินบี1 0.06 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.04มิลลิกรัม และ วิตามินซี 208 มิลลิกรัม

สรรพคุณของยอ

สำหรับการใช้ประโยชน์จากยอ ด้านการบำรุงร่างกายและการรักษาโรค สามารถใช้ประโยชน์ได้จาก ใบยอ ผลยอ รากยอ และ น้ำมันสกัดจากเมล็ดยอ สรรพคุณของยอ มีดังนี้

  • ผลยอ สรรพคุณช่วยชะลอวัย ช่วยบำรุงผิวพรรณ บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ช่วยลดความดัน ช่วยขยายหลอดเลือด รักษาวัณโรค ช่วยขับสารพิษในร่างกาย ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ข่วยผ่อนคลาย บำรุงธาตุไฟ ช่วยเจริญอาหาร ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี บำรุงสมอง รักษาสิวแก้เวียนหัว รักษาแผลในปาก แก้เจ็บคอ แก้ปวดฟัน แก้คลื่นไส้อาเจียน ช่วยขับเสมหะ ช่วยขับลม แก้ท้องอืด แก้ท้องร่วง ช่วยขับพยาธิ ช่วยขับประจำเดือน รักษาแผล
  • น้ำลูกยอ สรรพคุณช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ ช่วยขยายหลอดเลือด ช่วยลดความดัน
  • ใบยอ สรรพคุณช่วยรักษาเบาหวาน ช่วยลดความดัน รักษาวัณโรค แก้กระษัย แก้เบื่ออาหาร บำรุงสายตา รักษาโรคมาลาเรีย แก้ปวดหัว รักษาแผล แก้ปวดตามข้อกระดูก กำจัดเหา
  • ลำต้นยอ สรรพคุณช่วยลดความดัน รักษาโรคดีซ่าน
  • รากยอ สรรพคุณแก้กระษัย รักษาแผลอักเสบ
  • น้ำมันสกัดจากเมล็ดยอ สรรพคุณลดอาการอักเสบ ช่วยป้องกันแมลง รักษาสิว กำจัดเหา

โทษของยอ

สำหรับการใช้ประโยชน์จากยอ ต้องใช้อย่างถูกวิธีและใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งเมล็ดยอ มีความเป็นพิษต่อระบบสืบพันธุ์ ลูกยอ สรรพคุณช่วยขับประจำเดือน สำหรับสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน อาจทำให้เสียเลือด และ แท้งลูกได้

ยอ สมุนไพรไทย ลักษณะของต้นยอเป็นอย่างไร สรรพคุณของลูกยอ เช่น แก้อาเจียน ช่วยขับลม ช่วยย่อยอาหาร คุณค่าทางโภชนาการของลูกยอ โทษของลูกยอ เป็นอันตรายกับคนท้อง ทำให้แท้งลูกได้

แคนา สมุนไพร พืชท้องถิ่นใช้ประโยชน์ทุกส่วน สรรพคุณของขับประจำเดือน ดูแลช่องปาก ขับลม บำรุงโลหิต แก้ปวดเมื่อย แก้ไอ ขับเสมหะ เจริญอาหาร สำหรับสตรีหลังคลอดแคนา ดอกแค สมุนไพร สรรพคุณของแคนา

แคนา แคป่า แคขาว แคเค็ตถวา แคทราย แคแน หรือแคฝอย ทั้งหมดนี้ก็คือ แคนา ที่เรียกแตกต่างกันนแต่ละพื้นที่ แคนา มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dolichandrone serrulata (DC.) Seem. ชื่อสามัญว่า D.longissima Schum D.rheedii Seem ชื่อเรียกอื่นๆ ของแคนา เช่น แคขาว แคเค็ตถวา แคแน แคฝอย แคฝา แคภูฮ่อ แคแหนแห้ แคทราย แคยาว แคอาว แคยอดดำ เป็นต้น

แคนา หรือ แคป่า เป็นจัดเป็นผักป่า และไม้สมุนไพร รวมถึงเป็นไม้ประดับ และ ไม้มงคล เนื่องจากดอกนิยมนำมารับประทานคู่กับน้ำพริก ทั้งแบบรับประทานสด และแบบลวก นอกจากนั้น ยังเป็นไม้ที่ให้ดอกสวยงาม และให้ร่มเงาได้ดีจึงนิยมนำมาปลูกตามปั๊มน้ำมัน และสถานที่ราชการต่างๆ

ลักษณะของต้นแคนา

ต้นแคนา แคนาสามารถพบได้ตามป่า ทุ่ง นา หรือ ป่าเบญจพรรณ สามารถขนายพันธ์โดยการตอนกิ่ง การเพาะเมล็ดพันธ์ ลักษณะของลำต้น ความสูงประมาณ 10-20 เมตร เป็นพืชผลัดใบ มีเปลือกสีน้ำตาลอ่อ ผิวเปลือกเรียบ ลำต้นตั้งตรง ลักษณะใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียว รูปไข่ ปลายแหลม ขอบใบหยัก ผิวใบด้านล่างจะมีขน ก้านใบยาว 10 มิลลิเมตรโดยประมาณ  ดอกใหญ่สีขาว รูปแตร โดยดอกจะช่วงมีนาคมถึงมิถุนายนของทุกปี ผลเป็นฝัก

สรรพคุณของแคนา

เรานำแคนามาทำสมุนไพร ในส่วนต่างๆ คือ ดอก เมล็ด ราก เปลือก และใบ โดยรายละเอียเดังนี้

  • ดอกของแคนา จะมีรสชาติหวานและเย็น สามารถนำมาทำอาหารลวกจิ้ม สามารถนำมาช่วย ขับเสมหะ ขับเลือดประจำเดือน ขับเลือด ช่วยเจริญอาหาร และขับลมได้
  • เมล็ดของแคนา จะมีรสชาติหวานและเย็น สามารถช่วยแก้อาการปวดเมื่อย แก้อาการโรคชัก
  • รากของแคนา จะมีรสชาติหวานและเย็น สามารถช่วย แก้เสมหะ ขับลม และบำรุงโลหิต
  • เปลือกของแคนา จะมีรสชาติหวานและเย็น สามารถช่วยแก้ ท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยขับเลือด ใช้สำหรับสตรีหลังคลอด
  • ใบของแคนา จะมีรสเย็น เมื่อนำมาบด และน้ำมาพอกแผลได้ รักษาแผลในช่องปาก และนำมาบ้วนปาก ช่วยรักษาแผลในช่องปาก

โทษของแคนา

สำหรับโทษของแคนา การรับประทานดอกแคนา แบบสดๆอาจจเป็นอันตราย ดอกแคนา สรรพคุณเป็นยาขับเลือด ขับประจำเดือน สำหรับสตรมีครรภ์ หากใช้ดอกแคนาอาจทำให้เลือดออก ตกเลือด เป็นอันตรายต่อบุตรในครรภ์

การปลูกแคนา

สำหรับการปลูกและขยายพันธ์ของแคนานั้น ใช้การเพาะเมล็ด นอกจากการขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดแล้ว ยังสามารถขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่งและการปักชำ แต่ไม่เป็นที่นิยมนัก

การเก็บแคนา

การเก็บแคนา นั้นนิยมจะออกเก็บแคนาช่วงเช้าตรู่ประมาณตี 5  ถึง 7 โมงเช้า แต่หากนำไปขายจะเก็บตั้งแต่ตอนดึก เพราะถือเป็นการจับจองต้นแคนาคนแรก และจะสามารถเก็บดอกแคนาจากต้นอื่นได้มากกว่าคนที่มาสาย ทั้งนี้ เนื่องจากต้นแคนาที่พบตามป่าหรือตามทุ่งนาจะมีน้อยมาก เพราะเกษตรกรมักตัดโค่นออก และมักจะพบแคนาเกิดเป็นหย่อมๆในบางพื้นที่เท่านั้น

ต้นแคนา พืชท้องถิ่น ไม้ประดับ มีประโยชน์ทุกส่วน สรรพคุณของแคนา เช่น ขับประจำเดือน ดูแลช่องปาก เหงือกและฟัน ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม บำรุงโลหิต แก้ปวดเมื่อย แก้ไอ ขับเสมหะ เจริญอาหาร ยาสำหรับสตรีหลังคลอด

Beezab.com แหล่งความรู้ด้านสุขภาพ สมุนไพร โรค แม่และเด็ก อาหารเพื่อสุขภาพ โยคะ ธรรมะครูบาอาจารย์ ดูแลตัวเองเบื้องต้นด้วยข้อมูลดีๆ เนื้อหาในเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อการศึกษาหรือเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเท่านั้น เราไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือ การรักษาโรคแต่อย่างใด หากคุณมีอาการเจ็บป่วยหรือรู้สึกไม่สบาย ควรคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานของเรา

Beezab.com source of health knowledge, herbsdiseasesmothers and childrenhealthy foodyoga and Dhamma.  The content on this page is for educational purposes only. We are not intended to be a substitute for medical advice. Diagnosis of disease or treatment of disease in any way If you are sick, You should consult a doctor.


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove