ไข้หวัด ภาวะการติดเชื้อที่ทางเดินหายใจ ไม่มียารักษา สามารถหายเองได้ อาการน้ำมูกไหล เจ็บคอ ไข้สูง ปวดหัว การทานยาลดไข้ควบคู่กับการนอนพักผ่อน ดื่มน้ำมาก ๆ

ไข้หวัด โรคหวัด โรคติดต่อ โรคติดเชื้อ

โรคหวัด ( Common cold ) โรคจากการติดเชื้อไวรัสที่ระบบทางเดินหายใจ พบบ่อยในช่วงฤดูกาลเปลี่ยนแปลง เมื่อเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายผ่านการสัมผัสหรือสูดดมทางปาก จมูกและลำคอ จะทำให้เยื่อบุจมูกเกิดอาการบวมและแดงและมีน้ำมูกใสขาวออกมาว เจ็บคอ ซึ่งโรคนี้จะหายเองได้ใน 7 วัน โรคไม่มียารักษาแต่สามารถหายเองได้

สาเหตุของการเกิดไข้หวัด

สาเหตุของโรคหวัดเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ระบบทางเดินหายใจ ผ่านการสูดดม หรือ สัมผัส สารคัดหลั่งที่มีเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดไข้หวัด ซี่งเชื้อไรโนไวรัส ( Rhinoviruses ) คือ เชื้อโรคที่พบบ่อย เป็นเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายในอากาศได้ และติดต่อกันได้ในการสัมผัสกับผู้ป่วยไข้หวัดหรือใช้ของใช้ต่างๆร่วมกับผู้ป่วย ผู้ป่วยมีอาการไข้ 2 วัน ไข้หวัดจะติดง่ายในผู้ป่วยเด็ก เนื่องจากภูมคุ้มกันยังไม่มากเท่าผู้ใหญ่

ปัจจัยของการเกิดโรคหวัด

สำหรับสาเหตุที่มีปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ มีปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • อายุ ในกลุ่มเด็กและผุ้สูงอายุมีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ มีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายกว่าคนในกลุ่มอื่นๆ
  • ภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หมายถึงกลุ่มผุ้ป่วยเรื้อรัง สุขภาพอ่อนแอทำให้มีแนวโน้มป่วยไข้หวัดได้ง่ายกว่าปกติ
  • ฤดูกาล ช่วงเวลาฤดูฝนและฤดูหนาว สภาพอากาศเหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อโรค ทำให้มีโอกาสเกิดไข้หวัดได้ง่าย
  • การสูบบุหรี่ ควันบุหรี่ทำให้ระบบทางเดินหายใจติดเชื้อง่ายและรุนแรงกว่าปรกติฃ
  • สภาพสิ่งแวดล้อม ในสถานที่ที่อยู่ในที่ที่ผู้คนพลุกพล่าน ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโรคไข้หวัดได้ง่าย

อาการของไข้หวัด

สำหรับอาการของผู้ป่วยจะมีอาการจามและมีน้ำมูก อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ มีไข้สูง เยื่อบุตาอักเสบ เจ็บคอกลืนน้ำลายลำบาก ความรุนแรงของอาการจะมีมากในช่วง 3 วันแรก หากไข้สูงเกินกว่า 38.5 องศาเซลเซียส ติดต่อกันเกิน 5 วัน ขึ้นไป ควรพบแพทย์เพื่อทำการรักษา

การรักษาไข้หวัด

โรคไข้หวัดปัจจุบันไม่มียารักษาเฉพาะทาง ซึ่งแนวทางการรักษาโรคทำโดยการประคับประครองตามอาการของโรคและพักผ่อนให้มากที่สุด เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูสภาพร่างกายเอง เช่น กินยาลดไข้ ยาลดน้ำมูก ยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด เป็นต้น ซึ่งสามารถหายได้เองภายใน 5 วัน

การป้องกันโรคไข้หวัด

สำหรับแนวทางการป้องกันโรค ปัจจุบันโรคหวัดยังไม่มียารักษา วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคหวัด คือ การทำร่างกายให้แข็งแรง เมื่อมีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายสามารถกำจัดได้ก่อนที่จะเกิดโรคหวัดได้ ข้อแนะนำในการป้องกันโรคหวัด มีดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ชุมชนเป็นเวลานาน เช่นโรงภาพยนตร์ ภัตราคาร สนามกีฬา ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น เนื่องจากเราไม่ทราบว่าใครกำลังเป็นไข้หวัด และสามารถแพร่กระจายโรคตากการหายใจได้
  • ใช้ผ้าปิดจมูก เพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่กระกายสู่ผู้อื่นและติดสู่เราได้
  • รักษาสุขอนามัย ทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ที่ต้องสัมผัส และล้างมือบ่อยๆ เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายสู่ร่างกายเราได้ง่าย
  • ไม่เอามีเข้าปาก หรือการขยี้ตา เนื่องจากเราไม่ทราบได้ว่าที่มีของเรามีเชื้อโรคหรือไม่
  • หลีกเลี้ยงการอยู่ใกล้กับผู้ป่วยโรคหวัด
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
  • พักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

ไข้หวัด ภาวะการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ ไม่มียารักษา สามารถหายเองได้ อาการน้ำมูกไหล เจ็บคอ ไข้สูง ปวดหัว การทานยาลดไข้ควบคู่กับการนอนพักผ่อน และดื่มน้ำมาก ๆ ก็หายได้

Beezab.com แหล่งความรู้ด้านสุขภาพ สมุนไพร โรค แม่และเด็ก อาหารเพื่อสุขภาพ โยคะ ธรรมะครูบาอาจารย์ ดูแลตัวเองเบื้องต้นด้วยข้อมูลดีๆ เนื้อหาในเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อการศึกษาหรือเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเท่านั้น เราไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือ การรักษาโรคแต่อย่างใด หากคุณมีอาการเจ็บป่วยหรือรู้สึกไม่สบาย ควรคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานของเรา

Beezab.com source of health knowledge, herbs, diseases, mothers and children, healthy food, yoga and Dhamma.  The content on this page is for educational purposes only. We are not intended to be a substitute for medical advice. Diagnosis of disease or treatment of disease in any way If you are sick, You should consult a doctor.

ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักของเรา ถุงกระสอบทรัพย์ทวี จำหน่ายถุงกระสอบมีซิบ สำหรับย้ายหอย้ายบ้าน ย้ายสำนักงาน มีสินค้าประกอบด้วย ถุงสายรุ้ง ถุงไนลอน ถุงการ์ตูน และ ถุงล้อลาก

ไข้เลือดออก DHF การติดเชื้อไวรัสเดงกี มียุงลายเป็นพาหะนำโรค อาการมีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดหัว มีผื่นแดงตามผิวหนัง หากรักษาไม่ทันจะทำให้เกิดภาวะช็อกและเสียชีวิต

โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อ โรคติดต่อ โรคต่างๆ

โรคไข้เลือดออก ( Dengue hemorrhagic fever ) คือ โรคติดเชื้อไวรัสที่มียุงลายเป็นพาหนะนำโรค พบโรคนี้มากในประเทศเขตร้อนชื้น โรคไข้เลือดออก สามารถเรียกย่อๆ ว่า DHF  ลักษณะอาการคล้ายไข้ไหวัดทั่วไปในระยะแรก แต่อาการจะมีความรุนแรงมากขึ้น และหากรักษาไม่ทันจะทำให้เกิดภาวะช็อก และทำให้เสียชีวิตได้

สาเหตุของโรคไข้เลือดออก

โรคไข้เลือดออกมีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัสชื่อ ไวรัสแดงกี่ ซึงเกิดจากยุงลายตัวเมียกัด เมื่อโดนยุงลายกัดเชื้อไวรัสแดงกีจะขยายตัวและเข้าสู่ระบบเลือดของมนุษย์ ทำให้เกิดอาการต่างๆ ซึ่งหากรักษาไม่ทันท่วงที่จะทำให้เสียชีวิตได้ ส่วนใหญ่แล้วไข้เลือดออกจะพบมากในเด็ก และมักเกิดมากในฤดูฝนที่เป็นช่วงเวลายุงลายขยายพันธ์ได้ง่าย

ระดับความรุนแรงของโรคไข้เลือดออก

โรคไข้เลือดออกเป็นโรคอันตรายและโอกาสการเกิดโรคง่าย ซึ่งระดับความรุนแรงของโรคไข้เลือดออก สามารถแบ่งให้เห็นภาพอย่างชั้ดเจนได้ 4 ระดับ คือ ระดับที่1 ระดับที่2 ระดับที่3 และ ระดับที่4 โดยรายละเอียด มีดังนี้

  • ไข้เลือดออก ระดับที่ 1 ผู้ป่วยจะมีอาการ คือ มีไข้ และอาการที่สามารถสังเกตุได้อย่างเด่นชัด คือ มีจุดแดง ๆ ตามผิวหนัง แต่ยังไม่แสดงอาการอื่นๆ ในระยะนี้ เหมือนการป่วยเป็นไข้หวัดธรรมดา
  • ไข้เลือดออก ระดับที่ 2 ผู้ป่วยจะมีอาการ จ้ำเลือดที่ใต้ผิวหนัง มีเลือดออกจากที่อื่น ๆ ด้วย เช่น การอาเจียนเป็นเลือด การถ่ายอุจจาระเป็นเลือด ในระยะนี้ ชีพจรและความดันเลือดของผู้ป่วยยังคงปรกติ
  • ไข้เลือดออก ระดับที่ 3 ผู้ป่วยจะมีอาการช็อก เช่น มีอาการกระสับกระส่าย มีเหงื่อออก มือเท้าเย็น ชีพจรเต้นเบาแต่เต้นเร็ว ระดับความดันต่ำ เริ่มอันตรายแล้วในระยะนี้
  • ไข้เลือดออก ระดับที่ 4 เป็นระดับที่มีอาการรุนแรง ผู้ป่วยมีอาการช็อกอย่างรุนแรง ชีพจรเต้นเบา ความดันต่ำมีเลือดออกมาก เช่น อาเจียนหรือถ่ายเป็นเลือดมาก

ซึ่งระดับของความรุนแรงของโรคไข้เลือดออกในระดับที่ 2 ถึง 4 นั้น จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด ต้องมีการจับชีพชร วัดความดันโลหิต และตรวจความเข้มข้นของเลือด และตรวจเกล็ดเลือด เป็นระยะ ๆ

อาการโรคไข้เลือดออก

สำหรับการแสดงอาการของผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก ในระยะแรกจะแสดงอาการเหมือนไข้หวัดธรรมดา เช่น มีไข้ ตัวร้อน เวียนหัว แต่อาการจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเป็นผื่นแดง ปวดตามตัว ปวดศรีษะและปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระบอกตา และ หากปล่อยให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายมากกว่านี้โดยไม่รักษา อาจทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งระยะของอาการไข่เลือดออกมี 3 ระยะ คือ ระยะไข้สูง ระยะช็อกและมีเลือดออก และ ระยะพื้นตัว รายละเอียด มีดังนี้

  • ระยะไข้สูง ในระยะนี้ อาการของโรค ผู้ป่วยจะมีไข้สูงอย่างฉับพลัน หน้าแดง ตาแดง ปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว กระหายน้ำ เบื่ออาหารและอาเจียน หลังจากนั้นในระยะ 1 ถึง 2 วัน จะเกิดอาการผิวหนังแดง บริเวณ ใบหน้า ลำคอ และ หน้าอก ซึ่งเกิดจากหลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัว ในวันที่ 3 จะมีผื่นแดงเหมือนหัด แต่ไม่มีอาการคัน ซึ่งผื่นนี้จะขึ้นตามแขนขา และลำตัว ในผุ้ป่วยบางรายจะพบลักษณะของผื่น เป็นจ้ำเลือด จุดแดงๆ ร่วมด้วย ขึ้นตามหน้า แขน ขา ซอกรักแร้ และในช่องปาก หากอาการเหล่านี้ เกิดขึ้นเกิน 7 วันโดยไม่รักษา จะทำให้เข้าสู่ระยะอันตรายแล้ว คือ ระยะช็อกและมีเลือดออก
  • ระยะช็อกและมีเลือดออก ในระยะนี้ ความรุนแรงของโรคอยู่ในระดับ 3 และ 4 อาการมีไข้จะลดลง แต่อาการป่วยจะหนักขึ้น ซึมมากขึ้น ชีพจรเต้นเบาแต่เร็ว ความดันต่ำ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจเสียชีวิตได้ภายใน 2 วัน แต่หากสามารถผ่านระยะนี้ไปได้ ก็จะเข้าสู่ระยะฟื้นตัว
  • ระยะฟื้นตัว เมื่อผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วง ร่างกายก็จะฟื้นเพื่อเข้าสู่ภาวะปกติ ผู้ป่วยจะเริ่มทานอาหารได้  ความดันโลหิตกลับมาสู่ปกติ

การรักษาโรคไข้เลือดออก

สำหรับการรักษาโรคไข้เลือดออกในปัจจุบันยังไม่มียาต้านเชื้อไวรัสแดงกี่ แนวทางการรักษาโรค คือ การประคับประคองให้ร่างกายของผู้ป่วยฟื้นฟู และ ประคับประคองไม่ให้เกิดอาการช็อค โดยให้ผู้ป่วยกินยาลดไข้ หมั่นเช็ดตัวรักษาอุณหภูมิร่างกาย ให้ดื่มน้ำมากๆ และ รักษาภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น และ ร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานโรคและรักษาตัวเองได้ภายใน 7 วัน

สำหรับการดูแลผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเบื้องต้น ควรให้ดื่มน้ำผลไม้ หรือ น้ำเกลือแร่ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ เช็ดตัวด้วยน้ำอุ่น ให้รับประทานอาหารอ่อนๆ รับประทานยาลดไข้ แต่หากพบอาการอาเจียน ปวดท้องอย่างรุนแรง ตัวเย็น และไม่ปัสสาวะนานกว่า 6 ชั่วโมง ต้องรีบมาพบแพทย์โดยเร็วที่สุด

การป้องกันโรคไข้เลือดออก

สำหรับแนวทางการป้องกำจัดโรคไข้เลือดออก ต้องป้องกันที่สาเหตุขอการเกิดโรค คือ ยุงลาย ต้องป้องกันการถูกยุงลายกัด และ ลดการขยายพันธ์ของยุงลาย โดยแนวทางการป้องกันโรค มีรายละเอียด ดังนี้

  • ควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายและกำจัดยุงลายและลูกน้ำ กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เช่น ท่อระบายน้ำ กระถางต้นไม้ เป็นต้น
  • ดูแลสภาพแวดล้อมไม้ให้เป็นแหล่งเพาะพันธ์ยุงลาย เช่น ตัดต้นไม้ที่รกให้มีแสงสว่างและอากาศถ่ายเทดี ไม่ให้มีแหล่งน้ำขัง
  • นอนในมุ้งหรือนอนในห้องที่ติดมุ้งลวดเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกยุงลายกัด โดยจะต้องปฏิบัติเหมือนกันทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน
  • ควรใส่เสื้อผ้าที่หนาและควรเป็นเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
  • ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของโรค
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ไข้เลือดออก ( DHF ) การติดเชื้อไวรัสเดงกี มียุงลายเป็นพาหะนำโรค ลักษณะอาการของโรคมีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดหัว มีผื่นแดงตามผิวหนัง หากรักษาไม่ทันจะทำให้เกิดภาวะช็อก และทำให้เสียชีวิตได้

Beezab.com แหล่งความรู้ด้านสุขภาพ สมุนไพร โรค แม่และเด็ก อาหารเพื่อสุขภาพ โยคะ ธรรมะครูบาอาจารย์ ดูแลตัวเองเบื้องต้นด้วยข้อมูลดีๆ เนื้อหาในเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อการศึกษาหรือเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเท่านั้น เราไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือ การรักษาโรคแต่อย่างใด หากคุณมีอาการเจ็บป่วยหรือรู้สึกไม่สบาย ควรคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานของเรา

Beezab.com source of health knowledge, herbs, diseases, mothers and children, healthy food, yoga and Dhamma.  The content on this page is for educational purposes only. We are not intended to be a substitute for medical advice. Diagnosis of disease or treatment of disease in any way If you are sick, You should consult a doctor.

ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักของเรา ถุงกระสอบทรัพย์ทวี จำหน่ายถุงกระสอบมีซิบ สำหรับย้ายหอย้ายบ้าน ย้ายสำนักงาน มีสินค้าประกอบด้วย ถุงสายรุ้ง ถุงไนลอน ถุงการ์ตูน และ ถุงล้อลาก


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove