ย่านาง ( Bamboo grass ) จ้อยนาง เถาย่านาง เถาวัลย์เขียว ยาดนาง ใบย่านางมีฤทธิ์เย็น สรรพคุณปรับสมดุลย์ร่างกาย บำรุงร่างกาย ลดน้ำตาลในเส้นเลือด ลดความดันย่านาง ใบย่านาง สมุนไพร สรรพคุณใบย่านาง

ต้นย่านาง ( Bamboo grass ) ชื่อวิทยาศาสตร์ของย่านาง คือ Tiliacora triandra ( Colebr. ) Diels สำหรับชื่อเรียกอื่นๆของย่านาง เช่น  จ้อยนาง เถาย่านาง เถาวัลย์เขียว ยาดนาง เป็นต้น ใบย่านาง มีฤทธิ์เย็น เหมาะสำหรับปรับสมดุลร่างกาย สรรพคุณปรับสมดุลย์ร่างกาย บำรุงร่างกาย ลดน้ำตาลในเส้นเลือด ลดความดัน

ต้นย่านาง สามารถพบได้ตามแหล่งธรรมชาติทั่วไป ในพื้นที่อากาศชุ่มชื้น ป่าผลัดใบ ป่าดงดิบ และ ป่าโปร่ง ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต้นย่านางสามารถขยายันธ์ได้ง่าย โดยใช้หัวใต้ดิน การปักชำยอด หรือ การเพาะเมล็ด

ลักษณะของต้นย่านาง

ต้นย่านาง เป็นไม้เลื้อย เป็นเถา ซึงลักษณะของต้นย่างนาง มีลักษณะดังนี้

  • ลำต้นของย่านาง เป็นเถาเกี่ยวพันกับไม้อื่น มีลักษณะกลมเล็ก เหนียว มีสีเขียว และ เถาแก่มีสีเขียวเข้ม ผิวค่อนข้างเรียบ
  • รากของย่านาง เป็นมีหัวอยู่ใต้ดิน มีขนาดใหญ่
  • ใบของย่านาง เป็นใบเดี่ยว ออกติดกับลำต้นแบบสลับ ใบเหมือนรูปไข่ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ สีเขียว ใบเป็นมัน
  • ดอกของย่านาง ดอกออกเป็นช่อ ดอกออกตามซอกใบ และ ซอกโคนก้าน ขนาดเล็ก สีเหลือง ออกดอกช่วงเดือนเมษายน
  • ผลของย่านาง มีลักษณะกลมรี เล็ก สีเขียว ผลแก่เป็นสีเหลืองอมแดง มีเมล็ดลักษณะแข็ง รูปเกือกม้า

คุณค่าทางโภชนาการของต้นย่านาง

สำหรับคุณค่าทางโภชนาการของย่านาง นักโภชนากการได้ศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของใบย่านางขนาด 100 กรัม พบว่าให้พลังงาน 95 กิโลแคลอรี มีสารอาหารสำคัญ ประกอบด้วย กากใยอาหาร 7.9 กรัม แคลเซียม 155 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 11 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 7.0 มิลลิกรัม วิตามินเอ 30625 IU วิตามินบี1 0.03 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.36 มิลลิกรัม ไนอาซิน 1.4 มิลลิกรัม วิตามินซี 141 มิลลิกรัม โปรตีน 15.5 เปอร์เซนต์ ฟอสฟอรัส 0.24 เปอร์เซนต์ โพแทสเซียม 1.29 เปอร์เซนต์ แคลเซียม 1.42 เปอร์เซนต์ และ แทนนิน 0.21 เปอร์เซนต์

ประโยชน์ของใบย่านาง

สำหรับประโยชน์ของต้นย่านาง นั้น เป็นพืชที่ให้ออกซิเจน เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีมลพิษสุง หากปลูกต้นย่านางจะช่วยเพิ่มออกซิเจน และ สร้างความร่มเย็นให้กับพื้นที่ได้ดี นอกจากนั้นประโยชน์หลักๆของย่านาง นิยมการนำใบย่านางมาเป็นส่วนประกอบของอาหาร สำหรับการบริโภค และ นำมาทำน้ำใบย่านาง ใบย่านางช่วยชะลอการเกิดผมหงอก ทำให้ผมดำ จึงมีการสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น แคปซูลใบย่านาง สบู่ใบย่านาง แชมพูใบย่านาง เครื่องดื่มสมุนไพร เป็นต้น เพื่อรักษาอาการผมหงอก ใบย่านางสามารถช่วยต้านพิษกรดยูริกที่มีในหน่อไม้ได้ จึงเห็นใบย่านางมักเป็นส่วนประกอบของอาหารที่มีหน่อไม้ เช่น แกงหน่อไม้ ซุบหน่อไม้ แกงอ่อม แกงเห็ด แกงเลียง เป็นต้น

สรรพคุณของย่านาง

สำหรับการใช้ประโยชน์ของย่านางนั้น สามารถใช้ประโยชน์ได้ ทั้ง ราก และ ใบ โดยรายละเอียด ดังนี้

  • รากของย่านาง มีรสขม สรรพคุณแก้ไข้ รักษาไข้ทับระดู แก้พิษเมา บำรุงหัวใจ บำรุงธาตุ แก้ปวดท้อง รักษาอีสุกอีใส รักษามาลาเรีย ขับพิษ
  • ใบของยางนาง มีรสขมจืด สรรพคุณแก้ไข้ เป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยชะลอวัย เพิ่มภูมิต้านทานโรค บำรุงกำลัง ลดความอ้วน ปรับสมดุลย์ร่างกาย ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ป้องกันมะเร็ง ช่วยลดความดัน บำรุงหัวใจ บำรุงตับ บำรุงไต ช่วยรักษาอัมพฤกษ์ ช่วยรักษาอาการชักเกร็ง บำรุงผิว แก้เวียนหัว ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ รักษาโรคเบาหวาน ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยแก้ปวดตามกล้ามเนื้อ รักษาเหงือกอักเสบ ช่วยให้นอนหลับสบาย ช่วยบำรุงสายตา แก้เสมหะเหนียว รักษาไซนัสอักเสบ ช่วยลดการนอนกรน รักษาโรคหอบหืด รักษาโรคตับอักเสบ รักษาอาการท้องเสีย ช่วยแก้อาการท้องผูก รักษาโรคกระเพาะอาหาร รักษาลำไส้อักเสบ ช่วยรักษาปัสสาวะขัด ช่วยรักษามดลูกโต แก้ปวดมดลูก รักษาโรคต่อมลูกหมากโต รักษาอาการตกขาว ช่วยป้องกันโรคเกาต์ ช่วยแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย

โทษของย่างนาง

  • น้ำใบย่างนาง มีกลิ่นแรง กินยาก สำหรับคนที่ไม่ชินกับการกินน้ำใบย่างนาง อาจทำให้อาเจียน หรือ เกิดอาการแพ้ได้
  • การดื่มน้ำย่านาง ควรดื่มก่อนกินอาหาร หรือ ดื่มตอนท้องว่าง ควรดื่มในปริมาณที่พอดี ไม่มากเกินไป
  • ผู้ป่วยโรคไตระยะสุดท้าย ไม่ควรดื่มน้ำใบย่านาง เพราะ สารอาหาร เช่น วิตามินเอ ฟอสฟอรัส และ โพแทสเซียม ที่มีใบย่านางจะทำให้เกิดการคั่ง ส่งผลต่อความสามารถในการทำงานของไต
  • การกินอาหารเสริมที่ได้จากใบย่านาง เช่น แคปซูลใบย่านาง เครื่องดื่มสมุนไพรใบย่างนาง อาจมีสารเคมีเจือปน หากขั้นตอนการผลิตไม่ได้มาตราฐาน เพื่อความปลอดภัย ควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้จะดีที่สุด

ต้นย่านาง ( Bamboo grass ) ชื่อเรียกอื่นๆ เช่น  จ้อยนาง เถาย่านาง เถาวัลย์เขียว ยาดนาง เป็นต้น ใบย่านาง มีฤทธิ์เย็น เหมาะสำหรับปรับสมดุลร่างกาย สรรพคุณปรับสมดุลย์ร่างกาย บำรุงร่างกาย ลดน้ำตาลในเส้นเลือด ลดความดัน

Beezab.com แหล่งความรู้ด้านสุขภาพ สมุนไพร โรค แม่และเด็ก อาหารเพื่อสุขภาพ โยคะ ธรรมะครูบาอาจารย์ ดูแลตัวเองเบื้องต้นด้วยข้อมูลดีๆ เนื้อหาในเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อการศึกษาหรือเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเท่านั้น เราไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือ การรักษาโรคแต่อย่างใด หากคุณมีอาการเจ็บป่วยหรือรู้สึกไม่สบาย ควรคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานของเรา

Beezab.com source of health knowledge, herbsdiseasesmothers and childrenhealthy foodyoga and Dhamma.   Take care of yourself first with good information. The content on this website is for educational purposes only. We are not intended to be a substitute for medical advice. Diagnosis of disease or treatment of disease in any way If you are sick or feel unwell You should consult a doctor. to receive proper treatment For more information, please see our Terms and Conditions of Use.

กาแฟ ( Coffee ) สมุนไพร ช่วยกระตุ้นระบบประสาท กาแฟอาราบิก้า กาแฟโรบัสต้า ลต้นกาแฟเป็นอย่างไร คุณค่าทางโภชนาการ สรรพคุณของกาแฟ โทษของกาแฟมีอะไรบ้างต้นกาแฟ กาแฟ สรรพคุณของกาแฟ ประโยชน์ของกาแฟ

กาแฟ นิยมนำเอาเมล็ดของกาแฟมาคั่วและทำเป็น เครื่องดื่ม ปัจจุบันมีการปลูกกาแฟมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก เป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้มากมาย และ มีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกาแฟมากมาย เรื่ิองเกี่ยวกับกาแฟจึงเป็นเรื่องน่าสนใจสำหรับคนรักกาแฟ

ชนิดของกาแฟ

สำหรับสายพันธุ์ของกาแฟ ที่นิยมปลูกกันทั่วโลกนั้นมี 2 สายพันธุ์ คือ กาแฟอาราบิก้า (Coffee arabica) และ กาแฟโรบัสต้า ( Robusta coffee) รายละเอียดและจุดเด่นของกาแฟแตละชนิด มีดังนี้

  • กาแฟอาราบิก้า ชือสามัญ คือ Arabian coffee ชื่อวิยาศาสตร์ของกาแฟอาราบิก้า คือ Coffea arabica L.
  • กาแฟโรบัสต้า ชื่อสามัญ คือ Robusta coffee ชื่อวิทยาศาสตร์ของกาแฟโรบัสต้า คือ Coffea canephora Pierre ex A.Froehner

จุดเด่นของกาแฟอาราบิก้า

สำหรับกาแฟอาราบิกา มีจุดเด่นที่กลิ่นหอม มีสารกาแฟสูง ทำให้กระปรี้กระเปร่า มีชีวิตชีวา กาแฟชนิดนี้มีคาเฟอีนต่ำ มีคุณภาพสูง ในประเทศไทยมีการปลูกกาแฟอาราบิก้ามากบนดอยสูงทางภาคเหนือ

จุดเด่นของกาแฟโรบัสต้า

สำหรับกาแฟโรบัสต้า มีจุดเด่นที่เหมาะสำหรับนำมาผลิตเป็นกาแฟสำเร็จรูป กาแฟโรบัสต้าเมื่อดื่มแล้วจะรู้สึกได้ถึงความนุ่ม ชุ่มคอ  มีปริมาณของกาเฟอีนสูงกว่ากาแฟอาราบิก้าถึง 2 เท่า สำหรับการปลูกกาแฟโรบัสต้าในประเทศไทยมีการปลูกกันมากทางภาคใต้ เขตพื้นที่ราบ ตามจังหวัดนครศรีธรรมราช และ จังหวัดชุมพร

ลักษณะของต้นกาแฟ 

สำหรับลักษณะของต้นกาแฟเราจะขอแนะนำลักษณะของกาแฟทั้ง 2 ชนิด โดยรายละเอียด ดังนี้

ต้นกาแฟอาราบิก้า เป็นไม้พุ่ม มีขนาดเล็ก ความสูงประมาณ 2 ถึง 4 เมตร ต้นกาแฟนั้นจะสามารถขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด

  • ใบกาแฟอาราบิก้า ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้าม ใบรูปไข่ ปลายแหลม โคนแหลมเล็กน้อย ขอบใบเรียบ เป็นมัน
  • ดอกกาแฟอาราบิก้า ออกดอกเป็นช่อ ซึ่งออกดอกตามซอกใบ กลีบดอกสีขาว ดอกมีกลิ่นหอม
  • ผลกาแฟอาราบิก้า ผลสด ทรงกลม สีเขียว ส่วนผลสุกเป็นสีแดง

ต้นกาแฟโรบัสต้า  เป็นไม้พุ่ม มีขนาดเล็ก ความสูงประมาณ 2 ถึง 4 เมตร  สามารถขยายพันธุ์ด้วย วิธีการเพาะเมล็ด

  • ลำต้นของกาแฟโรบัสต้า เป็นข้อและปล้อง โคนใบจะอยู่ตามข้อของลำต้น ความสูงของลำต้นประมาณ 2 ถึง 4 เมตร
  • ใบของกาแฟโรบัสต้า เป็นใบเดี่ยว โคนใบและปลายใบแหลม ขอบใบหยักเป็นคลื่น ผิวใบเรียบ เป็นมัน
  • ดอกกาแฟโรบัสต้า ออกดอกเป็นดอกเดี่ยว ดอกจะออกเป็นกลุ่มๆ ตามโคนใบบนข้อของกิ่ง ดอกจะออกจากกิ่งแขนงจากข้อที่อยู่ใกล้กับลำต้น
  • ผลกาแฟโรบัสต้า ผลมีรูปทรงรี ผลดิบเป็นสีเขียว ผลสุกสีเหลือง สีส้ม และ สีแดง

สรรพคุณของกาแฟ

สำหรับกาแฟนั้นมีสรรพคุณในการเป็นยารักษาโรคและบำรุงร่างกาย ได้ หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม โดย สรรพคุณของกาแฟ มีดังนี้

  • กาเฟมีฤทธิ์กระตุ้นหัวใจและกระตุ้นประสาทส่วนกลาง ทำให้ตาแข็ง นอนไม่หลับ
  • ช่วยลดความอ่อนล้า
  • ช่วยลดความเครียด
  • ช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์
  • ช่วยชูกำลังได้
  • ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ
  • ช่วยขยายหลอดเลือดแดง
  • ช่วยลดอาการปวดศีรษะจากไมเกรน
  • ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง เช่น โรคมะเร็งในช่องปาก มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งต่อมลูกหมาก และ มะเร็งตับ ได้
  • ช่วยลดน้ำระดับตาลในเลือด
  • ช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
  • ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ช่วยป้องกันโรคหัวใจ
  • ลดความเสี่ยงของการเกิดการอุดตันในเส้นเลือด
  • ช่วยลดน้ำหนัก ช่วยละลายไขมัน ทำให้ไขมันเกิดการแตกตัว ช่วยเพิ่มไขมันดี ( HDL )
  • ช่วยป้องกันการเกิดโรคหอบ ช่วยบรรเทาอาการหอบหืด
  • ช่วยป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบี
  • ช่วยขับปัสสาวะ
  • ช่วยลดโอกาสการเป็นโรคเกาต์ ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของข้อ
  • ช่วยป้องกันโรคหนังตากระตุก ช่วยลดอัตราการกระตุกของกล้ามเนื้อ

โทษของกาแฟ

สำหรับการใช้ประโยชน์จากกาแฟ ส่วนมากนิยมนำเมล็ดกาแฟคั่วบดมาชงเป็นเครื่องดื่ม ซึ่งสำหรับโทษและข้อควรระวังในการดื่มกาแฟ มีดังนี้

  • กาเฟ มี คาเฟอีน คุณสมบัติคล้ายยาเสพติดแบบอ่อนๆ หากดื่มกาแฟเป็นประจำ ทำให้ติดกาแฟได้ หากไม่ได้ดื่มอาจจะรู้สึกมีความทุกข์มากขึ้น เมื่อร่างกายขาดกาเฟอีน การหยุดดื่มกาแฟอย่างกะทันหัน จะทำให้มีอาการปวดศีรษะ กระสับกระส่าย ร่างกายอ่อนเพลีย และ ง่วงนอนได้
  • การดื่มเครื่องดื่มกาแฟที่มีน้ำตาล ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น สำหรับผู้ป่วยเบาหวานต้องหลีกเลี่ยงกาแฟใส่น้ำตาล
  • การดื่มกาแฟ ทำให้หลับไม่สนิท ทำให้ช่วงเวลาที่หลับนั้นสั้นลง อาจทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ
  • การดื่มกาแฟ ทำให้หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ กาแฟมีฤทธิ์กระตุ้นกล้ามเนื้อหัวใจโดยตรง สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจควรหลีกเลี่ยง
  • กาแฟ มีฤทธิ์ลดการดูดซึมของธาตุเหล็ก การดื่มกาแฟควรระมัดระวังในการดื่มกาแฟในขณะท้องว่าง เพราะจะเร่งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้เป็นโรคกระเพาะได้
  • กาแฟ มีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ และ ลดการดูดโซเดียม โพแทสเซียม และ แคลเซียมออกจากไต อาจเป็นการเพิ่มปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนสำหรับผู้หญิงได้
  • การดื่มกาแฟในริมาณมากๆ เป็นเวลานาน มีโอกาสเกิดการเป็นหมันได้
  • การดื่มกาแฟในระหว่างการตั้งครรภ์ ส่งผลทำให้อัตราเสี่ยงของการตายของทารกหลังคลอดเพิ่มมากขึ้น สตรีตั้งครรภ์ควรเพิ่มความระมัดระวังในการดื่มกาแฟ

ต้นกาแฟ ( Coffee ) สมุนไพร ช่วยกระตุ้นระบบประสาท กาแฟอาราบิก้า กาแฟโรบัสต้า ลักษณะของต้นกาแฟ คุณค่าทางโภชนาการของกาแฟ สรรพคุณของกาแฟ โทษของกาแฟ มีอะไรบ้าง เรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับกาแฟ