ฟักทอง Pumpkin พืชคุณค่าทางอาหารสูง สรรพคุณของฟักทอง ช่วยควบคุมน้ำหนัก บำรุงผิว ขับปัสสาวะ แก้ไอ บำรุงร่างกาย บำรุงระบบประสาท บำรุงตับ บำรุงไต บำรุงดวงตา

ฟักทอง สมุนไพร สรรพคุณของฟักทอง

ต้นฟักทอง ภาษาอังกฤษ เรียก Pumpkin มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cucurbita maxima Duchesne. ชื่ออื่นของฟักทอง เช่น หมากอึ มะฟักแก้ว มะน้ำแก้ว น้ำเต้า หมักอื้อ หมากฟักเหลือง เหลืองเคล่า หมักคี้ล่า ฟักทอง นิยมนำมาทำเป็นส่วนประกอบของ อาหาร ตัวอย่าง อาหารเมนูฟักทอง เช่น  แกงเผ็ดไก่ฟักทอง แกงเลียง ฟักทองผัดไข่ ส่วนของหวานก็มี สังขยาฟักทอง ขนมฟักทอง บวดฟักทอง ฟักทองนึ่ง ฟักทองเชื่อม เป้นต้น

คุณค่าทางโภชนาการของฝักทอง

นักโภชนาการได้ศึกษาผลฟักทอง ขนาด 100 กรัม พบว่า ให้พลังงาน 26 กิโลแคลอรี มีสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์ประกอบด้วย
คาร์โบไฮเดรต 6.5 กรัม น้ำตาล 2.76 กรัม กากใยอาหาร 0.5 กรัม ไขมัน 0.1 กรัม โปรตีน 1 กรัม วิตามินเอ 476 ไมโครกรัม เบตาแคโรทีน 3,100 ไมโครกรัม ลูทีนและซีแซนทีน 1,500 ไมโครกรัม วิตามินบี 1 0.05 มิลลิกรัม วิตามินบี 2 0.11 มิลลิกรัม วิตามินบี 3 0.6 มิลลิกรัม วิตามินบี 5 0.298 มิลลิกรัม วิตามินบี 6 0.061 มิลลิกรัม วิตามินบี 9 16 ไมโครกรัม วิตามินซี 9 มิลลิกรัม วิตามินอี 0.44 มิลลิกรัม วิตามินเค 1.1 ไมโครกรัม ธาตุแคลเซียม 21 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 0.8 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม ธาตุแมงกานีส 0.125 มิลลิกรัม ธาตุฟอสฟอรัส 44 มิลลิกรัม ธาตุโพแทสเซียม 340 มิลลิกรัม ธาตุโซเดียม 1 มิลลิกรัม และ ธาตุสังกะสี 0.32 มิลลิกรัม

เมล็ดดอกฟังทอง สามารถสกัดน้ำมันได้ สรรพคุณ ช่วยบำรุงประสาท ป้องกันโรคต่อมลูกหมาก ช่วยปรับระดับฮอร์โมนเพศชาย

ลักษณะของต้นฟักทอง

ต้นฟักทอง จัดว่าเป็น ไม้ล้มลุก ลักษณะของลำต้น ใบ ดอก และ ผล มีดังนี้

  • ลำต้นฟักทอง ลักษณะลำต้นเป็นเถาเลื้อยไปตามพื้นดิน นิยมปลูกริมรั้ว เถาของฟักทองมีขนาดยาว ใหญ่ และมีขน ปกคลุม สีเขียว
  • ใบของฟักทอง เป็นใบเดี่ยว ใบของฝักทองมีแผ่นใหญ่สีเขียว แยกออกเป็น 5 หยักและมีขนสาก ๆ
  • ดอกของฟักทอง จะออกดอกเดี่ยวตามง่ามใบ และที่ส่วนยอดของเถาฟักทอง ลักษณะของดอกเป็นรูประฆังสีเหลือง
  • ผลของฟักทอง มีขนาดใหญ่ ลักษณะกลมแบน เปลือกของฟักทองจะแข็ง ผิวขรุขระ มีทั้งสีเขียวหรือสีน้ำตาล เนื้อของผลฟักทองมีสีเหลือง เมล็ดของฟักทองมีสีขาว

สรรพคุณของฟักทอง

สำหรับสรรพคุณทางด้านสมุนไพรไทยของฟักทอง สามารถใช้ประโยชน์ ทั้ง ใบ ดอก เมล็ด ราก  และ ผล มีรายละเอียด ดังนี้

  • ใบของฟักทอง วิตามินซีสูงเหมือเนื้อฟักทอง นอกจากวิตามินซีแล้ว ยังมีฟอสฟอรัสสูง
  • ดอกของฟักทอง มีวิตามินเอ แคลเซียม และฟอสฟอรัส สูงและวิตามินซีเล็กน้อย
  • เมล็ดฟักทอง มีคาร์โบไฮเดรต ฟอสฟอรัส โปรตีนและวิตามิน มีสารคิวเคอร์บิตาซิน ( Cucurbitacin ) สามรถกำจัดพยาธิตัวตืด  ช่วยขับปัสสาวะ ป้องกันการเกิดนิ่ว และป้องกันมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ เมล็ดดอกฟังทอง สามารถสกัดน้ำมันได้ สรรพคุณ ช่วยบำรุงประสาท ป้องกันโรคต่อมลูกหมาก ช่วยปรับระดับฮอร์โมนเพศชาย
  • รากฟักทอง นำมาต้ม ใช้ดื่มแก้ไอ ยังช่วยบำรุงร่างกาย
  • เยื่อกลางที่ผลของฟักทอง สามรถนำมาพอกแผลได้ แก้อาการฟกช้ำปวดอักเสบ
  • ผลฟักทอง มีไขมันน้อย จึงเหมาะแก่คนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ฟักทองยังมีกากไยอาหารมาก ช่วยระบบขับถ่าย
    มีคาร์โบไฮเดรตสูง ช่วยรักษาและบรรเทาอาการ แผลในกระเพาะอาหาร และลำไส้ ฟักทองมีคอลลาเจนตามธรรมชาติ จะช่วยทำให้ผิวพรรณผ่องใส  ผลของฟักทองยัง สามารถช่วยบรรเทาอาการหอบหืดที่เกิดจากหลอดลมอักเสบ  สตรีหลังคลอดบุตรหากทางฟักทอง ซึ่งตามตำราสมุนไพรไทยเขาเรียก”มีฤทธิ์อุ่น” จะช่วยย่อยอาหารทำให้กระเพาะอุ่น บำรุงกำลัง และลดการอักเสบ แก้ปวดได้ดีมากๆ
  • เปลือกของผลฟักทอง ควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกาย รักษาโรคเบาหวานได้ ควบคุมความดันโลหิต บำรุงตับ บำรุงไต บำรุงดวงตา และสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพได้อีกด้วย

ฟักทอง ถือเป็นพืชในตระกูลมะระ ชนิดไม้เถาขนาดใหญ่ ผิวผลขณะยังอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะแล้วจะมีสีเขียวสลับเหลือง ผิวไม่เรียบขรุขระเปลือกมีลักษณะแข็งเนื้อในสีเหลือง มีเส้นใยอยู่ภายในเป็นสีเหลืองนิ่มพร้อมกับเมล็ดสีขาวแบนๆ ติดอยู่ ประโยชน์ของฟักทองนั้นมีมากมาย สามารถนำมาใช้กินบำรุงร่างกายและรักษาโรคได้ดี

โทษของฟักทอง

สำหรับการใช้ประโยชน์จากฟักทองด้านการอาหาร และ การรักษาโรค ต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม จึงจะไม่มีอันตายต่อสุขภาพ โดยข้อควรระวังในการกินฟักทอง มีดังนี้

  • เมล็ดฟักทองทำให้เกิดแก็สสะสมในลำไส้ และ กระเพาะอาหาร หารกินมากไป อาจทำให้ท้องอืดได้ สตรีมีครรถ์ไม่ควรกินมากเกินไป อาจเป็นอันตรายได้
  • เมล็ดฟักทอง มีสารอาหารไขมันและให้แคลอรี่สูง สำหรับผู้ป่วยไขมันสูงไม่ควรกินมากเกินไป
  • ผลฟักทอง กระตุ้นให้ร่างกายร้อนขึ้น อาจทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ไม่สบายท้อง สำหรับกลุ่มคนที่มีอาการ เช่น กระหายน้ำ ปากเหม็น หิวง่าย ปัสสาวะเหลือง ท้องผูก มีแผลในช่องปาก เหงือกบวม ไม่ควรทานฟักทองมากเกินไป

ฟักทอง ( Pumpkin ) คือ พืชล้มลุก คุณค่าทางอาหารสูง สรรพคุณของฟักทอง ช่วยควบคุมน้ำหนัก บำรุงผิว ป้องกันมะเร็ง ยาถ่ายพยาธิ ขับปัสสาวะ รักษาหอบหืด รักษาเบาหวาน รักษาโรคกระเพาะ รักษาลำไส้อักเสบฟักทอง แก้ไอ บำรุงร่างกาย บำรุงระบบประสาท ควบคุมความดันโลหิต บำรุงตับ บำรุงไต บำรุงดวงตา และสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์เก่า

Beezab.com แหล่งความรู้ด้านสุขภาพ สมุนไพร โรค แม่และเด็ก อาหารเพื่อสุขภาพ โยคะ ธรรมะครูบาอาจารย์ ดูแลตัวเองเบื้องต้นด้วยข้อมูลดีๆ เนื้อหาในเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อการศึกษาหรือเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเท่านั้น เราไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือ การรักษาโรคแต่อย่างใด หากคุณมีอาการเจ็บป่วยหรือรู้สึกไม่สบาย ควรคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานของเรา

Beezab.com source of health knowledge, herbsdiseasesmothers and childrenhealthy foodyoga and Dhamma.   Take care of yourself first with good information. The content on this website is for educational purposes only. We are not intended to be a substitute for medical advice. Diagnosis of disease or treatment of disease in any way If you are sick or feel unwell You should consult a doctor. to receive proper treatment For more information, please see our Terms and Conditions of Use.

พริกไทย สมุนไพร เมล็ดพริกไทยให้รสเผ็ดร้อน ต้นพริกไทยเป็นอย่างไร คุณค่าทางโภชนาการของพริกไทย สรรพคุณช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ โทษของพริกไทย มีอะไรบ้างพริกไทย สมุนไพร สรรพคุณของสมุนไพร สมุนไพรไทย

พริกไทย ภาษาอังกฤษ เรียก Pepper ชื่อวิทยาศาสตร์ของพริกไทย Piper nigrum L. ลักษณะของต้นพริกไทย สายพันธุ์พริกไทย  ประโยชน์ของพริกไทย สรรพคุณของพริกไทย ขับปัสสาวะ ขับสารพิษ ช่วยควบคุมน้ำหนัก ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม บำรุงกระดูก บำรุงฟัน บำรุงสายตา  ยาอายุวัฒนะ ต้านมะเร็ง มีสารต้านอนุมูลอิสระ ขัยเสมหะ ใช้กำจัดเชื้อจุลินทรีย์

ต้นพริกไทย ภาษาอังกฤษ เรียก Pepper มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Piper nigrum Linn พริกไทย มีชื่อเรียกอื่นๆ เช่น พริกน้อย พริก พริกไทยดำ พริกไทยล่อน  พริกขี้นก ชื่อเรียกจะแตกต่างกันออกไปตาม ท้องถิ่น เป็นพืชประจำถิ่นในประเทศอินเดีย และยังเป็น พืชเศรษฐกิจในเขตร้อน ประเทศที่ผลิตพริกไทย จำนวนมาก เช่น เวียตนาม อินโดนีเซีย บราซิล และอินเดีย พริกไทย

พริกไทย นิยมนำมาทำเป็นเครื่องปรุงอาหาร เพิ่มรสชาติ พริกไทยมีสรรพคุณ ช่วยขับปัสสาวะ ขับสารพิษในร่างกาย ช่วยควบคุมน้ำหนัก ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม บำรุงกระดูก บำรุงฟัน บำรุงสายตา  ยาอายุวัฒนะ ต้านมะเร็ง มีสารต้านอนุมูลอิสระ ขับเสมหะ  ใช้กำจัดเชื้อจุลินทรีย์ พริกไทยมีแคลเซียมสูง โดยเฉพาะพริกไทยอ่อน ช่วยในการบำรุงกระดูก บำรุงฟัน ป้องกันโรคกระดูกพรุนได้  พริกไทย มี ฟอสฟอรัสและวิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอกการเสื่อมสภาพของเซลล์ ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง มีเบต้าแคโรทีน ช่วยในการมองเห็น

ลักษณะของต้นพริกไทย

ต้นพริกไทย สามารถปลูกได้ในเขตร้อน หรือในเขตอบอุ่น โดยปกติแล้วสามารถปลูกได้โดยการเพาะเมล็ด หรือ การปักชำ จัดพืชตระกูลไม้เลื้อย ลักษณะของต้นพริกไทยเป็นอย่างไร

  • ลำต้นพริกไทย พริกไทยเจริญในแนวดิ่ง ความสูงประมาณ 500 เซ็นติเมตร ลำต้นจะสร้างรากพิเศษสั้นๆบริเวณข้อเพื่อยึดเกาะสิ่งรอบข้าง ช่วยในการพยุงลำต้น ลำต้นเป็นข้อๆ รากของต้นพริกไทยจะเกิดบริเวณข้อตามลำต้นเป็นรากเล็กๆ
  • ใบพริกไทย ใบจะมีสีเขียว ใหญ่เหมือนใบโพ ใบเดี่ยว รูปรี เรียงสลับ โคนใบและปลายใบแหลม ใบสีเขียวเข้ม
  • ดอกพริกไทย พริกไทยจะดอกเล็กจะออกช่อเป็นพวงตามข้อ ดอกสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน
  • เมล็ดของพริกไทย มีลักษณะกลมเป็นพวง  ลำต้นแตกแขนงออกเป็นพุ่ม ผลทรงกลมแบบเมล็ด ผลอ่อนมีสีเขียวผลสุกมีสีแดง

สรรพคุณของต้นพริกไทย

พริกไทยสามารถนำมาทำสมุนไพร ได้หลายส่วน ประกอบด้วย ดอก เมล็ด ใบ เถา ราก

  • ดอกของพริกไทย มีสรรพคุณช่วยลดความดันตา แก้อาการตาแดงจากความดันโลหิตสูง
  • เมล็ดของพริกไทย มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหาร ขับสารพิษในร่างกาย ขับเสมหะ บำรุงธาตุ แก้ท้องอืด ขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ แก้ระดูขาว
  • ใบของพริกไทย มีสรรพคุณ แก้จุกเสียด แก้ปวดท้อง
  • เถาของพริกไทย ใช้ขับเสมหะ แก้ท้องร่วง และท้องเดิน
  • รากของพริกไทย ใช้ขับลมในลำไส้ แก้ปวดท้อง ลดอาการวิงเวียน ช่วยย่อยอาหาร ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
  • น้ำมันหอมระเหยจากพริกไทย สามารถใช้รักษาหวัด ทำให้หายใจสะดวก

พริกไทยยังมีสรรพคุณในการกำจัดเชื้อจุลินทรีย์หลายชนิด และนิยมนำมาถนอมอาหาร เช่น ทำไส้กรอก กุนเชียง หมูยอ

โทษของพริกไทย

สำหรับการใช้ประโยชน์จากพริกไทย หากใช้อย่างไม่เหมาะสมจะทำให้เกิดโทษต่อร่างกายได้ เนื่องจากคุณสมบัติของพริกไทย คือ มีฤทธ์ร้อน รสเผ็ด การรับประทานพริกไทยมีข้อควรระวัง ดังนี้

  • สำหรับผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร โรคเกี่ยวกับกระเพาะและลำไส้ ควรลดการกินพริกไทย เพื่อให้ระบบลำไส้ลดการระคายเคืองในระบบทางเดินอาหาร
  • การรับประทานพริกไทยมากเกินไป ทำให้เกิดอาการอักเสบได้ เช่น ตาอักเสบ คออักเสบ เป็นแผลในปาก และ ฟันอักเสบเป็นหนอง เป็นต้น

พริกไทย พืชพื้นบ้าน สมุนไพร นิยมรับประทานเมล็ดพริกไทย ลักษณะของต้นพริกไทยเป็นอย่างไร คุณค่าทางโภชนาการของพริกไทย สรรพคุณของพริกไทย เช่น ช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ โทษของพริกไทย มีอะไรบ้าง

ถุงกระสอบ ถุงล้อลาก ถุงสายรุ้ง ถุงการ์ตูน
ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove