ทุเรียน ( Durian ) ภาษามลายู แปลว่า หนาม มีกลิ่นเฉพาะตัว ต้นทุเรียนเป็นอย่างไร ประโยชน์และสรรพคุณลดไข้ แก้ท้องร่วง ช่วยขับพยาธิ รักษาแผลพุพอง โทษของทุเรียนทุเรียน ผลไม้ สมุนไพร สรรพคุณของทุเรียน

ต้นทุเรียน ( Durian ) ชื่อวิทยาศาสตร์ของทุเรียน คือ Durio zibethinus L. ได้รับฉายาว่า ราชาแห่งผลไม้ เนื้อทุเรียนเหมือนคัสตาร์ด  รสชาติคล้ายอัลมอนด์ บางคนบอกว่าทุเรียนมีกลิ่นเหม็นรุนแรง ทุเรียนสามารถรับประทานได้ทั้งสุกและห่าม

ลักษณะของต้นทุเรียน

ต้นทุเรียน เป็น ไม้ยืนต้น การขยายพันธุ์ทุเรียน ทำได้หลายวิธี เช่น การเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง การติดตา การทาบกิ่ง และ การเสียบยอด ลักษณะของต้นทุเรียน มีลักษณะดังนี้

  • ลำต้นของทุเรียน ลำต้นตั้งตรง ความสูงของต้นทุเรียน ประมาณ 25 ถึง 50 เมตร เปลือกของต้นทุเรียนมีสีเทาแก่ ผิวขรุขระหลุดลอกออกเป็นสะเก็ด เปลือกทุเรียนไม่มียาง
  • ใบของทุเรียน ใบเป็นใบเดี่ยว กระจายทั่วกิ่ง ใบรูปไข่ปลายใบเรียวแหลม ผิวใบเรียบลื่น มีไขนวล ใบด้านบนมีสีเขียว ท้องใบเป็นสีน้ำตาล ขอบใบเรียบ
  • ดอกของทุเรียน ออกดอกเป็นดอกช่อ เกิดตามลำต้น และกิ่งก้านยาว  มีสีขาวหอม คล้ายรุประฆัง
  • ผลของทุเรียน ผลสดเป็นรูปรีถึงกลม เปลือกทุเรียนมีหนามแหลม ผลมีสีเขียว ผลสุกมีสีน้ำตาลอ่อน เนื้อในมีสีเหลืองอ่อน เนื้อในนิ่ม รสหวาน

คุณค่าทางโภชนาการของทุเรียน

นักโภชนาการได้ศึกษา คุณค่าทางโภชนาการของเนื้อทุเรียนสุก ขนาด 100 กรัม พบว่าให้พลังงาน 174 กิโลแคลอรี มีสารอาหารสำคัญ ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 27.09 กรัม กากใยอาหาร 3.8 กรัม ไขมัน 5.33 กรัม โปรตีน 1.47 กรัม วิตามินเอ 44 หน่วยสากล วิตามินบี 1 0.374 มิลลิกรัม วิตามินบี 2 0.2 มิลลิกรัม วิตามินบี 3 1.74 มิลลิกรัม วิตามินบี 5 0.23 มิลลิกรัม วิตามินบี 6 0.316 มิลลิกรัม วิตามินบี 9 36 ไมโครกรัม วิตามินซี 19.7 มิลลิกรัม  ธาตุแคลเซียม 6 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 0.43 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 30 มิลลิกรัม ธาตุแมงกานีส 0.325 มิลลิกรัม ธาตุฟอสฟอรัส 39 มิลลิกรัม ธาตุโพแทสเซียม 436 มิลลิกรัม ธาตุโซเดียม 2 มิลลิกรัม  และ ธาตุสังกะสี 0.28 มิลลิกรัม

สรรพคุณของทุเรียน

ทุเรียน สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการบำบัดโรค ได้หลายส่วนประกอบ ทั้ง เนื้อทุเรียน รากทุเรียน ใบทุเรียน เปลือกทุเรียน รายละเอียด ดังนี้

  • เนื้อทุเรียน สามารถช่วยทำให้ฝีแห้ง ช่วยแก้โรคผิวหนัง ช่วยขับพยาธิ
  • รากทุเรียน สามารถใช้ลดไข้ได้ ช่วยแก้อาการท้องร่วง
  • ใบทุเรียน สามารถใช้ลดไข้ได้ ช่วยขับพยาธิ ช่วยแก้ดีซ่าน ช่วยทำให้หนองแห้ง
  • เปลือกของทุเรียน สามมรถใช้ช่วยแก้ตานซาง ช่วยรักษาโรคคางทูม ช่วยแก้น้ำเหลืองเสีย ช่วยแก้ฝี ช่วยรักษาแผลพุพอง ใช้สมานแผล ใช้ไล่ยุงและแมลง

ข้อควรรู้ในการกินทุเรียน

การกินทุเรียน มีสิ่งที่ผู้บริโภคควรทราบ ดังนี้

  • ทุเรียนมีแคลอรี่สูง ทุเรียน 4 เม็ด ให้พลังงาน 400 กิโลแคลอรี่ เท่ากับน้ำอัดลม 2 กระป๋อง
  • ทุเรียนมีปริมาณน้ำตาลสูง ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยง รวมถึงคนที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และไขมันในโลหิตสูง
  • ทุเรียนมีฤทธิ์ร้อน ไม่ควรกินทุเรียนร่วมกับเหล้า เบียร์ หรือเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ทั้งหลาย

โทษของทุเรียน

ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มี แคลอรี่และน้ำตาลสูง ทุเรียนจึงไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วย โรคเบาหวาน อาจจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สตรีมีครรภ์ไม่ควรกินทุเรียน เพราะทำให้ความร้อนในร่างกายสูงขึ้น เป็นอันตราต่อลูกในท้อง ไม่ควรกินทุเรียนร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือ กาแฟ

ทุเรียน ( Durian ) คำว่า ทุเรียน มาคำจากภาษามลายู แปลว่า หนาม ผลไม้ที่กลิ่นเฉพาะตัว คุณค่าทางโภชนาการของทุเรียน ประโยชน์ของทุเรียน ลักษณะของต้นทุเรียน สรรพคุณของทุเรียน ช่วยแก้โรคผิวหนัง ลดไข้ แก้ท้องร่วง ช่วยขับพยาธิ ช่วยทำให้หนองแห้ง ช่วยรักษาแผลพุพอง โทษของทุเรียน

อบเชย เปลือกอบเชยมีกลิ่นหอมนำมาทำเครื่องเทศ อบเชย มี 5 ชนิด อบเชยเทศ อบเชยจีน อบเชยญวน อบเชยชวา อบเชยไทย สรรพคุณลดความดัน ลดน้ำตาลในเลือด ต้านเชื้อโรคต่างๆอบเชย สมุนไพร สมุนไพรในครัว ต้นอบเชย

อบเชย สมุนไพรเครื่องเทศ กลิ่นหอม อบเชยมีฤทธิ์ลดความดัน ลดน้ำตาลและไขมันในเลือด ลดการหดเกร็งของหลอดลม ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ และ กระเพาะอาหาร มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา แก้ปวดและช่วยทำให้แผลหายเร็ว อบเชยจะใช้เปลือกไม้ชั้นในที่แห้งแล้วนำมาใช้ประโยชน์

ต้นอบเชย นิยมใช้ทำเครื่องแกง เช่น พริกแกงกะหรี่ หรือใช้ร่วมกับโป๊ยกั้ก นำมาต้มน้ำแกง เช่น พะโล้และเนื้อตุ๋น หรือใส่อบเชยในของหวาน บดละเอียดโรยหน้ากาแฟใส่นม เป็นต้น อบเชย ภาษาอังกฤษ เรียก Cinnamon ชื่อวิทยาศาสตร์ของอบเชย คือ Cinnamomum spp. ชื่อเรียกอื่นๆของอบเชย เช่น บอกคอก พญาปราบ สะวง ฝักดาบ สุรามิด กระแจกโมง โมงหอม กระเจียด เจียดกระทังหัน อบเชยต้น มหาปราบ เป็นต้น

คุณค่าทางโภชนาการของอบเชย

สำหรับอบเชยชนิดผงขนาด 10 กรัม ให้พลังงานถึง 24.7 แคลอรี่ มีสารอาหารสำคัญ ประกอบด้วย ไขมัน 0.12 กรัม คาร์โบไฮเดรท 8.06 กรัม และ โปรตีน 0.4 กรัม

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของอบเชย

อบเชย คือ เครื่องยาหรือเครื่องเทศ ได้จากเปลือกของอบเชย ลอกเปลือกชั้นในออกจากแก่นลำต้น และใช้มีดกรีดตามยาวของกิ่ง จากนั้นนำไปตากแดดประมาณ 5 วัน เปลือกของอบเชยจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนเหมือนสีสนิม มีรสสุขุม เผ็ด หวานเล็กน้อย และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว สำหรับอบเชย มีหลายชนิด แต่ที่นิยมใช้กัน มี 5 ชนิด คือ อบเชยเทศ อบเชยจีน อบเชยญวน อบเชยชวาและอบเชยไทย

ชนิดของอบเชย

สำหรับ ต้นอบเชย นั้นมีอยู่หลายชนิด โดยแต่ละชนิดก็มีคุณภาพที่แตกต่างกัน อบเชยญวนจะมีคุณภาพสูงสุด รองลงมา คือ อบเชยจีน และ อบเชยเทศ แต่อบเชยแต่ละชนิดจะมีสรรพคุณทางยาที่ใกล้เคียงกัน สามารถนำมาใช้แทนกันได้ เราจะแนะนำอบเชย 5 ชนิด คือ อบเชยเทศ อบเชยจีน อบเชยญวน อบเชยชวา และ อบเชยไทย โดยรายละเอียด ดังนี้

  • อบเชยเทศ หรือ อบเชยลังกา อบเชยชนิดนี้มาจากประเทศอินเดียและศรีลังกา มีราคาแพงที่สุด จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง เปลือกลำต้นเป็นสีเทาและหนา กิ่งขนานกับพื้นและตั้งชันขึ้น ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับกันตามลำต้น ใบเป็นรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบแหลม ขอบใบเรียบ ใบหนา ผิวใบเรียบมัน สีเขียวเข้ม  ดอกอบเชยออกเป็นช่อตามปลายกิ่ง มีขนาดเล็ก สีเหลือง มีกลิ่นหอม ผลเป็นสีดำ คล้ายรูปไข่ ผิวเปลือกเรียบ
  • อบเชยจีน ขนาดของลำต้นใหญ่กว่าอบเชยเทศ เปลือกหนาหยาบกว่า และ มีสีเข้มกว่าอบเชยเทศ รสชาติจะอ่อนที่สุดในบรรดาอบเชยทุกชนิด นิยมนำมาทำเป็นยาสมุนไพร
  • อบเชยญวน กลิ่นจะหอมไม่เท่ากับอบเชยเทศ มีรสหวานแต่ไม่ค่อยหอม ปลูกได้ดีมากในประเทศไทย และ ประเทศไทยส่งออกอบเชยชนิดนี้เป็นหลัก
  • อบเชยชวา มีกลิ่นหอมแต่น้อยกว่าอบเชยเทศ แต่เป็นอบเชยที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน
  • อบเชยไทย เป็นพันธุ์ไม้พระราชทานเพื่อปลูกเป็นมงคลของจังหวัดระนอง

สรรพคุณของอบเชย

สำหรับประโยชน์ของอบเชย สามารถใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่ เนื้อไม้ เปลือก ใบ ราก เมล็ด โดยรายละเอียด ดังนี้

  • เปลือกอบเชย สรรพคุณ คือ เป็นยาบำรุงร่างกาย ทำให้เลือดหมุนเวียนดี แก้ปวดศีรษะ แก้อาการอ่อนเพลีย ช่วยชูกำลัง ยาบำรุงกำลัง บำรุงตำ บำรุงไต บำรุงม้าม บำรุงหัวใจ  ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยเจริญอาหาร ช่วยย่อยสลายไขมัน ช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือด ช่วยต้านมะเร็ง เป็นยาแก้ไข้หวัด ไข้สันนิบาต แก้อาการหวัด แก้อาการไอ แก้คลื่นไส้อาเจียน ช่วยขับลม แก้ท้องเสีย  ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร เป็นยาถ่าย ช่วยขับพยาธิ ช่วยขับปัสสาวะ รักษาโรคหนองใน ช่วยขับน้ำคาวปลา  แก้ปวดประจำเดือน แก้ตับอักเสบ  ช่วยแก้อาการปวด แก้ปวดหลัง
  • ใบอบเชย สรรพคุณ คือ แก้ไข้สำหรับสตรีหลังคลอด ช่วยขับลม เป็นยาฆ่าเชื้อ ยาทาแผลถอนพิษของยางน่อง เป็นยาพอกแก้อาการปวดรูมาติสซั่ม
  • รากอบเชย สรรพคุณ คือ แก้ไข้สำหรับสตรีหลังคลอด แก้อาการปวดฟัน รากนำมาต้มสำหรับสตรีกินหลังการคลอดบุตร ช่วยลดไข้หลังการผ่าตัด
  • เมล็ดอบเชย สรรพคุณ คือ ยาแก้ไอสำหรับเด็ก เป็นยาแก้บิดสำหรับเด็ก

โทษของอบเชย

การบริโภคอบเชยมีข้อควรระวังอยู่บ้าง เนื่องจากอบเชยเป็น สมุนไพรมีกลิ่นหอม มีน้ำมันหอมระเหย โดยข้อควรระวังในการบริโภคอบเชย มีดังนี้

  • อบเชยมีน้ำมันส่งผลให้อาการคลื่นไส้อาเจียน และเป็นอันตรายต่อไต สำหรับผู้ป่วยมีไข้ ตัวร้อน ปัสสาวะขัด ปัสสาวะเป็นเลือด อุจจาระแข็ง เป็นโรคริดสีดวงทวาร เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ขวบ และสตรีมีครรภ์ ห้ามรับประทานอบเชย
  • สำหรับ อบเชยจีน เป็นสมุนไพรที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่อบเชยจีนมีสารคูมารินซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อตับ และการได้รับสารนี้ในปริมาณมากเกินไปอาจมีปัญหาต่อตับ สำหรับคนที่ป่วยเกี่ยวกับโรคตับ ไม่ควรรับประทานอบเชย

อบเชย พืชท้องถิ่น เปลือกของอบเชยมีกลิ่นหอม นำมาทำเครื่องเทศ อบเชย มี 5 ชนิด คือ อบเชยเทศ อบเชยจีน อบเชยญวน อบเชยชวา และ อบเชยไทย สรรพคุณของอบเชย เช่น ลดความดัน ลดน้ำตางในเลือด ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove