คราบหินปูน คราบที่เกาะตามฟัน เกิดจากน้ำลาย เศษอาหารและเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เหงือกอักเสบ เสี่ยงเป็นโรคหัวใจ แนวทางการป้องกันการเกิดคราบหินปูนทำอย่างไร
คราบหินปูน ( Dental plaque) คือ คราบสีขาวเกาะที่ฟัน เมื่อเกิดการเกาะตัวมากขึ้นจะทำให้คราบสีขาวนั้นมีขนาดใหญ่และแข็งมากขึ้น หากไม่กำจัดออกจะทำให้เชื้อแบคทีเรีย สร้างกรด เพื่อทำลายฟัน ซึ่งไม่สามารถกำจัดด้วยการแปรงฟันได้
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดคราบหินปูน
สำหรับปัจจัยของการเกิดคราบหินปูนนั้น มีปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดคราบหินปูน มีดังนี้
- การสูบบุหรี่เป็นเวลานานๆ
- ลักษณะของฟัน ที่สบกันไม่ดี
- พฤติกรรมการชอบนอนกัดฟัน
- ชอบทานอาหารที่มีรสหวาน
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนร่างกาย เช่น วัยรุ่น ตั้งครรภ์ วัยทอง เป็นต้น
- ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน
- เกิดจากการใช้ยาบางประเภท เช่น ยาลดความดันโลหิต ยากันชัก เป็นต้น
- อาการปากแห้ง
สาเหตุของการเกิดคราบหินปูน
ที่ผิวฟันของเรานั้นมีส่วนที่หุ้มฟันอยู่ ผิวฟันจะเรียบและมัน เมื่อผิวฟันถูกน้ำลายจะทำให้เกิดสารไกลโคโปรตีนจากน้ำลาย ที่มีน้ำตาล และโปรตีน หลังจากทำความสะอาดฟันแล้ว สารเหล่านี้จะเจือจางลง และเกิดสารบางเหลืออยู่ทำให้เกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียมาเกาะที่ฟัน ซึ่งจะพบมากที่ขอบเหงือก และ หลุมร่องฟัน ซึ่งการเกาะของเชื้อแบคทีเรีย จะทำให้เกิดคราบหินปูน เป็นแคลเซี่ยม เกาะติดแน่น การกำจัดคราบหินปูนนั้นต้องให้ทันตแพทย์ขูดออก
อันตรายของคราบหินปูน
คราบหินปูน เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งการเกิดคราบหินปูนทำให้เกิดโรคได้ ดังนี้
- ทำให้เกิดฟันผุ เมื่อเชื่อจุลินทรีย์ปล่อยกรดออกมา กรดนี้จะกัดกร่อนผิวเคลือบฟัน ทำให้เกิดเป็นร่องหากทิ้งไว้นานฟันจะผุได้
- ทำให้เกิดเหงือกอักเสบ เมื่อมีเชื้อเชื้อจุลินทรีย์อยู่ในปาก เชื้อนี้จะปล่อยสารพิษออกปนกับน้ำลาย ทำให้เกิดเหงืออักเสบได้
- ทำให้เกิดโรคปริทนต์ คราบหินปูนจะใช้เวลานานแค่ไหนที่จะทำลายฟัน
- ทำให้เกิดโรคหัวใจ เนื่องจากเหงือกอักเสบจากคราบหินปูน ทำให้เกิดการติดเชื้อที่หลอดเลือด ทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตัน เกิดภาวะหลอดเลือดตีบ
- ทำให้เกิดเลือดออกตามไรฟัน ซึ่งอันตรายของเลือดออกตามไรฟัน คือ การติดเชื้อในกระแสเลือด
- ทำให้เหงือกบวม
- ทำให้ฟันเหลือง เนื่องจากแคลเซียมและจุลินทรีย์เกาะเคลือบผิวฟัน เกิดเป็นสีเหลือง
- ทำให้เกิดกลิ่นปาก เนื่องจากคราบหินปูน มีเชื้อแบคทีเรียเกาะที่ฟัน ทำให้เกิดกลิ่น
- ทำให้เหงือกร่น เนื่องจากหากหินปูนเกาะตัวและมีขนาดใหญ่ขึ้น ดันให้เหงือกร่น
- ทำให้ฟันโยกและฟันห่าง เมื่อหินปูนดันเหงือกลงมาก ๆ ทำให้เหงือกยึดฟันได้น้อย เวลาเคี้ยวอาหาร จะทำให้เกิดความเสี่ยงให้ฟันโยก และถ้าหินปูนที่ใหญ่ขึ้นจะดันให้ฟันห่างกัน
ดังนั้น หากแปรงฟันทุกวัน วันละสองครั้ง ร่วมกับการใช้ไหมขัดฟัน จะช่วยลดการเกิดคราบหินปูนได้
การรักษาคราบหินปูน
สำหรับการรักษาคราบหินปูน สามารถทำได้โดยการพบทันตแพทย์ เพื่อทำการขูดคราบหินปูนออก เป็นการรักษาที่ง่าย ใช้เวลาไม่นาน และ ไม่ทำให้เกิดการเจ็บปวด วิธีขจัดคราบหินปูนในช่องปาก นั้นสามารถปฏิบัติได้ ดังนี้
- ลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดคราบหินปูน เช่น การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่มีรสหวาน การดื่มสุรา
- แปรงฟันทุกวัน วันละ 2 ครั้ง และควรดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ แปรงสีฟันอย่างถูกต้องและใช้ไหมขัดฟันหลังแปรงฟัน
- ขัดฟันด้วยเปลือกหมากสด คนสมัยก่อนใช้วิธีนี้ในการป้องกันการเกิดคราบหินปูน
- การพบทันตแพทย์ เพื่อทำลายคราบหินปูนออก
การป้องกันการเกิดคราบหินปูน
การเกิดคราบหินปูนนั้น เป็นอันตรายต่อสุภาพและ ทำให้เกิดผลเสียต่อบุคลิกภาพพอสมควร การป้องกันการเกิดคราบหินปูน ช่วยลดการเกิดคราบหินปูน ควรปฏิบัติ ดังนี้
- ให้แปรงฟันทุกวัน โดยอย่างน้อยต้องแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง
- การเลือกแปรงสีฟัน ให้เลือกแปรงที่ขนแปรงนุ่ม ปรายของแปรงมนไม่แหลม
- การแปรงฟันให้เน้นแปรงที่รอยต่อระหว่างเหงือกและฟัน
- การเลือกใช้ยาสีฟันให้เลือกใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์
- ให้ใช้ไหมขัดฟัน ในการทำความสะอาดฟันอย่างน้อยวันละหนึ่งครั้ง
- หมั่นตรวจสุขภาพฟันประจำปี
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร ที่มีรสหวาน อย่างขนมหวาน หากต้องการรับประทานอาหารที่มีรสหวานให้เลือกรับประทานผลไม้แทน
สำหรับคราบหินปูน หลายๆคนมองข้ามการกำจัดคราบหินปูน เนื่องจากไม่ทำให้การใช้ชิวิตผิดปรกติ เพราะ แขน ขา สมอง สามารถทำงานได้อย่างปรกติ จึงทำให้คนมองข้ามการเกิดคราบหินปูน จากข้อมูลที่เรานำเสนอ เป็นสิ่งที่ดีทำให้เราได้รู้ถึงภัยของหินปูนในปาก ทำให้เกิดโรคหัวใจได้ ทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบได้ จึงไม่ควรมองข้ามปัญหาคราบหินปูนได้เลย
Last Updated on March 17, 2021