ตกขาว สารคัดหลั่งจากอวัยวะเพศสตรี ตกขาวผิดปรกติเป็นอย่างไร ตกขาวสีเหลือง ตกขาวสีแดง ตกขาวสีเขียว สาเหตุเกิดจากอะไร แนวทางการรักษาตกขาวผิดปรกติต้องทำอย่างไรตกขาว ตกขาวผิดปรกติ โรคสตรี โรคระบบสืบพันธ์

ตกขาว หรือเรียกอีกอย่างว่า ระดูขาว ภาษาอังกฤษ เรียก Leukorrhea คือ ภาวะการเกิดสารคัดหลั่งที่อวัยวะเพศของสตรี ซึ่งเป็นภาวะปกติของผู้หญิงทุกคน เมื่อสตรีมีการเจริญเติบโตมากขึ้นถึงวัยเจริญพันธุ์ เริ่มมีประจำเดือน การตกขาวจะมีมากขึ้นและมีปริมาณที่พอเหมาะไปจนถึงวัยสูงอายุ แต่อาการตกขาวผิดปรกติ เป็นสิ่งที่น่าตกใจ หากไม่รักษาอาจเกิดมะเร็งปากมดลูกได้

อาการตกขาว ที่ไม่มีอาการผิดปรกตินั้น จะมีลักษณะ คือ เป็นสารคัดหลั่งลักษณะเหลวและใส ไม่มีสี เป็นสีขาวข้น คล้ายกับกาวแป้งเปียก ซึ่งปริมาณของสารคัดหลั่งจะมีปริมาณไม่มากแต่พอที่จะรักษาความชุ่มชื้นในช่องคลอด สารคั้ดหลั่งนี้จะมีกลิ่นจำเพาะ มีภาวะเป็นกรดอ่อนๆ การตกขาวมากกว่าปรกกะตินั้น สามารถสังเกตุได้ ดังนี้

  • ตกขาวจะมีลักษณะข้นเป็นสีขาวในช่วงหลังและก่อนการมีประจำเดือน
  • ตกขาวจะมีลักษณะเหลวและใส ในช่วงระหว่างรอบเดือน
  • ลักษณะของตกขาวจะเหนียวและหนืดในขณะตั้งครรภ์
  • ในขณะที่มีการถูกการกระตุ้นทางเพศจะทำให้ร่างกายหลังสารคัดหลั่งมากขึ้น และหลังจากการมีเพศสัมพันธ์สารคัดหลั่งตกขาวจะมากขึ้น
  • การตกขาวจะมากขึ้นเมื่อร่างกายอยูในภาวะวิตกกังวล

จากลักษณะของตกขาว ดังที่กล่าวมานี้ เป็นลักษณะของการตกขาวที่เป็นปรกติ ซึ่งการสังเกตุอาการของการตกขาวที่ผิดปรกตินั้น สามารถสังเกตุได้อย่างไร ต้องดูที่สาเหตุของการเกิดภาวะตกขาวผิดปรกติ

ลักษณะของตกขาว

สารคักหลังที่ออกมาจากอัวยวะเพศของสตรีนั้น มีลักษณะแตกต่างกันออกไป เรามาทำความรู้จักกับ สีของสารคักหลัง ว่า สีของสารคักหลั่งที่ออกมานั้น เกิดขึ้นจากอะไรบ้าง

  • ตกขาวลักษณะเป็นเมือกใส การตกขาวจะมีปริมาณมาก ลักษณะเหลวใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ถือว่าเป็นอาการตกขาวปกติ สามารถหายได้เอง หากมีอาการคันและเป็นฟอง อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียที่ช่องคลอดหรือช่องคลอดอักเสบ
  • ตกขาวลักษณะสีเทา เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ลักษณะ สีขาวปนเทาอ่อน มีกลิ่นเหม็น คล้ายกลิ่นคาวปลา เป็นลักษณะของการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย
  • ตกขาวลักษณะเป็นก้อนสีขาว เกิดจากการติดเชื้อรา ลักษณะเป็นก้อนคล้ายนมบูด สีขาวข้นหรือสีเหลือง จะมีกลิ่นเหม็นอับ  และมีอาการแสบคันที่ช่องคลอดร่วม
  • ตกขาวลักษณะมีสีเหลือง การที่สารคัดหลั่งมีสีเหลืองเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย การติดเชื้อรา การติดเชื้อไวรัส การติดเชื้อพยาธิในช่องคลอด
  • ตกขาวมีลักษณะสีเขียว เกิดจากการติดเชื้อพยาธิในช่องคลอด เป็นการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ อาการคัน แสบและเจ็บที่ช่องคลอด สามารถพบได้จากสาเหตุนี้ สารคักหลั่งมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว เป็นฟอง
  • ตกขาวมีลักษณะสีน้ําตาล เป็นอาการมีเลือดปนในสารคัดหลั่ง อาจเกิดจากการติดเชื้อที่ปากมดลูกหรือช่องคลอด ทำให้มีตกขาวปริมาณมาก มีกลิ่นเหม็น อาจมีเลือดเก่าปน ทำให้สารคักหลั่งเป็นสีน้ำตาล
  • ตกขาวสีชมพู พบได้บ่อยในสตรีหลังคลอดบุตร เนื่องจากการลอกของเยื่อบุโพรงมดลูก

สาเหตุของตกขาวผิดปรกติ

อาการตกขาวผิดปกติ นั้นเรียก Pathologic vaginal discharge ภาวะการตกขาวผิดปรกติ นั้น เกิดขึ้นได้จากสาเหตุต่างๆ คือ การติดเชื้อ การมีเนื้องอกที่อวัยวะเพศ และ การมีสิ่งแปลงปลอมในอวัยวะเพศ โดยรายละเอียดของการตกขาวผิดปรกติ มีรายละเอียด ดังนี้

  • การตกขาวผิดปรกติที่เกิดจากการติดเชื้อ นั้นเกิดจากการติดเชื้อหลายลัษณะ เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ได้แก่
    • เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เรียก Bacterial vaginosis สาเหตุของการตกขาวผิดปรกติ เราพบว่าเป็นสาเหตุมากที่สุดถึง ร้อยละ 50 ของการเกิดการตกขาวผิดปรกติ โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น พฤติกรรมชอบล้างอวัยวะเพศแบบสวนช่องคลอด การใช้ห่วงอนามันในการคุมกำเนิด การกินยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน การติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์  นนอกจากนั้น สาเหตุอื่นๆ เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มสุรา หรือการกินอาหารประเภทหมักดอง เป็นต้น
    • เกิดจาดเชื้อรา สำหรับสาเหตุของการตกขาวจากการติดเชื้อรา พบประมาณ ร้อยละ 25 ของผู้ป่วยอาการตกขาวผิดปรกติ เชื้อราที่พบ คือ Candida albicans การตกขาวผิดปรกติจากเชื้อรา จะมีลักษณะสารคัดหลั่ง เป็นสีเหลืองปน มีก้อนคล้ายนมบูด มีกลิ่นเหม็นอับ แต่ไม่พบกลิ่นคาว ซึ่งผลกระทบที่พบ คือ จะแสบหรือคันที่ช่องคลอด หรือ เวลาปัสสาวะจะมีอาการแสบและขัด สาเหตุของการติดเชื้อรา เช่น การอยู่ในที่อับชื้นเป็นเวลานาน การใช้ยาปฏิชีวนะบางชนิด การใช้ยากลุ่มยาสเตียรอยด์ การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด โรคเบาหวาน และความเครียด เป็นต้น
    • การติดเชื้อทริโคโมแนส หรือ เชื้อพยาธิในช่องคลอด เรียกว่า Trichomoniasis เป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกโปรโตซัว ชนิดหนึ่ง เราเรียกว่า ทริโคโมแนส วาจินาลิส ( Trichomonas vaginalis ) เราพบว่ามีผุ้เกิดภาวะตกขาวผิดปรกติจากสาเหตุนี้ ร้อยละ 25 ของผู้ป่วยทั้งหมด ลักษณะความผิดปรกจะพบว่า มีอาการคัน แสบ และเจ็บที่อวัยวะเพศ ลักษณะของสารคัดหลั่ง จะมีสีเหลืองหรือสีเขียว มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว และมีลักษณะเป็นฟอ
    • เกิดจากการติดเชื้อไวรัส เชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของการตกขาว คือ เฮอร์ปีส์ซิมเพล็กซ์ ( Herpes simplex ) เกิดจากการติดเชื้อโรคจากการมีเพศสัมพันธ์ อาการพบว่าจะมีอาการแสบที่อวัยวะเพศ ลักษณะสารคักหลั่ง เป็นสีเหลือง
    • เกิดจากเชื้อบัคเตรี ชนิดอื่น ๆ เช่น เชื้อสแตฟีโลค็อกคัส ( Staphylococcus ) สเตรปโตค็อกคัส ( Streptococcus ) เป็นต้น
    • การติดเชื้อวัณโรค
  • การตกขาวผิดปรกติจากเนื้องอกที่อวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิง การเกิดเนื้องอก เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งของอวัยวะเพศหญิง เป็นสาเหตุของการตกขาวผิดปรกติ
  • การตกขาวผิดปรกติจากการมีสิ่งแปลกปลอมในช่องคลอด การที่ผนังของช่องคลอดมีสิ่งระคายเคือง ทำให้เกิดการตกขาวเพิ่มขึ้น และสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้จะส่งกลิ่นเหม็นด้วย ตัวอย่างสิ่งแปลกปลอมที่ทำให้ตกขาวจากสาเหตุนี้ เช่น เศษกระดาษ เศษลูกโป่ง ผ้าอนามัยชนิดสอด กระดาษชำระ สำลี เศษยาง ถุงยางอนามัย หรือ อุปกรณ์ทางเพศ

การมีตกขาวนั้น จักว่าเป็นเรื่องปรกติของผู้หญิง แต่การที่สารคัดหลั่งเกิดความผิดปรกติ นั้น เป็นสาเหตุของหลายปัจจัย แต่หากไม่สังเกตุลักษณะการตกขาวที่ผิดปรกติ จะทำให้เป็นอันตรายหากไม่รักษา

อาการตกขาวผิดปรกติ

การตกขาวที่ผิดปกตินั้น มีอาการและลักษณะของสารคัดหลั่ง ที่สามารถสังเกตุได้ ดังนี้

  • เกิดสารคักหลั่งมากขึ้นผิดปรกติ
  • สารคักหลั่งตกขาว นั้นมีกลิ่นเหม็น คล้ายปลาเน่า และมีกลิ่นคาวมาก
  • ลักษณะของสารคัดหลั่งมีลักษณะผิดปรกติ เช่น มีสีเหลือง สีเขียว หรือมีลักษณะข้น หรือจับตัวเป็นก้อน มีปนหนอง มีเลือดปนหรือมีลักษณะเป็นฟอง
  • เกิดการตกขาวติดต่อกันกว่า 14 วัน
  • เกิดความผิดปรกติอื่นร่วมกับการตกขาวผิดปรกติ เช่น คันบริเวณปากช่องคลอด มีอาการแสบที่ปากช่องคลอด มีแผลบริเวณอวัยวะเพศ ปวดท้องน้อย มีไข้ ขัดเบา เจ็บอวัยวะเพศ แสบเวลาปัสสาวะ เป็นต้น

วิธีรักษาอาการตกขาวผิดปรกติ

การรรักษาอาการตกขาวผิดปรกตินั้น ต้องรักษาสาาเหตุของการตกขาวผิดปรกติ และในปัจจุบันสามารถรักษาสาเหตุของการเกิดการตกขาวผิดปรกติ จากการติดเชื้อ ได้ โดยหากพบว่า เกิดการตกขาวจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือ เชื้อโปรโตซัว สามารถใช้ยาในการรักษาได้ ซึ่งการใช้ยาในการรักษานั้น ให้อยู่ในคำสั่งของแพทย์

การดูแลตัวเองเมื่อเกิดภาวะตกขาวผิดปรกติ

เมื่อเกิดภาวะตกขาวผิดปรกติ มีข้อควรปฏิบัติ ดังนี้

  • ใช้ยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบและไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
  • รักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกให้แห้งสะอาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะในเรื่องของความอับชื้น
  • งดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะรักษาหาย ถ้าจำเป็นควรให้ฝ่ายชายสวมถุงยางอนามัยด้วยทุกครั้ง
  • ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ในขณะรับการรักษา เพราะอาจมีผลกับยาที่รักษาทำให้ไม่สบาย ปวดเมื่อยตัว หน้าแดง หรือใจสั่นได้
  • ไม่ควรรักษาด้วยตนเอง เพราะสาเหตุที่ทำให้ตกขาวผิดปกตินั้นมีได้หลากหลาย ซึ่งการซื้อยามารับประทานเองอาจทำให้ไม่หายเพราะใช้ยาไม่ตรงกับโรค อาจทำให้มีโรคอื่นแทรกซ้อนตามมา และอาจเป็นสาเหตุให้กลายเป็นการติดเชื้อเรื้อรังจากเชื้อดื้อยาได้ (การใช้ยาทุกชนิดควรอยู่ภายใต้คำแนะของแพทย์หรือเภสัชกร)
  • อาการตกขาวผิดปกติมักเกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรักษาทั้งผู้ป่วยและคู่นอนไปด้วยพร้อม ๆ กัน นอกจากนั้นอาการตกขาวผิดปกติยังอาจเกิดได้จากโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งการไปพบแพทย์ตั้งแต่แรกจะช่วยในการวินิจฉัยโรคได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และให้ผลในการรักษาที่ดีกว่าการพบโรคในระยะรุนแรงที่มีอาการมากแล้ว
  • ตกขาวผิดปกติที่เกิดจากการติดเชื้อ ถึงแม้จะได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว แต่ถ้ากลับไปติดเชื้ออีกก็จะมีโอกาสเป็นซ้ำได้อีก ส่วนในรายที่เป็นโรคมะเร็งปากมดลูกนั้น ผลการรักษามักจะขึ้นอยู่กับระยะของโรคมะเร็ง
  • ในรายที่เป็นโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อก็ต้องรักษาหรือควบคุมโรคให้ดี เช่น โรคเบาหวาน

การป้องกันการเกิดอาการตกขาวผิดปรกติ

สำหรับอาการตกขาวผิดปรกติ นั้น สามารถป้องกันการเกิดได้ โดยข้อแนะนำในการป้องกันการเกิดการตกขาวผิดปรกติ มีดังนี้

  • ไม่ควรใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานานๆ ถ้าหากไม่มีความจำเป็น
  • ควรรบประทานอาหารที่สดใหม่และมีคุณภาพ ดื่มน้ำให้เยอะๆ ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอและที่สำคัญต้องพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ให้ล้างอวัยวะเพศก่อนทุกครั้ง
  • ไม่ควรใส่กางกางที่มีขนาดเล็กกว่าไซต์ตัวเองหรือรัดเกินไป
  • ต้องดูแลอวัยวะเพศให้แห้งอยู่เสมอ และอย่าให้อับชื้น
  • ให้คุณเช็ดก้นจากหน้า
  • ไม่ควรสวนล้างช่องคลอดเพราะช่องคลอดสะอาดอยู่แล้ว

ตกขาว คือ สารคัดหลั่งที่อวัยวะเพศของสตรี ลักษณะของการตกขาวผิดปรกติเป็นอย่างไร ตกขาวสีเหลือง ตกขาวสีแดง ตกขาวสีเขียว เกิดจากสาเหตุอะไร การรักษาอาการตกขาวผิดปรกติต้องทำอย่างไร และ ข้อแนะนำในการป้องกันการตกขาวผิดปรกติ

หนองใน โกโนเรีย ( Gonorrhea ) ติดเชื้อแบคทีเรียจากน้ำอสุจิและสารคัดหลังในช่องคลอด ทำให้เกิดหนองที่มดลูก ท่อปัสสาวะ ช่องปาก คอ ตา ทวารหนัก การรักษาและป้องกัน

หนองใน โกโนเรีย โรคติดต่อ

โรคหนองใน หรือ โรคโกโนเรีย ภาษาอังกฤษ เรียก Gonorrhea เกิดจากการติดเชื้อโรค ที่มี สาเหตุของการติดเชื้อส่วนใหญ่จากการมีเพศสัมพันธ์ และ เชื้อโรคที่ทำใหเกิดหนองใน คือ เชื้อแบคทีเรีย โดยขาดการป้องกัน โรคนี้ถือเป็นโรคติดต่อ อาการติดเชื้อทำให้เกิดหนองภายในร่างกาย โดยมาก จะเกิดหนองที่ ปากมดลูก มดลูก ปีกมดลูก ท่อปัสสาวะ รวมถึงอวัยวะต่างๆที่เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี ไม่ว่าจะเป็น ช่องปาก คอ ตา ทวารหนัก เป็นต้น

โรคหนองใน สามารถเกิดทั้งใน เพศชายและเพศหญิง โรคนี้ในประเทศไทย มีการสำรวจในปี 2551 พบว่ามีผู้ป่วยโรคนี้ 6,168 ราย มีการมีอัตราการติดเชื้อที่ 9.76 คน ต่อ 100,000 คน หากเปรียบเทียบกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แล้วพบว่า โรคหนองใน เป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์คิดเป็นร้อยละ 15.43 ของผู้ป่วยที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งหมด

ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหนองใน

สำหรับ ปัจจัยของการเกิดโรคหนองใน นั้น เกิดได้จากการสัมผัสเยื่อบุช่องคลอด ช่องปาก ทวารหนัก หรือ องคชาต ของ ผู้ที่มีเชื้อโรคหนองใน ซึ่ง หนองในสามารถถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกได้ ผู้ที่รู้ตัวว่าเป็น โรคหนองใน จึง ควรระวังในการแพร่เชื้อหนองใน ให้ผู้อื่น นอกจากการสัมผัสผู้ที่มี เชื้อโรคหนองใน แล้ว มีปัจจัยที่มีความเสี่ยงของการติดต่อโรคหนองใน ดังต่อไปนี้

  • กลุ่มวัยรุ่น เป็นวัยที่คึกคะนอง มีความเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันสูง
  • กลุ่มคนที่มีอาชีพหรือกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมการมีคู่นอนมากกว่า 1 คน
  • กลุ่มคนที่เคยมีประวัติการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์มาก่อน เช่น โรคซิฟิลิส (Syphilis)
  • กลุ่มคนที่มีพศสัมพันธ์โดยขาดการป้องกันด้วยถุงยางอนามัย
  • กลุ่มผู้เสพติดยาเสพติด

สาเหตุของการติดเชื้อหนองใน

การติดเชื้อโรคหนองใน นั้นเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อว่า ไนซีเรีย โกโนเรียอี ภาษาอังกฤษ เรียก Neisseria gonorrhoeae  เชื้อแบคทีเรีย ชนิดนี้ พบได้ในน้ำอสุจิของเพศชายและสารคัดหลังในช่องคลอดของเพศหญิง เชื้อแบคทีเรีย ชนิดนี้สามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ทีี่มีความอบอุ่น โดยเฉพาะอวัยวะเพศและภายในช่องคลอด รวมถึง ทวารหนัก เยื่อบุตา ช่องปากและคอ เป็นต้น

ดังนั้น หากใครมีเชื้อโรคชนิดนี้อยู่ในร่างกาย และมีกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องสัมผัสในส่วนที่มีเชื้อโรคอยู่ ซึ่งโดย กิจกรรมการมีเพศสัมพันธ์ เป็นกิจกรรมที่สัมผัสกับเชื้อโรคโดยตรงที่สุด ทำให้เกิดการแพร่เชื้อโรค สำหรับอาการของโรคนี้ มีระยะการฟักตัว หลังจากได้รับเชื้อ ภายใน 10 วัน แต่จะสามารถแสดงอาการของโรคให้เห็นภายใน 5 วัน

เพื่อความเข้าใจใน โรคหนองใน ให้ชัดเจน การสัมผัสผู้ติดเชื้อ เช่น การจับมือ การจูบ การใช้แก้ว จาน ร่วมกัน หรือ การลงสระว่ายน้ำ หรือใช้ส่วมร่วมกับผู้มีเชื้อโรคหนองในไม่ได้ทำให้เกิดการติดเชื้อแต่อย่างใด

อาการของผู้ป่วยโรคหนองใน

สำหรับ อาการของผู้ป่วยโรคหนองใน นั้น เราจะแยก เป็น 3 ลักษณะ คือ การติดเชื้อในเพศชาย การติดเชื้อในเพศหญิง และ อาการที่แสดงออกทั้งเพศชายและเพศหญิง รายละเอียดดัง ต่อไปนี้

  • อาการที่พบสำหรับเพศชาย คือ จะรู้สึกแสบเวลาปัสสาวะ ปัสสาวะขัด และมีหนองไหลออกมาจากท่อปัสสาวะ ซึ่งในระยะแรกจะเป็นลักษณะมูกใส ๆ หลังจากนั้นจะเป็นหนองสีเหลืองข้น และมีอาการปวดและบวมที่อัณฑะ มีอาการอัณฑะอักเสบ
  • อาการที่พบสำหรับเพศหญิง คือ มีอาการตกขาวผิดปกติ มีลักษณะตกขาวมาก มีหนองสีเหลือง มีกลิ่นเหม็น มีอาการขัดเบา และแสบเวลาปัสสาวะ ปวดท้องน้อย ปัสสาวะขุ่น มีเลือกะปริบกะปรอยในระหว่างรอบเดือน หากเกิดการติดเชื้อที่มดลูก จะมีไข้สูง หนาวสั่น ปวดที่ท้องน้อย
  • สำหรับอาการที่เกิดขึ้นได้ทั้งในเพศชายและเพศหญิง คือ มีไข้สูง เจ็บคอ เป็นลักษณะติดเชื้อที่คอ หากปวดเวลาอุจจาระ จะมีอาการปวดหน่วงๆ มีหนองปนในอุจจาระ หากติดเชื้อที่เยื่อบุตา จะรู้สึกระคายเคืองที่ตา มีหนองไหลออกมาจากเยื่อบุตา เป็นต้น

ภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยโรคหนองใน

ความอันตรายของโรคหนองใน อยู่ที่ภาวะโรคแทรกซ้อนของการติดเชื้อโรค ซึ่ง หากไม่ทำการรักษาให้ทันท่วงที่อาจเกิดการติดเชื้อลามไปยังอวัยวะอื่นๆ จนยากที่จะรักษาได้ ลักษณะของ โรคแทรกซ้อนของโรคหนองใน มีดังนี้

  • อาการท่อปัสสาวะอุดตัด จากภาวะท่อปัสสาวะอักเสบ
  • อาการต่อมลูกหมากอักเสบ หรือเป็นฝีที่ผนังของท่อปัสสาวะ
  • อาการลูกอัณฑะอักเสบ ซึ่งอาจทำให้เป็นหมันได้
  • อาการฝีอักเสบที่อวัยวะเพศ
  • อาการอุ้งเชิงกรานอักเสบ ทำให้มีปวดท้อง มีไข้ เกิดถุงหนองภายในช่องท้องน้อยแบบเรื้อรัง
  • อาการติดเชื้อในกระแสเลือด
  • อาการติดเชื้อตามข้อกระดูก
  • อาการติดเชื้อเอชไอวี (HIV)
  • เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
  • เยื่อบุหัวใจอักเสบ
  • หัวใจวาย

การติดเชื้อหนองในระหว่างการตั้งครรภ์

โรคหนองใน สามารถถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกได้ หากเกิดการติดเชื้อระหว่างตั้งครรถ์ ซึ่งป็นอันตรายกับลูกในท้อง เช่น หากทารกติดเชื้อที่ตา ก็ส่งผลให้ทารกตาบอด เชื้อโรคหนองในเป็นอันตรายกับทารกมาก หากทราบว่า ติดเชื้อโรคหนองในระหว่างตั้งครรถ์ ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

การวินิจฉัยโรคหนอง

การตรวจวินิจฉัยว่าติดเชื้อโรคหนองในนั้ สามารถทำได้โดยการตรวจสอบประวัติ และอาการเบื้องต้นของผู้ป่วย และการตรวจเชื้อโรคจากแผล จากปากมดลูก ท่อปัสสาวะ ทวารหนัก หรือ ช่องคอ เพื่อตรวจดูเชื้อโรค

การรักษาโรคหนองใน

สำหรับการรักษาการติดเชื้อโรคหนองในนั้น สามารถใช้การรักษาได้ด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ ในการรักษา รวมถึงใช้การรักษาอื่นๆควบคู่เพื่อบรรเทาอาการและรักษาภาวะแทรกซ้อนของโรค รายละเอียดังนี้

  • ใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น  เซฟิไซม์ เซฟไตรอะโซน สเปกติโนมัยซิน การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะจะค่อนข้างได้ผลดี หากผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเร็ว สามารถหายได้เร็ว แต่อาการความเสียหายของเนื้อเยื่อต้องใช้เวลาให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง
  • สำหรับผู้ติดเชื้อหนองใน แพทย์จะให้ตรวจเลือด เพื่อดูว่าติดเชื้อโรคอื่นๆหรือไม่ เช่น เชื้อเอชไอวี เชื้อซิฟิลิส
  • สำหรับผู้ป่วยเพศหญิง ที่มีอาการหนองไหลออกจากท่อปัสสาวะ รวมถึง มีไข้สูง ปวดท้องน้อย ขัดเบา ตกขาว แสดงว่าเกิดภาวะแทรกซ้อน ที่มดลูก ต้องพบแพทย์โดยด้วน ภายใน 24 ชั่วโมง
  • สำหรับสตรีมีครรภ์ ที่ติดเชื้อหนองใน เป็นอันตรายต่อชีวิตของลูกในครรภ์ อาจต้องกระตุ้นให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดได้

วิธีป้องกันการติดเชื้อโรคหนองใน

  • ให้หลีกเลี้ยงการเปลี่ยนคู่นอน หากมีความจำเป็นควรตรวจโรคให้ดีก่อน
  • หลีกเลี่ยงงานหรือกิจกรรมที่ทำให้เกิดการนอนกับคนที่ไม่รู้จัก หรือกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนคู่นอน
  • ให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันในการมีเพศสัมพันธ์
  • หลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกับผู้มีเชื้อโรคหนองใน
  • กินยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันโรคภายหลังการร่วมเพศ
  • การกินยาล้างลำกล้อง ซึ่งเป็นยาระงับเชื้อ ไม่ใช่ยาทำลายเชื้อ

โรคหนองใน โรคโกโนเรีย ( Gonorrhea ) การติดเชื้อแบคทีเรียในน้ำอสุจิและสารคัดหลังในช่องคลอด ทำให้เกิดหนองที่มดลูก ท่อปัสสาวะ ช่องปาก คอ ตา ทวารหนัก เป็นต้น รักษาอย่างไร แนวทางการป้องกันทำอย่างไร


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove