การแต่งงานเป็นจารีตและประเพณี เพื่อประกาศให้คนในสังคมรับทราบการจะครองคู่กัน ความรู้เกี่ยวกับงานแต่งงานของคนไทย คนจีน ชาวคริสต์ ชาวอิสลาม และ การวางแผนการแต่งงาน
การแต่งงาน เป็นจารีตและประเพณี ในการเป็นพิธีการสำหรับคนสองคน เพื่อประกาศให้คนในสังคมของคนนั้นๆได้รับทราบการจะครองคู่ ประเพณีการแต่งงานของแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ ศาสนา ประเทศ และชนชั้นทางสังคม มีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งประเพณีการแต่งงานมักมีงานเลี้ยงงานแต่งงาน
ประเพณีการแต่งงาน
ประเพณีการของแต่ละชนชาติ ศาสนา มีความแตกต่างกันออกไปตามความเชื่อของแต่และสังคมนั้นๆ ซึ่งเราได้รวบรวมประเพณีการแต่งงานของแต่และสังคมว่าเป็นอย่างไร
![]() งานแต่งงานของคนไทย |
![]() งานแต่งงานของคนจีน |
![]() งานแต่งงานชาวคริสต์ |
![]() งานแต่งงานชาวอิสลาม |
![]() งานแต่งงานของชาวอินเดีย |
![]() งานแต่งงานของชาวเกาหลี |
![]() งานแต่งงานชาวญี่ปุ่น |
การวางแผนการแต่งงาน
การแต่งงานนั้นจำเป็นต้องมีการวางแผนงาน เพื่อให้งานมีควาามราบรื่นไร้อุปสรรค์ ซึ่งการวางแผนการแต่งงานนั้นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ขั้นตอนของประเพณีการแต่งงานที่จะจัด ข้อจำกัดของทั้งคู่ เรื่องงบประมาณ และเวลา ซึ่งรายและเอียดของการวางแผนการแต่งงาน มีดังนี้
- เริ่มจากการบอกกล่าวผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย จากนั้นศึกษาเรื่องขั้นตอนประเพณีการแต่งงานก่อน ในแต่และประเพณีในการแต่งงานมีความแตกต่างกันออกไป ในที่นี้เราจะกล่าวรวมๆ ถึงขั้นตอนการพร้อมที่จะจัดงานแต่งงานเลย
- กำหนดงบประมาณ สถานที่ และวันเวลาที่จะจัดงานให้ชัดเจนก่อน
- จัดลำดับขั้นตอนของงานแต่งงานให้ขัดเจนก่อน ว่าต้องทำอะไรบ้าง ต้องใช้อะไรบ้าง
- เตรียมรายชื่อแขก และเตรียมการ์ดเชิญร่วมแต่งงาน รวมถึงเรื่องการเดินทางสำหรับแขกเพื่อมางานแต่งงาน
- ของชำรวยที่ใช้ในงานแต่งงาน ตามจำนวนของแขกที่คาดว่าจะมางาน
- เตรียมความพร้อมด้านสถานที่ หากเป็นบ้านก็ให้เตรียมจัดพื้นที่ให้พร้อมสำหรับการใช้สถานที่ การตกแต่งสถานที่ เช่น จุดถ่ายรูป จุดรับของชำรวยและร่วมเขียนคำอวยพร
- เตรียมความพร้อมเรื่องประเพณีงานแต่ง เช่น อุปกรณ์ที่ใช้ในกิจกรรม จัดลำดับขั้นตอนการจัดกิจกรรม ผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานประเพณี
- เตรียมงานเลี้ยงสำหรับงานแต่งงาน อาหาร กิจกรรมต่างๆ ในงานเลี้ยง
คำแนะนำสำหรับขั้นตอนในการเตรียมการจัดงานแต่งงาน
- ตัดสินใจร่วมกัน ก่อนอื่นผมแนะนำให้ว่าที่คู่บ่าวสาวทั้งสองนั่งลงและจับเข่าคุยกันก่อนว่าอยากจะให้งานของตัวออกมาเป็นแบบใด ลักษณะใด ถ้ามีความคิดที่แตกต่างกันมาก ก็คงต้องพยายามปรับเข้าหากัน ร่วมกันคิด ร่วมกันปรึกษาจนสามารถหาข้อสรุปให้ได้ก่อน รวมถึงการประเมินจำนวนแขกที่เราจะเชิญมาในงานด้วย อย่าลืมนะครับว่า การจัดงานแต่งงานนี้เป็นงานของคุณทั้งสองคน ฉะนั้นอย่าโยนให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ตัดสินใจทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว ผมแนะนำให้คู่บ่าวสาวทั้งสองควรร่วมกันคิด ร่วมกันบริหารจัดการนะครับ และควรที่จะมีสมุดบันทึกไว้คอยจดด้วยเพื่อกันลืม จะได้ไม่ต้องมาแก้ปัญหาในภายหลัง
- ตั้งงบประมาณที่จะใช้ในการจัดงาน หลังจากที่คู่บ่าวสาวได้ตกลงกันในเรื่องรูปแบบของงานแล้ว ต่อมาก็เป็นเรื่องของการตั้งงบประมาณที่ควรจะต้องจ่ายในการจัดงาน ส่วนนี้สำคัญมากๆนะครับ เพราะเป็นเรื่องของเงินๆทองๆ หรือใครว่าไม่สำคัญ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผมเห็นมามากต่อมากเลยว่า ถ้าไม่มีการตั้งงบไว้ รับรองงบบานปลายอย่างแน่นอน และงบที่ตั้งไว้ควรที่จะสมดุลย์กับรูปแบบของงานที่ตกลงกันไว้ในตอนแรกด้วยนะครับ ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป และสำหรับคู่บ่าวสาวที่มีงบค่อนข้างจำกัด ผมแนะนำนะครับว่า ถ้างบของเราประเมินแล้วไม่น่าจะพอ ก็ลองมาปรับรูปแบบงานกันใหม่ ไม่ควรไปปรับงบเพิ่มเป็นอันขาด ถ้าเราลงลึกถึงข้อมูลอย่างจริงจัง ผมรับรองว่าแม้งบจะน้อยหน่อยก็สามารถที่จะได้งานออกมาดีได้พอสมควรเลยทีเดียวนะครับ ผมไม่อยากให้คู่บ่าวสาวที่เริ่มสร้างครอบครัวของตนเองใหม่ๆจะมาเครียดเรื่องการเงินในชีวิตหลังแต่งงาน อย่าลืมที่ผมเคยพูดเสมอว่า ชีวิตหลังแต่งงานนั้นสำคัญมากๆ และมีหนทางที่เราต้องเดินอีกยาวไกลนัก
- หาตัวช่วยหรือที่ปรึกษา ข้อนี้เป็นการหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่จะนำมาใช้ในการจัดงาน ซึ่งเพื่อนๆสามารถค้นหาได้จากอินเตอร์เน็ท ไม่ว่าจะเป็นแหล่งที่ขาย หรือราคาค่าใช้จ่ายต่างๆ นอกเสียจากว่าคู่บ่าวสาวท่านใดไม่อยากทำเอง หรือไม่มีเวลา ก็จะลองใช้บริการจากพวกออแกไนซ์ หรือเวดดิ้งแพลนเนอร์ ที่เขาให้บริการรับปรึกษาและจัดงานแต่งงานก็ได้ครับ สะดวกดี
- หาสถานที่จัดงานแต่งงาน เมื่อได้ตั้งงบและพอประเมินได้อย่างคร่าวๆถึงจำนวนแขกที่จะเชิญมาในงาน สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือ การออกหาสถานที่สำหรับจัดงานแต่งงาน ซึ่งการหาสถานที่นี้ต้องรีบทำเลยนะครับ อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง โดยเฉพาะผู้ที่ถือฤกษ์ ด้วยวันฤกษ์ดีๆจะมีคู่แต่งงานในวันนั้นเป็นจำนวนมาก บางคู่จองสถานที่กันข้ามปีเลยก็มี ถ้าเราไม่รีบ อาจจะได้สถานที่ไกลๆ หรือสถานที่ๆไม่เหมาะกับคอนเซ็ปงานของเรา
- พิมพ์การ์ดแต่งงาน เมื่อเราได้สถานที่และรู้จำนวนแขกอย่างคร่าวๆแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการพิมพ์การ์ดแต่งงาน หรือการ์ดเชิญนั่นเอง ข้อนี้ผมมีคำแนะนำแก่ว่าที่คู่บ่าวสาวมือใหม่นะครับว่า การเชิญแขกด้วยการ์ดนั้นดีกว่าการเชิญด้วยวิธีโพสในโซเชียลเน็ตเวิร์คมากเลย ข้อแรกก็คือการเชิญด้วยการ์ดเป็นการให้เกียรติแก่แขกที่เราเชิญมาและค่อนข้างเป็นทางการ และที่สำคัญสามารถที่จะประเมินแขกที่จะมาในงานได้ค่อนข้างจะแม่นยำ จะผิดบ้างก็ไม่น่าเกินบวกลบ 15% ส่วนการเชิญทางโซเชียลนั้น เราไม่สามารถที่จะประเมินแขกที่จะมาในงานได้เลย ซึ่งถ้าเราไม่ได้เตรียมโต๊ะสำรองไว้มากพอ ก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหาได้
- หาเวดดิ้งสตูดิโอ ช่างภาพ ช่างวีดีโอ เพื่อทำ วีดีโอ Presentation แนะนำตัวคู่บ่าวสาว ตลอดจนถ่ายภาพ และถ่ายวีดีโอในวันแต่งงานของคุณ ในกรณีนี้ผมแนะนำให้หาข้อมูลให้มากสักหน่อย ดูตัวอย่างผลงานของสตูดิโอที่คุณหมายตาไว้ ด้วยมีหลากหลายราคาให้เลือก ต้องเปรียบเทียบราคาให้ดีอย่าใจร้อนนะครับ และที่สำคัญน่าจะลองเช็คประวัติการบริการของเขาเท่าที่ทำได้ ผมไม่อยากให้ในวันงาน คู่บ่าวสาวต้องมาวิตกกังวลว่าช่างภาพจะเบี้ยวหรือเปล่าก็ไม่รู้ คอยแต่ตั้งตาคอย เพราะช่างภาพที่เราว่าจ้างไม่มีวินัยในการทำงาน สายตลอด อย่างนี้ไม่เอานะครับ
- ชุดแต่งงาน การเลือกชุดแต่งงานเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะว่าที่เจ้าสาวแล้วจะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่และต้องพิถีพิถันเป็นกรณีพิเศษเลยก็ว่าได้ และเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เวลามากพอควร ไหนจะต้องหาร้านที่เชื่อถือได้ หาแบบ สั่งตัด ในบางกรณีอาจจะมีการแก้ไขแล้วแก้ไขอีก มีการลองชุดกันหลายต่อหลายครั้ง คู่บ่าวสาวควรจะต้องเผื่อเวลาไว้พอสมควร แต่ผมว่าคุ้มนะครับ เพราะถ้าในวันแต่งงานของคุณ ชุดแต่งงานที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี ตัดเย็บด้วยความประณีต จะทำให้คุณดูดี สง่างาม สมกับเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายในงานเลยทีเดียว
- หาช่างแต่งหน้าทำผมงานแต่งงาน เพื่อที่จะมาเนรมิตให้คุณเป็นเจ้าชายเจ้าหญิงในวันงาน ซึ่งช่างแต่งหน้าทำผมนั้นก็มีหลายระดับหลายราคา ลองค้นหาข้อมูลดูจากอินเตอร์เน็ท หรือไม่ก็ลองสอบถามพวกเพื่อนๆหรือญาติที่มีประสบการณ์หรือผ่านงานแต่งงานมาแล้ว
บทความเกี่ยวกับการแต่งงาน