ภาวะตาแห้ง Dry Eyes อาการน้ำที่ตาไม่เพียงพอที่จะหล่อลื่นลูกตา ทำให้ระคายเคืองตา แสบตา ไม่สบายตา เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ ดูมือถือนานๆ รักษาและป้องกันอย่างไร

โรคตาแห้ง โรคตา โรคไม่ติดต่อ ไม่มีน้ำตา

โรคตาแห้ง ภาษาอังกฤษ เรียก Dry Eyes สามารถพบได้ในทุกเพศและทุกวัย แต่ที่พบมากในเพศหญิง ที่หมดประจำเดือนเดือนแล้ว และกลุ่มคนที่ใช้สายตามมาก เช่น กลุ่มคนทำงานออฟฟิต และ คนที่ดวงตาต้องกระทบกับลมมากๆ โรคตาแห้ง เป็นภาวะน้ำตาที่มาหล่อเลี้ยงดวงตาไม่เพียงพอทำให้ดวงตาขาดความชุ่มชื่น สำหรับน้ำหล่อเลี้ยงดวงตา หรือ ฟิล์มน้ำตา สร้างจากเซลล์ในเยื่อบุตา ประกอบด้วย 3 ชั้น คือ ชั้นไขมัน ชั้นสารน้ำ และ ชั้นน้ำเมือก

คนที่มีภาวะตาแห้ง บางครั้งไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคตาแห้ง เนื่องจากการระคายเคืองดวงตาจนเกิดความเคยชิน อาจทำให้เป็นแผลที่กระจกตา กระจกตาไม่เรียบใส  ผิวกระจกตาอักเสบ บางรายอาจร้ายแรงจนเกิดการติดเชื้อทำให้ตาบอดได้

สาเหตุของโรคตาแห้ง

โรคตาแห้งมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ทั้งจากสภาพแวดล้อมและความผิดปรกติของร่างกายเอง เราสามารถสรุปสาเหตุของการเกิดภาวะตาแห้ง ได้ดังนี้

  1. ความผิดปรกติของฮอร์โมนเพศหญิง
  2. ผลค้างเคียงจากการใช้ยาในบางกลุ่ม เช่น ยากลุ่มแอนตี้ฮิสตามีน ยากล่อมประสาท ยารักษาไข้หวัดและภูมิแพ้ ยาทางจิตเวช และยาลดความดันโลหิตสูง เป็นต้น
  3. ภาวะเยื่อบุตาอักเสบอย่างรุนแรง ทำให้การสร้างน้ำตาลดลง
  4. ภาวะการสร้างน้ำตาน้อยผิดปกติ รวมถึงส่วนประกอบของน้ำตาผิดปกติ เช่น น้ำตาระเหยเร็ว เป็นต้น
  5. ภาวะการเสื่อมของร่างกายตามวัย
  6. ภาวะโรคแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ทำให้เกิดต่อมน้ำตาอักเสบ
  7. ผลข้าวเคียงจากการรักษาดวงตาด้วยการทำเลสิก ทำให้ร่างกายไม่มีการถูกกระตุ้นให้สร้างน้ำตา
  8. ผลข้างเคียงจากการใช้คอนแทคเลนส์
  9. การเกิดอุบัตติเหตุกับดวงตา

อาการของโรคตาแห้ง

สำหรับโรคตาแห้ง ผู้ป่วยจะแสดงอาการที่ดวงตาและส่งผลกระทบต่อการมองเห็นพอสมควร ผู้ป่วยจะระคายเคืองดวงตาเหมือนมีเศษฝุ่นอยู่ในตาตลอดเวลา ขี้ตาเหนียว บางครั้งมีอาการน้ำตาไหล เราสามารถสรุปลักษณะอาการของโรคตาแห้ง ได้ดังนี้

  • รู้สึกไม่สบายตา มีอาการฝืดๆดวงตา ระคายเคืองตา เหมือนมีอะไรอยู่ที่ดวงตาตลอดเวลา
  • การมองเห็นผิดปรกติ เช่น อาการตาพร่า อาการแพ้แสงแดด และอาการสายตามัว บางครั้งการมองเห็นภาพเหมือนมีภาพซ้อน
  • น้ำตาไหล
  • ขี้ตาเป็นเมือกเหนียว
  • อาจรู้สึกปวดหัว หรือ ปวดตา บางครั้ง

ลักษณะอาการต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น จะเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น หากใช้สายตาหนักขึ้น เช่น อ่านหนังสือ ขับรถ ทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ หรือ ดูทีวีนานๆ

การรักษาโรคตาแห้ง

สำหรับทางการรักษาโรคตาแห้ง มีหลายระดับขึ้นอยู่กับปัจจัยของการเกิดโรค ตั้งแต่ การปรับการใช้ชีวิต การใช้ยาหยอดตาลดการระคายเคือง การให้ยารักษาตามอาการ รวมถึงการผ่าตัดเพื่อรักษา สรุปแนวทางการรักษาโรคตาแห้ง ดังต่อไปนี้

  1. สำหรับกลุ่มคนที่มีปัจจัยตาแห้งจากสภาพแวดล้อมและการใช้ชีวิต ให้หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองดวงตา เช่น ไม่อยู่ในที่ที่มีฝุ่นละออง ควัน หลีกเลี่ยงการใช้พัดลม แต่หากจำเป็นให้ใส่แว่นตาเพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนต่อดวงตา รวมถึงให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพดวงตา
  2. สำหรับกลุ่มคนที่มีอาการตาแห้งจากภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ให้รักษาโรคที่เป็นสาเหตุของการเกิดตาแห้ง เช่น โรคเปลือกตาอักเสบ โรคเบาหวาน เป็นต้น
  3. ใช้น้ำตาเทียมช่วยลดอาการขาดน้ำหล่อเลี้ยงดวงตา และลดการอักเสบของดวงตา
  4. สำหรับในบางกรณีหากจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด มีแนวทางการผ่าตัด 3 ลักษณะ คือ การทำ Punctual plug คือ การผ่าตัดเพื่ออุดช่องทางการไหลออกของน้ำตาลงสู่โพรงจมูก การทำ Punctal cautery คือ การผ่าตัดโดยการจี้บริเวณช่องทางที่น้ำตาไหล เพื่ออุดการไหลออกของน้ำตาแบบถาวร และ การเย็บเปลือกตาหรือหนังตา เพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีความผิดปรกติของเปลือกตาและหนังตา

วิธีการป้องกันโรคตาแห้ง

สำหรับโรคตาแห้ง สามารถป้องกันโอกาสการเกิดโรคในส่วนของปัจจัยที่สามารถควบคุมได้ แนวทางการป้องกันโรคตาแห้ง มีดังนี้

  • ให้ใส่เครื่องป้องกันดวงตา เช่น ใส่แว่นช่วยป้องกันแสงสีฟ้า จากคอมพิวเตอร์
  • พักสายตาจากการใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์บ่อยๆ หากจำเป็นต้องใช้สายตานานๆ ควรพักสายตาทุก 30 – 60 นาที ด้วยการหลับตา 1 – 2 นาที
  • หมั่นบริหารดวงตา เพื่อกระตุ้นต่อมน้ำตาให้หลั่งน้ำตาออกมามากขึ้นโดยอัตโนมัติ
  • ควรสวมแว่นกันแดดหรือกันลม หากจำเป็นต้องอยู่ในบริเวณที่อากาศแห้ง ร้อน หรือมีลมพัดแรง
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ช่วยบำรุงสายตา
  • หมั่นตรวจสุขภาพดวงตาเป็นประจำทุกปี

ภาวะตาแห้ง ( Dry Eyes ) คือ อาการน้ำที่ตาไม่เพียงพอที่จะหล่อลื่นลูกตา ส่งผลให้ระคายเคืองตา แสบตาไม่สบายตา โรคจากการใช้คอมพิวเตอร์มาก ดูมือถือนานๆ แนวทางการรักษาและการป้องกันโรคตาแห้ง ทำอย่างไร

ตาแห้ง Dry Eyes น้ำตาที่หล่อลื่นดวงตาไม่พอ ทำให้ระคายเคืองตา แสบตา ไม่สบายตา ต้องไม่ขยี้ตา ใช้น้ำตาเทียมลดอาการตาแห้ง อาจเกิดจากผลข้างเคียงของยาลดความดันโรคตาแห้ง โรคตา โรคไม่ติดต่อ

โรคตาแห้ง คือ โรคเกี่ยวกับตา ภาษาอังกฤษ เรียก Dry Eyes เป็นภาวะน้ำตาที่มาหล่อเลี้ยง ดวงตาให้มีความชุ่มชื่นและเคลือบกระจกตาไม่พอ หรือมีปริมาณน้อยเกินไป อาการตาแห้ง สามารถพบได้ในทุกเพศและทุกวัย แต่ที่พบมากในเพศหญิง ที่หมดประจำเดือนเดือนแล้ว โรคตาแห้งถือเป็นโรคทางตาชนิดหนึ่ง

ตาแห้ง เป็นภาวะฟิล์มน้ำตา ที่ฉาบอยู่บริเวณส่วนหน้าของลูกตา ไม่เพียงพอที่จะหล่อลื่นลูกตา ทำให้เกิดการระคายเคือง ส่งผลต่อการแสบตา ตาแห้ง ระคายเคืองตา และไม่สบายตา โดย ฟิล์มน้ำตา นั้น มี 3 ชั้น ประกอบด้วย ชั้นไขมัน คือ ชั้นนอกสุด ชั้นสารน้ำ  เป็นน้ำที่สร้างจากต่อมน้ำตา และ ชั้นสุกท้าย คือ ชั้นน้ำเมือก สร้างจากเซลล์ในเยื่อบุตา

สาเหตุของโรคตาแห้ง

สาเหตุของการเกิดภาวะตาแห้งนั้น มีสาเหตุจากการเกิดโรคหลากหลายสาเหตุ โดยจะแยกเป็นข้อๆ รายละเอียด ดังนี้

  1. เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายเพศหญิง และผู้ป่วยเกี่ยวกับโรค Sjogren’s Syndrome จะพบว่ามีอาการตาแห้ง
  2. การใช้ยาในกลุ่ม ยากลุ่มแอนตี้ฮิสตามีน ยากล่อมประสาท ยารักษาหวัดและภูมิแพ้ ยาทางจิตเวช และยาลดความดันโลหิตสูงที่มีฤทธิ์ช่วยในการขับปัสสาวะ ยาชนิดดังกล่าวอาจทำให้การสร้างน้ำตาลดลง
  3. อาการเยื่อบุตาอักเสบอย่างรุนแรงจากการติดเชื้อ หรือการแพ้ยา ทำให้การสร้างน้ำตาลดลง
  4. ภาวะการสร้างน้ำตาน้อยกว่าปกติ เกิดจากความผิดปรกติของการสร้างน้ำตา
  5. ส่วนประกอบของน้ำตาผิดปกติ เช่น น้ำตาระเหยเร็วกว่าปกติ ทำให้ทำงานไม่ได้สมดุล จึงมีการสร้างน้ำตาน้อยลง
  6. การเสื่อมของร่างกายตามอายุ โดยส่วนที่เกิดการเสื่อม คือ ต่อมน้ำตา
  7. เกิดจากภาวะโรคแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ซึ่งโรคเบาหวานทำให้เกิดการอักเสบต่อมน้ำตา
  8. การทำเลสิก ซึ่งเกิดการตัดเส้นประสาทที่มาเลี้ยงกระจกตา ทำให้ไม่มีการถูกกระตุ้นให้สร้างน้ำตา
  9. การใช้คอนแทคเลนส์
  10. เกิดอุบัตติเหตุกับดวงตา ส่งผลต่อการทำงานของต่อมน้ำตา
  11. การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาหยอดตา ยาที่มีฤทธิ์ต้านการทำงานของระบบประสาท เป็นต้น

อาเการของโรคตาแห้ง

สำหรับ อาการของโรคตาแห้ง ผู้ป่วยจะรู้สึกฝืดที่ตา ระคายเคืองเหมือนมีเศษฝุ่นอยู่ในตา ในบางคนขี้ตาจะเป็นเหมือกเหนียวในผู้ป่วยที่ใช้คอนแทคเลนส์ ถ้ามีอาการตาแห้ง ก็จะระคายเคืองมากขึ้น บางครั้งมี อาการน้ำตาไหล เนื่องจากน้ำตาปกติน้อย ทำให้ต่อมน้ำตาทำการบีบน้ำตาออกมาจนมาก อาการของโรคตาแห้งนั้น เราได้แยกเป็นข้อๆ เพื่อให้ง่ายต่อการศึกษา มีดังนี้

  • มีอาการฝืดที่ดวงตา ลักษณะคล้ายกับว่าไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงที่ดวงตา
  • มีอาการระคายเคืองที่ดวงตา
  • มีความไม่สบายตา เหมือนมีอะไรอยู่ที่ดวงตาตลอดเวลา
  • มีอาการผิดปรกติของสายตา เช่น อาการตาพร่า อาการแพ้แสงแดด และอาการสายตามัว
  • มีความผิดปรกติของการมองเห็นภาพ เช่น มีอาการภาพซ้อน

โดยอาการต่างๆ เหล่านี้ ที่กล่าวมาในข้างต้น จะเป็นมากขึ้น เมื่อจำเป็นต้องใช้สายตาหนักขึ้น เช่น อ่านหนังสือ ขับรถ ทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ หรือ ดูทีวี รวมถึงการอยู่ในสิ่งแวดล้อม เช่น ที่มีลมพัดแรง อยู่บนเครื่องบิน อยู่ในห้องแอร์ เป็นต้น

การรักษาโรคตาแห้ง

สำหรับการรักษาโรคตาแห้งนั้น ต้องไม่ขยี้ตา ใช้น้ำตาเทียมหยอดตา เพื่อลดอาการตาแห้ง หมั่นกระพริบตาบ่อยๆ เพื่อลดอาการระคายเคือง และให้ดื่มน้ำเสมอ เพื่อรักษาสมดุลน้ำในร่างกาย ปิดท่อระบายน้ำตาจะช่วยให้น้ำตาหล่อเลี้ยงตาเพิ่มขึ้น เราจะสรุปแนวทางการรักษาโรคตาแห้งให้เป็นข้อๆ ดังต่อไปนี้

  1. หลีกเลี่ยงปัจจัยต่างๆที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองดวงตา เช่น ไม่อยู่ในที่ที่มีฝุ่นละออง ควัน หลีกเลี่ยงการใช้พัดลม หรือ ปัจัยเสี่ยงที่ทำให้ลมโดนตา แต่หากจำเป็น ให้ใส่แว่นตาเพื่อป้องกัน
  2. ทำการรักษาโรคที่เป็นสาเหตุของการเกิดตาแห้ง เช่น โรคเปลือกตาอักเสบ เป็นต้น
  3. อาการตาแห้งเกิดอาการดวงตาขาดน้ำหล่อลื่นดวงตา ให้ใช้สารชดเชยน้ำตา เช่น น้ำตาเทียม และ ยาที่เป็นสารน้ำเหลืองจากเลือด ( Serum ) ของตัวเราเอง เรียก Autologus serum หรือ ใส่แว่นตาที่ทีให้ตาชุม่ชื่น เรียก Moist chamber
  4. ใช้ยาหยอดตาช่วยเพื่อลดการอักเสบของดวงตา แต่การใช้ยาหยอดตา ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
  5. ใช้ยากดภูมิคุ้มกันต้านทานโรค เรียก Immunosuppressant ยากดภูมิคุ้มกันโรคจะช่วยลดการอักเสบของดวงตา
  6. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ตาดวงตา เป็น อาหารที่มีโอเมกา 3 จะช่วยให้ภาวะตาแห้งดีขึ้นได้
  7. การผ่าตัดเื่อทำการลดการระเหยของน้ำตา มีการผ่าตัด 4 ลักษณะ เพื่อรักษาอาการตาแห้ง ประกอบด้วย
    1. การทำ Punctual plug คือ การผ่าตัดเพื่ออุดช่องทางการไหลออกของน้ำตาลงสู่โพรงจมูก
    2. การทำ Punctal cautery คือ การผ่าตัดโดยการจี้บริเวณช่องทางที่น้ำตาไหล เพื่ออุดการไหลออกของน้ำตาแบบถาวร
    3. การใช้คอนแทคเลนส์ ชนิดพิเศษ ที่เรียกว่า Scleral lens เป็นคอนแทคเลนส์ที่ช่วย อุ้มน้ำตาให้มากขึ้น
    4. การเย็บเปลือกตาหรือหนังตา เพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีความผิดปรกติของเปลือกตาและหนังตา

การป้องกันโรคตาแห้ง

สำหรับการป้องกันการเกิดโรคตาแห้งต้องลดปัจจัยเสี่ยงที่เป็นสาเหตุของอาการตาแห้งทั้งหมด แนวทางการป้องกัน มีดังนี้

  • หากต้องให้สายตาอย่างหนัก ต้องหาเวลาพักสายตาในทุกๆ 60 นาที
  • กระพริบตาบ่อยๆให้ดวงตามีน้ำหล่อเลี้ยง
  • หากระคายเคืองตาให้ใช้น้ำตาเทียมหยอด เพื่อลดการระคายเคือง
  • ไม่ควรสวมคอนเทคเลนส์นานเกิน 8 ชั่วโมง
  • ดื่มน้ำมากๆ
  • พักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
  • สวมแว่นกันแดนเมื่อต้องออกแดดนานๆ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชนืต่อร่างกาย

สมุนไพรบำรุงสายตา ประกอบด้วย พืช ผัก ต้นไม้ ที่มีวิตามินเอ สูง สามารถช่วยบำรุงสายตาได้ดี มีดังนี้

เสาวรส สมุนไพร ผลไม้ ประโยชน์ของเสาวรส
เสาวรส
ฟักทอง สมุนไพร ผักสวนครัว สรรพคุณของฟักทอง
ฟักทอง
ชะอม สมุนไพร สมุนไพรไทย ผักสวนครัว
ชะอม
เดือย ลูกเดือย สมุนไพร ประโยชน์ของเดือย
ลูกเดือย
ลูกยอ ต้นยอ สมุนไพร สมุนไพรไทย
ยอ
ผักโขม สมุนไพร ผักสวนครัว ประโยชน์ของผักโขม
ผักโขม

ตาแห้ง ( Dry Eyes ) น้ำตาที่หล่อลื่นดวงตาไม่พอ ทำให้เกิดการระคายเคือง แสบตา ไม่สบายตา วิธีรักษาโรคตาแห้งต้องไม่ขยี้ตา ใช้น้ำตาเทียมหยอดตา เพื่อลดอาการตาแห้ง อาจเกิดจากผลข้างเคียงของยาลดความดัน


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove