การเลี้ยงลูกยุคใหม่ พ่อแม่ควรมีหลักคิดการเลี้ยงลูกในเชิงบวก เพื่อพัฒนาทักษะการดำรงชีวิตด้านต่างๆให้สอดสอดคล้องกับยุคสมัย การเลี้ยงลูกในยุคนี้ เปลี่ยนแปลงเร็วมากการเลี้ยงลูก พัฒนาการเด็ก แม่และเด็ก พ่อแม่ยุคใหม่

สำหรับแนวคิดที่เหมาะสำหรับโลกสมันใหม่ เช่น หลักแนวคิดในการส่งเสริมด้านการเรียนของลูก หลักแนวคิดในการเรียนรู้ของลูกผ่านการเล่น หลักแนวคิดในการเข้าสังคม ฯลฯ เป็นต้น ดังนั้นหลักแนวคิดเพื่อการเลี้ยงลูกให้ทันยุคสมัย จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับพ่อแม่ยุคใหม่ เรามี 7 หลักแนวคิดเพื่อการเลี้ยงลูก มาแนะนำให้พ่อแม่ สามารถนำไปใช้ได้ ดังนี้

  1. หลักแนวคิดด้านการเรียน การศึกษาของเด็ก ยุคใหม่ไม่ได้อยู่เพียงแค่ในตำรา แบบเรียน หนังสือเสริมทักษะ หรือนั่งฟังคุณครูพูดสอนอยู่หน้าชั้นอย่างเดียว พ่อแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักค้นคว้าข้อมูลในโลกออนไลน์ เพื่อแสวงหาแหล่งความรู้ที่หลากหลายแต่ก็ควรอธิบายให้ลูกรู้ถึงพิษภัยที่แอบแฝงจากโลกออนไลน์ด้วย
  2. หลักแนวคิดด้านการเล่น ของเล่น ถือเป็นสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับลูก พ่อแม่ควรเลือกของเล่นที่สามารถสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว และเป็นกิจกรรมการเล่นที่ส่งเสริมการเรียนรู้ของลูกด้วย เช่น การต่อบล็อกไม้ การพับกระดาษ ลิงชิงบอล การอ่านนิทาน การเล่นบทบาทสมมุติ เป็นต้น
  3. หลักแนวคิดด้านโภชนาการ อาหารและโภชนาการเป็นปัจจัยหลักที่ ช่วยให้ร่างกายและสมองของลูกมีการเจริญเติบโต มีน้ำหนักส่วนสูงที่เพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ โดยเฉพาะนมแม่และคุณค่าสารอาหารครบ 5 หมู่ หลักในการเลือกโภชนาการของลูกควรคำนึกถึงประโยชน์เป็นหลักโดยให้ในสัดส่วนที่เหมาะสม และ ควรหลีกเลี่ยงอาหาร ตามกระแสสื่อโฆษณา เช่น ขนมคบเคี้ยว น้ำอัดลม ฯลฯ เป็นต้น
  4. หลักแนวคิดด้านการใช้ภาษา การส่งเสริมด้านภาษา ให้ลูกรู้จักภาษามากกว่าหนึ่งภาษานั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากภาษาเป็นการสื่อสารอย่างหนึ่งที่ต้องอาศัยทักษะในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง พ่อแม่ สามารถช่วยกระตุ้นและสนับสนุนการใช้ทักษะภาษาของลูกผ่านการพูดคุยและตอบโต้กับลูกในชีวิตประจำวัน
  5. หลักแนวคิดด้านการเข้าสังคม หลักแนวคิดใน การเข้าสังคม มีงานวิจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศกล่าวว่า เด็กที่มีเพื่อนก่อนหรือตั้งแต่เตรียมอนุบาล จะสามารถปรับตัวได้ดีกว่าเด็กคนอื่นเมื่อเริ่มเข้าโรงเรียน การมีเพื่อนจะช่วยให้ลูกเรียนรู้ทักษะสังคมที่เป็นประโยชน์ เช่น การทำงานเป็นกลุ่ม การเข้าหาผู้อื่น  การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การจัดการปัญหาร่วมกัน ดังนั้นพ่อแม่ควรสร้างหลักคิดด้านการเข้าสังคมให้ลูกคุ้นเคยที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น เช่น การแนะนำให้ลูกรู้จักคนอื่น รู้จักการทักทาย การยกมือสวัสดี เป็นต้น
  6. หลักแนวคิดด้านการเป็นแบบอย่างที่ดี การเป็นแบบอย่างที่ดีสามารถสร้าง หลักคิด ให้ลูกได้อย่างมาก เนื่องจากแบบอย่างที่ดีของพ่อแม่จะเป็นภาพการจดจำในการแสดงออกทาง พฤติกรรมของลูก ได้ โดยทำเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกได้ซึมซับรับเป็นแบบอย่างในทุกเรื่องทั้งพฤติกรรมการกระทำ ทัศนคติ ความคิด บุคลิก ลักษณะนิสัย ดังนั้น พ่อแม่ ควรสร้างแบบอย่างที่ดีจากกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันให้แก่ลูกได้ เช่น การสร้างวินัยให้ลูกรู้จักการรับผิดชอบในหน้าที่ตนเอง รู้จักจัดเก็บสิ่งของหรือของเล่นต่างๆ ให้เป็นระเบียบ เป็นต้น
  7. หลักแนวคิดด้านการบริหารและสร้างวินัยการออมเงิน การรู้จักอดออม ถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่พ่อแม่สามารถสร้างหลักคิดนี้ให้ลูกเห็นคุณค่า และ มีวินัยในการใช้จ่าย อย่างเหมาะสม พ่อแม่สามารถนำ กิจกรรมในชีวิตประจำวัน มาประยุกต์ใช้กับลูกได้  การออม ไม่ใช่เพียงการเก็บหอมรอมริบ แต่ การออม ยังหมายรวมถึงการใช้จ่ายโดยรู้จักประมาณตน ใช้เงินอย่างมีเหตุมีผล และออมเพื่อให้ตนเองมีพื้นฐานที่จะต่อยอดสู่ การพัฒนาชีวิต ในด้านอื่นๆต่อไป

การเลี้ยงลูกในยุคใหม่ พ่อแม่ ควรมีหลักแนวคิดในการเลี้ยงดูลูกเชิงบวก เพื่อเสริมสร้างพัฒนาทักษะการดำรงชีวิต ในด้านต่างๆ ให้สอดสอดคล้อง และ เหมาะสมกับยุคสมัย สำหรับยุคที่เทคโนโลยีและข่าวสารไวจนตามไม่ทัน การเลี้ยงลูกยุคนี้ เปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และ เทคโนโลยี

การเลี้ยงลูก ตั้งแต่เริ่มต้นตั้งแต่ปัญหาจนถึงการเลี้ยงลูกให้มีพัฒนาการที่ดี แข็งแรง สมบรูณ์ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ การเลี้ยงลูกนั้น มีรายละเอียดที่แตกต่างกันตามช่วงอายุของลูก การจะสร้างลูกให้เจริญเติบโตขึ้มมาพร้อมกับพัฒนาการที่ดี เป็นคนเก่ง มีพัฒนาการด้านร่างกาย สมองและอารมณ์ ที่ดี จำเป็นต้องเข้าใจเด็ก อย่างถูกต้อง

การกัดเล็บ เป็น โรคอย่างหนึ่ง เรียก Nail Biting ความเข้าใจผิด หลายอย่างเกี่ยวกับ การกัดเล็บ โตขึ้นจะหายเอง แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ วิธีการแก้ปัญหาการกัดเล็บทำอย่างไร

การแก้ปัญหาการกัดเล็บ ลูกชอบกัดเล็บ การเลี้ยงลูก

การกัดเล็บ ถือว่าเป็น โรคอย่างหนึ่ง เรียกว่า Nail Biting มีความเข้าใจผิดหลายอย่าง เกี่ยวกับการกัดเล็บ ว่า เป็น พฤติกรรมของเด็ก เมื่อโตขึ้นจะหาย พฤติกรรม เหล่านี้เอง แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่อย่างที่เข้าใจกัน วิธีการแก้ปัญหาการกัดเล็บทำอย่างไร

การกัดเล็บ เป็น พฤติกรรมที่ผิด แต่ มีการทำซ้ำบ่อยๆ จน เกิดการติด เป็น พฤติกรรมติดตัว มีการสำรวจพบว่า การกัดเล็บ เกิดขึ้นได้ใน ทุกเพศทุกวัย โดย วัยรุ่น มี พฤติกรรมการกัดเล็บ ที่มากที่สุด เป็น พฤติกรรมที่สั่งสมมาจากวัยเด็ก แล้ว สาเหตุของการกัดเล็บเกิดจากอะไรบ้าง แล้วมีผลเสียอย่างไร การแก้ไขปัญหาการชอบกัดเล็บจะทำอย่างไร

โรคการกัดเล็บ มี การสำรวจ ทั่วโลก พบว่า เด็กวัยไม่เกิด 10 ปี มี พฤติกรรมชอบกัด เล็บร้อยละ 28 วัยรุ่น มี พฤติกรรมการชอบกัดเล็บ ร้อยละ 45 ส่วนวัยผู้ใหญ่ มี พฤติกรรมการชอบกัดเล็บ ร้อยละ 30  จะเห็นได้ว่า พฤติกรรมการชอบกัดเล็บ นั้น หากไม่รีบแก้ไข ตั้งแต่วัยเด็ก จะติดตัว คนนั้นไปถึงตอนเป็นผู้ใหญ่

ทำไมถึงชอบกัดเล็บ

การกัดเล็บ มี การศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มคนเหล่านี้ว่าเป็น การลดพฤติกรรมความเครียด ซึ่ง ความเครียด นี้มาจากสิ่งแวดล้อมทั้งหมด ร้อยละ 99 ของผู้ที่กัดเล็บ เกิดจากปัญหาทางอารมณ์ เช่น ความเครียด หิว เบื่อ และเพียงแค่ชอบกัดเล็บ

ผลเสียของปัญหาการชอบกัดเล็บ

เราสามารถสรุป ผลเสีย ที่มีต่อ พฤติกรรมการชอบกัดเล็บ มาให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ มีรายละเอียด ดังนี้

  • การกัดเล็บ มี ผลเสียต่อบุคลิกภาพ การกัดเล็บให้คนเห็นนั้น ทำให้ดู บุคลิกภาพไม่ดี เมื่อ เกิดการต่อต้านจากคนในสังคม นั้นๆ จะส่งผลต่อผู้ที่ ชอบกัดเล็บ เช่น การไม่อยากเข้าสังคม ไม่กล้าเผชิญหน้ากับคน และ ขี้อาย ชอบอยู่คนเดียว เป็นต้น
  • การกัดเล็บ มี ผลเสียต่อสุขภาพ เนื่องจากมือของคนเรา เป็นส่วนที่ สัมผัสกับเชื้อโรค มากที่สุด และใน เล็บ ตามซอกเล็บเป็น แหล่งสะสมของเชื้อโรค ที่มีมาก การกัดเล็บ เป็นการนำเอา เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายโดยตรง หากเกิดภาวะร่างกายอ่อนแอ ไม่สามารถต่อต้านเชื้อโรค ได้ ก็จะ ส่งผลต่อการป่วย ทันที
  • การกัดเล็บ มี ผลเสียต่อฟัน การกัดเล็บบ่อยๆ อาจทำให้ ฟัน ผิดรูป และไม่สวย เป็น สาเหตุของการเสียบุคลิกภาพ เพิ่มขึ้นอีก และ การกัดฟัน นั้น อาจเป็น พฤติกรรมติดตัว นอนละเมอกัดฟัน ได้
  • การกัดเล็บ มี ผลเสียต่อนิ้วมือและเล็บ การกัดเล็บ ทำให้เกิดแผล อาการช้ำ อาการบวม ซึ่งอาจส่ง ผลต่อการผิดรูปผิดร่างของมือและเล็บ ได้

จะเห็นว่า การกัดเล็บ มี ผลเสียต่อคน และเป็น สาเหตุของพฤติกรรมต่างของเด็ก ที่จะโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต ดังนั้น  การแก้ปัญหาการกัดเล็บ เป็นสิ่งสำคัญที่ ไม่สามารถมองข้าม ได้เลย เรามี วิธีการแก้ปัญหาการชอบกัดเล็บ มานำเสนอ ดังนี้

  1. หากิจกรรมให้เด็กทำ แนะนำให้กิจกรรมที่เป็นการใช้มือมากๆ จะทำให้เด็กสนุก ผ่อนคลาย และ ไม่มีเวลาว่างใน การกัดเล็บ
  2. ลดความเครียดของลูก ไม่ว่าจะเป็น การทำกิจกกรม ที่ต้องใช้ความคิดที่ซับซ้อน หรือ การใช้ชีวิตของเด็ก พ่อกับแม่ต้องสังเกตุ พฤติกรรมของลูก อย่างใกล้ชิด
  3. อธิบายให้ลูกเข้าใจ การห้ามกัดเล็บ นั้น สำหรับเด็กบางคน ดื้น จะไม่เชื้อฟัง ต้อง อธิบายให้เด็กเข้าใจ ถึง ปัญหาการกัดเล็บ
  4. หา ตัวอย่างปัญหา จาก การกัดเล็บ ให้ลูกดู หากเด็กเห็นตัวอย่างปัญหา ด้านสุขภาพจาก การกัดเล็บ เด็กจะเกิดการกลัวใน การกัดเล็บ และไม่กล้ากัดเล็บ ไปเอง
  5. ตัดเล็บให้สั่น อยู่เสมอ หาก ไม่มีเล็บให้กัด ได้แล้ว เด็กบางคน จะเลิกกัดเล็บ ไปเอง
  6. หาบอระเพ็ดมาทาเล็บ เด็กหากมีรสขมที่ปากขณะ กัดเล็บ จะเลิกกัดเล็บ ไปเอง
  7. ชื่นชมลูก เมื่อไม่เห็นลูกกัดเล็บ ไม่การกัดเล็บเด็กจะซึมซับพฤติกรรมว่าเป็นสิ่งที่ดี

สำหรับ วิธีการแก้ปัญหาการชอบกัดเล็บ นั้น ผู้ที่มีส่วนสำคัญในการแก้ปัญหา คือ พ่อและแม่ ซึ่งเป็นผู้ทีอยู่ใกล้ชิดกับลูกมากที่สุด ต้องหาสาเหตุที่แท้จริงของ พฤติกรรมการชอบกัดเล็บ และนำไป แก้ปัญหา อย่างตรงจุด

การเลี้ยงลูก ตั้งแต่เริ่มต้นตั้งแต่ปัญหาจนถึงการเลี้ยงลูกให้มีพัฒนาการที่ดี แข็งแรง สมบรูณ์ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ การเลี้ยงลูกนั้น มีรายละเอียดที่แตกต่างกันตามช่วงอายุของลูก การจะสร้างลูกให้เจริญเติบโตขึ้มมาพร้อมกับพัฒนาการที่ดี เป็นคนเก่ง มีพัฒนาการด้านร่างกาย สมองและอารมณ์ ที่ดี จำเป็นต้องเข้าใจเด็ก อย่างถูกต้อง


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove