การจักการกับความกร้าวร้าว อารมณ์ร้ายของลูก ต้องหาสาเหตุของอารมณ์ร้ายของลูก และเทคนิคการจัดการกับลูกน้อยที่อารมณ์ร้าย รู้จักการใช้เหตุผล พฤติกรรมของลูกสร้างได้

ความบกพร่องด้านพฤติกรรมและอารมณ์ของเด็ก

ความบกพร่องทางพฤติกรรม และ อารมณ์ของเด็ก เรียกว่า Children with Behavioral and Emotional Disorders เป็น การแสดงออกของลูก ด้วย พฤติกรรมความรุนแรงและความกร้าวร้าว เช่น การข้วางของ การร้องกรีด การทำลายของ การทำร้ายตัวเอง และคนรอบข้าง ซึ่งเราจะมาหาสาเหตุและวิธีการรับมือกับสิ่งนี้

พฤติกรรมความกร้าวร้าวของเด็ก นั้นเราสามารถแก้ไขได้ด้วยการมองหาสาเหตุของปัญหา และ ปรับพฤติกรรมของลูก อย่างเข้าใจ สาเหตุของพฤติกรรมความกร้าวร้าว ของลูกนั้น ประกอบด้วย ครอบครัว สิ่งแวดล้อม ตัวเด็กเองและอาการป่วยของเด็ก รายละเอียด ดังนี้

  1. พฤติกรรมความกร้าวร้าว จากครอบครัว ครอบครัวเป็นสิ่งที่หล่อหลอม พฤติกรรมของลูกน้อย ในครอบครัวที่มีความรัก ความอบอุ่น จากคนในครอบครัว เด็กจะได้รับการซึมซับพฤติกรรม ทั้งอ่อนโยนและกร้าวร้าวได้
  2. พฤติกรรมความกร้าวร้าว จากสิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อมมีส่วนในเรื่อง พฤติกรรมเลียนแบบ ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรง ความกร้าวร้าวต่างๆ การจักการสิ่งแวดล้อมสำหรับ การเลี้ยงลูก มีความสำคัญกับ พฤติกรรมและอารมณ์ของลูก
  3. พฤติกรรมความกร้าวร้าว จากตัวเด็กเอง เด็กจะเรียนรู้ในการแสดงออกเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ การที่ เด็กแสดงออกทางกร้าวร้าว แล้วได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เด็กจะเรียนรู้พฤติกรรมนั้นๆว่าจะได้สิ่งที่ตนเองต้องการ โดยไม่สามารถแยกแยะความเหมาะสมได้
  4. พฤติกรรมความกร้าวร้าว จากอาการป่วยของเด็ก อาการป่วยที่ส่งผลถึง พฤติกรรมความกร้าวร้าว นั้น พ่อกับแม่ ต้องเข้าใจในตัวลูก อาการปวด อาการเจ็บ ความไม่สบาย ทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิด และ แสดงออกมาในทางกร้าวร้าว

เมื่อเราทราบถึง สาเหตุของพฤติกรรมความกร้าวร้าว ของลูกน้อยแล้ว จะเห็นได้ว่าสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งแรกที่มี ผลต่อพฤติกรรมความกร้าวร้าว หาก พ่อแม่ เข้าใจถึง สาเหตุของปัญหา จะทำให้เราสามารถ จัดการกับปัญหา นี้ได้อย่างเข้าใจ

เทคนิคในการจักการกับลูกที่โมโหร้าย

ความบกพร่องด้านพฤติกรรมและอารมณ์ของเด็กการที่ลูกน้อยมี อารมณ์ความกร้าวร้าว เช่น โยนข้าวของเครื่องใช้จนเสียหาย เดินกระแทกเสียงดังใส่ ปิดประตูเสียงดัง หรือร้องเสียงดัง เรามีเทคนิคในการจัดการกับปัญหาเหล่านี่ได้จาก วิธีต่างๆเหล่านี้

  1. การชมเชย ให้รางวัล ในวันที่ลูกน้อยแสดงพฤติกรรมที่เหมาะสม การให้รางวัลเป็นการสร้างการเรียนรู้ว่าพฤติกรรมใดจะได้รับการชมเชย เช่น การตั้งใจเรียนหนังสือ การกล้าแสดงออกในกิจกรรมต่างๆ พ่อแม่ควรให้รางวัลและชมเชยลูก กอดลูก เพื่อให้ลูกเรียนรู้ว่าสิ่งที่ตนทำนั้น เป็นสิ่งดีงามและจะได้รับความชมเชย
  2. การเฉยเมย เมื่อลูกแสดง พฤติกรรมกร้าวร้าว เมื่อต้องการสิ่งของ เด็กจะแสดงพฤติกรรม เช่น ร้องไห้เสียงดัง ดิ้นลงไปนอนกลับพื้น ทำลายของ เพื่อให้เราให้ในสิ่งที่ต้องการ การเฉยเมยจะทำให้ลูกน้อยเรียนรู้ว่า สิ่งที่ทำจะไม่ช่วยให้ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ
  3. การทำโทษอย่างมีเหตุผล บางครั้งในการที่ลูกทำผิดจำเป็นต้องทำโทษ เพื่อให้เด็กเรียนรู้ว่าสิ่งที่ตนทำเป็นสิ่งที่ผิดและห้ามกระทำ แต่ในการทำโทษนั้น พ่อแม่ ต้องจำเป็นต้องอธิบายเหตุผลให้ลูกเข้าใจ การทำโทษอย่างไม่แสดงเหตุผลทำให้ลูกซึมซับ พฤติกรรมความกร้าวร้าว
  4. จัดสิ่งแวดล้อมที่ดีให้ลูก การเรียนรู้ พฤติกรรมความกร้าวร้าว ของลูกเกิดจาก การเลียนแบบพฤติกรรม เช่น การพาลูกไปอยู่ในสถานที่ที่พูดจาหยาบคาย เด็กจะซึมซับ เลียนแบบคำพูดที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น
  5. พยายามหาสาเหตุของ พฤติกรรมความกร้าวร้าว และจัดการกับสิ่งนั้นให้หมดไป จากหลักการเรื่อง ความกร้าวร้าวของเด็ก มาจากสาเหตุ คือ ครอบครัว สิ่งแวดล้อม การเรียนรู้ของเด็กเองและอาการป่วยของตัวเด็ก หากเราทราบว่าความกร้าวร้าวมาจากอะไรก็ให้แก้ไขปัญหานั้นให้หมดไป

จะเห็นได้ว่า การจัดการพฤติกรรมของลูก น้อยเป็นเรื่องใหญ่ มีผลต่อความฉลาดด้านอารมณ์ของเด็กที่จะเป็นผู้ใหญ่ในสังคม ผู้ที่ต้องมีส่วนรวมที่สุด คือ พ่อและแม่ การสร้างความอบอุ่นในครอบครัว จัดการสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเรียนรู้และการแสดงออก เป็นสิ่งที่ ต้องลงทุนในการเลี้ยงลูก

การเลี้ยงลูก ตั้งแต่เริ่มต้นตั้งแต่ปัญหาจนถึงการเลี้ยงลูกให้มีพัฒนาการที่ดี แข็งแรง สมบรูณ์ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ การเลี้ยงลูกนั้น มีรายละเอียดที่แตกต่างกันตามช่วงอายุของลูก การจะสร้างลูกให้เจริญเติบโตขึ้มมาพร้อมกับพัฒนาการที่ดี เป็นคนเก่ง มีพัฒนาการด้านร่างกาย สมองและอารมณ์ ที่ดี จำเป็นต้องเข้าใจเด็ก อย่างถูกต้อง

การเลี้ยงลูก ส่งเสริมพัฒนาด้านต่างๆ ทั้ง ร่างกาย อารมณ์ สังคม และ สติปัญญา ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เป็นสิ่งสำคัญ พัฒนาการคิดสร้างสรรค์ การรับรู้ความงาม

การเลี้ยงลูก การส่งเสริมพัฒนา การในด้านต่างๆ ทั้ง ร่างกาย อารมณ์ สังคม และ สติปัญญา สามารถส่งผ่านทางกิจกรรมที่สร้างสรรค์ การสร้างจินตนาการให้ลูกเป็นสิ่งสำคัญ เพราะ จินตนา สามารถพัฒนา การคิดสร้างสรรค์ การรับรู้ความงาม ให้ลูกน้อยได้แสดงออกทางอารมณ์ สู่ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์จึงเป็นสิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้ามได้

การสร้างจินตนาการสำหรับลูก ถือเป็นสิ่งสำคัญ  เพราะ จินตนา สามารถพัฒนา การคิดสร้างสรรค์ การรับรู้ความงาม  ให้ลูกน้อยได้แสดงออกทางอารมณ์ หรือ ความรู้สึกได้  การสร้างจินตนาการ สู่ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ นั้น  จึงเป็นสิ่งที่พ่อแม่ ไม่ควรมองข้ามได้ ตามคำกล่าวของเอลเบริต์ ไอสไตล์ ที่ว่า

“Imagination is more important than knowledge” คือ จินตนาการสำคัญกว่าความรู้

Fb34

ความสำคัญของการเสริมสร้างจินตนาการผ่านการเล่นของลูก

เมื่อ ลูกสนุกกับการเล่น หรือ กิจกรรมต่างๆ ที่ลูกชอบ ลูกจะมีจินตภาพที่สร้างขึ้นในใจ จากประสบการณ์หรือสิ่งที่พบเห็นรอบตัว สู่การสร้างจินตนาการในแบบต่างๆ  การสร้างสรรค์จินตนา การสำหรับลูกจึงมีส่วนสำคัญ 2 ส่วนที่ควรคำนึง คือ ประสบการณ์ และ สาระที่ควรเรียนรู้ใน การสร้างจินตนาการ ทั้งสองส่วนใช้เป็นสื่อกลางเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และ สติปัญญา โดยครอบคลุม พัฒนาการลูก 4 ด้าน คือ พัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และ สติปัญญา รายละเอียด ดังนี้

  • ประสบการณ์สำคัญที่ ส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย เป็น การสนับสนุน ให้เด็กได้พัฒนากล้ามเนื้อเล็ก จากการเขียน ภาพและการเล่นสี เช่น กิจกรรมเขียนภาพด้วยสีเทียน สีน้ำ เป่าสี ทับสี ปั้นดินเหนียว ดินน้ำมัน งานประดิษฐ์จากเศษวัสดุ เป็นต้น
  • ประสบการณ์สำคัญที่ ส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ เป็น ประสบการณ์ทางสุนทรียภาพ เด็กมีโอกาสชื่นชมและสิ่งสวยงาม เช่น กิจกรรมเขียนภาพตามความคิดสร้างสรรค์ แสดงความคิดเห็นต่อผลงานศิลปะ ฯลฯล
  • ประสบการณ์สำคัญที่ ส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม เป็น ประสบการณ์ให้เด็ก เรียนรู้ทางสังคม ด้วยการเล่นและทำงานร่วมกับผู้อื่น มี การวางแผน ตัดสินใจเลือกและลงมือปฏิบัติ ให้ เด็ก มีโอกาสได้ รับรู้ความรู้สึก ความสนใจ ความต้องการของตนเองและผู้อื่น เช่น การเลือกทำกิจกรรมศิลปะ ตามความสนใจ การฟังความคิดเห็นของเด็กคนอื่น การรู้จักรอคอยที่จะใช้อุปกรณ์ร่วมกับผู้อื่น การรู้จักแบ่งปันวัสดุ ของใช้ เป็นต้น
  • ประสบการณ์สำคัญที่ ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา เป็น ประสบการณ์ที่ ส่งเสริมความคิดของเด็ก  เกี่ยวกับการรับรู้ และ การแสดงความรู้ ผ่านสื่อ วัสดุ และผลงาน เช่น การวาดภาพ ระบายสี ปั้นดิน ประดิษฐ์ ส่งเสริมด้านการใช้ภาษาและด้านการเขียนในหลายรูปแบบผ่านประสบการณ์ที่สื่อความหมายต่อเด็ก และการสื่อความหมายของมิติสัมพันธ์ด้วยภาพวาด เช่น การให้เด็กเขียนภาพนิทาน วาดภาพด้วยสีเทียน สีน้ำ เป็นต้น

กิจกรรมต่างๆสำหรับลูกน้อยมีความสำคัญต่อจินตนาการของลูกน้อย ซึ่งจะทำให้ พัฒนาการของลูก น้อยโตอย่างสมวัย มีความพร้อมที่จะเป็นผู้ใหญ่ที่จะสมบรูณ์ การเสริมสร้างพัฒนาการของลูกนั้นอยู่ที่ ครอบครัว โดย พ่อและแม่ต้องมีส่วนสำคัญในการผลักดัน ความรู้ และ จินตนาการของลูก เพื่อ การส่งเสริมพัฒนาการที่ดีของลูก พ่อและแม่ ต้องสนับสนุนลูกทั้งกำลังทรัพย์ เวลาและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมนั้นๆด้วย เป็นสำคัญ

ซึ่งสิ่งที่ได้นอกจากการที่ลูกมี พัฒนาการด้านจินตนาการ ที่ดีแล้ว ความสัมพันธ์ในครอบครัว ก็เป็นผลพลอยได้จากสิ่งเหล่านี้ด้วย

 

การเลี้ยงลูก ตั้งแต่เริ่มต้นตั้งแต่ปัญหาจนถึงการเลี้ยงลูกให้มีพัฒนาการที่ดี แข็งแรง สมบรูณ์ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ การเลี้ยงลูกนั้น มีรายละเอียดที่แตกต่างกันตามช่วงอายุของลูก การจะสร้างลูกให้เจริญเติบโตขึ้มมาพร้อมกับพัฒนาการที่ดี เป็นคนเก่ง มีพัฒนาการด้านร่างกาย สมองและอารมณ์ ที่ดี จำเป็นต้องเข้าใจเด็ก อย่างถูกต้อง


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove