การกัดเล็บ เป็น โรคอย่างหนึ่ง เรียก Nail Biting ความเข้าใจผิด หลายอย่างเกี่ยวกับ การกัดเล็บ โตขึ้นจะหายเอง แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ วิธีการแก้ปัญหาการกัดเล็บทำอย่างไร

การแก้ปัญหาการกัดเล็บ ลูกชอบกัดเล็บ การเลี้ยงลูก

การกัดเล็บ ถือว่าเป็น โรคอย่างหนึ่ง เรียกว่า Nail Biting มีความเข้าใจผิดหลายอย่าง เกี่ยวกับการกัดเล็บ ว่า เป็น พฤติกรรมของเด็ก เมื่อโตขึ้นจะหาย พฤติกรรม เหล่านี้เอง แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่อย่างที่เข้าใจกัน วิธีการแก้ปัญหาการกัดเล็บทำอย่างไร

การกัดเล็บ เป็น พฤติกรรมที่ผิด แต่ มีการทำซ้ำบ่อยๆ จน เกิดการติด เป็น พฤติกรรมติดตัว มีการสำรวจพบว่า การกัดเล็บ เกิดขึ้นได้ใน ทุกเพศทุกวัย โดย วัยรุ่น มี พฤติกรรมการกัดเล็บ ที่มากที่สุด เป็น พฤติกรรมที่สั่งสมมาจากวัยเด็ก แล้ว สาเหตุของการกัดเล็บเกิดจากอะไรบ้าง แล้วมีผลเสียอย่างไร การแก้ไขปัญหาการชอบกัดเล็บจะทำอย่างไร

โรคการกัดเล็บ มี การสำรวจ ทั่วโลก พบว่า เด็กวัยไม่เกิด 10 ปี มี พฤติกรรมชอบกัด เล็บร้อยละ 28 วัยรุ่น มี พฤติกรรมการชอบกัดเล็บ ร้อยละ 45 ส่วนวัยผู้ใหญ่ มี พฤติกรรมการชอบกัดเล็บ ร้อยละ 30  จะเห็นได้ว่า พฤติกรรมการชอบกัดเล็บ นั้น หากไม่รีบแก้ไข ตั้งแต่วัยเด็ก จะติดตัว คนนั้นไปถึงตอนเป็นผู้ใหญ่

ทำไมถึงชอบกัดเล็บ

การกัดเล็บ มี การศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มคนเหล่านี้ว่าเป็น การลดพฤติกรรมความเครียด ซึ่ง ความเครียด นี้มาจากสิ่งแวดล้อมทั้งหมด ร้อยละ 99 ของผู้ที่กัดเล็บ เกิดจากปัญหาทางอารมณ์ เช่น ความเครียด หิว เบื่อ และเพียงแค่ชอบกัดเล็บ

ผลเสียของปัญหาการชอบกัดเล็บ

เราสามารถสรุป ผลเสีย ที่มีต่อ พฤติกรรมการชอบกัดเล็บ มาให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ มีรายละเอียด ดังนี้

  • การกัดเล็บ มี ผลเสียต่อบุคลิกภาพ การกัดเล็บให้คนเห็นนั้น ทำให้ดู บุคลิกภาพไม่ดี เมื่อ เกิดการต่อต้านจากคนในสังคม นั้นๆ จะส่งผลต่อผู้ที่ ชอบกัดเล็บ เช่น การไม่อยากเข้าสังคม ไม่กล้าเผชิญหน้ากับคน และ ขี้อาย ชอบอยู่คนเดียว เป็นต้น
  • การกัดเล็บ มี ผลเสียต่อสุขภาพ เนื่องจากมือของคนเรา เป็นส่วนที่ สัมผัสกับเชื้อโรค มากที่สุด และใน เล็บ ตามซอกเล็บเป็น แหล่งสะสมของเชื้อโรค ที่มีมาก การกัดเล็บ เป็นการนำเอา เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายโดยตรง หากเกิดภาวะร่างกายอ่อนแอ ไม่สามารถต่อต้านเชื้อโรค ได้ ก็จะ ส่งผลต่อการป่วย ทันที
  • การกัดเล็บ มี ผลเสียต่อฟัน การกัดเล็บบ่อยๆ อาจทำให้ ฟัน ผิดรูป และไม่สวย เป็น สาเหตุของการเสียบุคลิกภาพ เพิ่มขึ้นอีก และ การกัดฟัน นั้น อาจเป็น พฤติกรรมติดตัว นอนละเมอกัดฟัน ได้
  • การกัดเล็บ มี ผลเสียต่อนิ้วมือและเล็บ การกัดเล็บ ทำให้เกิดแผล อาการช้ำ อาการบวม ซึ่งอาจส่ง ผลต่อการผิดรูปผิดร่างของมือและเล็บ ได้

จะเห็นว่า การกัดเล็บ มี ผลเสียต่อคน และเป็น สาเหตุของพฤติกรรมต่างของเด็ก ที่จะโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต ดังนั้น  การแก้ปัญหาการกัดเล็บ เป็นสิ่งสำคัญที่ ไม่สามารถมองข้าม ได้เลย เรามี วิธีการแก้ปัญหาการชอบกัดเล็บ มานำเสนอ ดังนี้

  1. หากิจกรรมให้เด็กทำ แนะนำให้กิจกรรมที่เป็นการใช้มือมากๆ จะทำให้เด็กสนุก ผ่อนคลาย และ ไม่มีเวลาว่างใน การกัดเล็บ
  2. ลดความเครียดของลูก ไม่ว่าจะเป็น การทำกิจกกรม ที่ต้องใช้ความคิดที่ซับซ้อน หรือ การใช้ชีวิตของเด็ก พ่อกับแม่ต้องสังเกตุ พฤติกรรมของลูก อย่างใกล้ชิด
  3. อธิบายให้ลูกเข้าใจ การห้ามกัดเล็บ นั้น สำหรับเด็กบางคน ดื้น จะไม่เชื้อฟัง ต้อง อธิบายให้เด็กเข้าใจ ถึง ปัญหาการกัดเล็บ
  4. หา ตัวอย่างปัญหา จาก การกัดเล็บ ให้ลูกดู หากเด็กเห็นตัวอย่างปัญหา ด้านสุขภาพจาก การกัดเล็บ เด็กจะเกิดการกลัวใน การกัดเล็บ และไม่กล้ากัดเล็บ ไปเอง
  5. ตัดเล็บให้สั่น อยู่เสมอ หาก ไม่มีเล็บให้กัด ได้แล้ว เด็กบางคน จะเลิกกัดเล็บ ไปเอง
  6. หาบอระเพ็ดมาทาเล็บ เด็กหากมีรสขมที่ปากขณะ กัดเล็บ จะเลิกกัดเล็บ ไปเอง
  7. ชื่นชมลูก เมื่อไม่เห็นลูกกัดเล็บ ไม่การกัดเล็บเด็กจะซึมซับพฤติกรรมว่าเป็นสิ่งที่ดี

สำหรับ วิธีการแก้ปัญหาการชอบกัดเล็บ นั้น ผู้ที่มีส่วนสำคัญในการแก้ปัญหา คือ พ่อและแม่ ซึ่งเป็นผู้ทีอยู่ใกล้ชิดกับลูกมากที่สุด ต้องหาสาเหตุที่แท้จริงของ พฤติกรรมการชอบกัดเล็บ และนำไป แก้ปัญหา อย่างตรงจุด

การเลี้ยงลูก ตั้งแต่เริ่มต้นตั้งแต่ปัญหาจนถึงการเลี้ยงลูกให้มีพัฒนาการที่ดี แข็งแรง สมบรูณ์ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ การเลี้ยงลูกนั้น มีรายละเอียดที่แตกต่างกันตามช่วงอายุของลูก การจะสร้างลูกให้เจริญเติบโตขึ้มมาพร้อมกับพัฒนาการที่ดี เป็นคนเก่ง มีพัฒนาการด้านร่างกาย สมองและอารมณ์ ที่ดี จำเป็นต้องเข้าใจเด็ก อย่างถูกต้อง

การส่งเสริมทักษะการเข้าสังคม สามารถสังเกตุจากบุคลิกภาพของลูก ว่าพร้อมในการเข้าระดับใด วิธีสังเกตุว่า ทักษะการเข้าสังคม ของลูกน้อยอยู่ในระดับใด

พัฒนาการเด็ก การเข้าสังคม การเลี้ยงลูก

สามารถสังเกตุจากบุคลิกภาพของลูกว่ามีความพร้อมใน การเข้าสังคม มากน้อยเพียงใด เรามีวิธีสังเกตุลูกน้อยว่า ทักษะการเข้าสังคมของลูกน้อย อยู่ในระดับใด

การส่งเสริมทักษะการเข้าสังคมของลูก น้อย นั้นเด็กๆนั้นถึงแม้ว่าจะเป็น ผ้าขาว ที่พร้อมจะรับสิ่งต่างๆจาก สิ่งแวดล้อม แต่ บุคลิกภาพของลูก จะถูกถอดแบบมาจาก พฤติกรรมของพ่อและแม่ เนื่องจาก พ่อและแม่ เป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับลูกมากที่สุด การเลียนแบบคนรอบข้าง และ สิ่งที่เด็กได้พบและเห็น มี ผลต่อบุคลิกภาพของเด็ก อย่างชัดเจน

การช่วย ส่งเสริมบุคลิกภาพ ที่มีอยู่แล้วของลูกนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ซึ่งจะเป็น ตัวช่วยผลักดัน ให้เด็กมีพฤติกรรมใน การเข้าสังคม ที่แตกต่างกันออกไป สิ่งนี้สามารถสังเกตุได้จาก การสังเกตุพฤติกรรมของลูก

การสังเกตุพฤติกรรมของลูก นั้น สามารถ สังเกตุ ได้ตลอดเวลา ว่า ลูกชอบทำ และ ไม่ชอบทำสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นขณะอาบน้ำ เล่น รับประทานอาหาร การนอน การตื่น ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นส่วนของการปรับแผนการใน การเลี้ยงลูก ให้ลูกมีพฤติกรรม และ บุคลิกภาพที่ดี ใน การเข้าสังคม

การแสดงออกทางอารมณ์ ของลูก จะเป็นสิ่งที่ บ่งบอกถึงบุคลิกภาพ ของเขาได้เป็นอย่างดี เราได้แยก พฤติกรรมของลูก ออกเป็น 4 พฤติกรรม ซึ่งเราสามารถนำมาใช้ ปรับบุคลิกของลูกน้อย ให้พร้อมในสังคม มีรายละเอียดดังนี้

  • ลูกอารมณ์ปานกลางถึงปกติ ลูกมี พฤติกรรมการชอบเล่น และ ปฏิสัมพันธ์ กันเพื่อนๆ มีความสนใจและพอใจสิ่งรอบข้างรวมถึงสิ่งใหม่ๆรอบตัว ชอบที่จะเล่น และ เข้าหาเพื่อน แต่มีการเล่นสนุก งอแง และดื้อรันบ้างตามสถานการณ์ ซึ่งการจัดการสถานการณ์แบบนี้ต้องให้พ่อแม่ ช่วยระงับความเครียด นั้น
  • ลูกอารมณ์ดีและติดเล่น เด็กยิ้มเก่ง หัวเราะง่าย ซน และ ให้ความสนใจ กับ สิ่งแวดล้อมต่างๆ เด็ก ลักษณะนี้จะอดทนต่อการรอคอยได้น้อย เด็ก ลักษณะนี้เลี้ยงง่าย ไม่ดื้อรั้น
  • ลูกมีอารมณ์เงียบขรึม เด็กไม่ซน ชอบอยู่เงียบๆ เด็กจะ มีความสามารถในการจำ สิ่งต่างๆได้ดี สามารถ มีสมาธิ อยู่กับสิ่งที่ตนเองสนใจได้เวลานาน หาก พ่อแม่ สามารถ ส่งเสริม ลูก ให้สนใจใน สิ่งที่มีประโยชน์ เช่น การอ่านหนังสือ เล่นกีฬา การทำกิจกรรมพิเศษ เด็ก จะ ไม่ดื้อรั้น แต่อาจจะ ดื้อเงียบๆ ไม่เชื่อฟังคำสั่งสอน ง่ายๆ เด็ก จะมีความเป็น โลกส่วนตัวสูง อาจทำให้ ทักษะการเข้าสังคม ต่ำ พ่อแม่ ควรหา กิจกรรม ที่ลูกได้มีส่วนร่วม ทำงานร่วมกับคนอื่น ร่วม จะ ช่วยให้ลูกเป็นเด็กที่มีความสามารถใน การเข้าสังคม มากขึ้น
  • ลูกดื้อรั้น ลูก จะมีลักษณะในการ ไม่ชอบให้ใครขัดใจ ซึ่งมี พฤติกรรมการแสดงออกที่รุนแรง สิ่งนี้เกิดจาก การเลี้ยงดู ที่มี การเอาใจเด็กมากเกินไป พฤติกรรม นี้เป็น พฤติกรรมที่มีปัญหาต่อการเข้าสังคม มาก ซึ่งหากปล่อยไว้นาน ลูก จะ แสดงออกทางอารมณ์ คำพูด และ การกระทำที่รุนแรง หากเด็กโตขึ้นไปจะกลาย เป็นเด็กเกเร  ไม่มีเพื่อนคบ เป็นการผลักดันให้เด็กอยู่ในสภาพสังคมที่ไม่ดี กลายเป็น ปัญหาสังคม ที่ยากในการแก้ไข

แต่อย่างไรก็ดี ไม่ว่าเด็กจะมี บุคลิกภาพ แบบใด มี การแสดงออกทางอารมณ์อย่างไร บุคคลสำคัญที่มีผลต่อพฤติกรรมของลูก ในระยะยาว คือ พ่อและแม่ การเลี้ยงลูกให้มีพัฒนาการ ที่ดี โดยเฉพาะ ทักษะการเข้าสังคม นั้น เป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ การแก้ไขและปรับบุคลิกภาพที่ไม่เหมาะสมของลูก ต้องไม่ทำให้ลูกเกิด ความเครียด และมี พฤติกรรมในการต่อต้าน และจะมี ปัญหาที่สะสม ต่ออีก

การเลี้ยงลูก ตั้งแต่เริ่มต้นตั้งแต่ปัญหาจนถึงการเลี้ยงลูกให้มีพัฒนาการที่ดี แข็งแรง สมบรูณ์ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ การเลี้ยงลูกนั้น มีรายละเอียดที่แตกต่างกันตามช่วงอายุของลูก การจะสร้างลูกให้เจริญเติบโตขึ้มมาพร้อมกับพัฒนาการที่ดี เป็นคนเก่ง มีพัฒนาการด้านร่างกาย สมองและอารมณ์ ที่ดี จำเป็นต้องเข้าใจเด็ก อย่างถูกต้อง


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove