ดีปลี ( Long Pepper ) สมุนไพรฤทธิ์เผ็ดร้อน พืชตระกูลพริกไทย ประโยชน์และสรรพคุณเป็นยาบำรุงกำลัง ช่วยเจริญอาหาร ขับเสมหะ แก้ท้องเสีย ช่วยขับลม ดอกนำมาทำเครื่องเทศ

ดีปลี สมุนไพร สรรพคุณของดีปลี ประโยชน์ของดีปลี

ดีปลี ยังมีประโยชน์ ช่วยให้นอนหลับ  แก้ไอ แก้หลอดลมอักเสบ ใช้รักษาโรคลมบ้าหมู ช่วยขับเสมหะ แก้ปวดท้อง ช่วยแก้อาการท้องร่วง ช่วยขับลม เป็นยาขับพยาธิ ช่วยแก้ริดสีดวงทวารหนัก เป็นยาขับระดูของสตรี ช่วยบีบมดลูก ช่วยขับน้ำดี ช่วยแก้ตับพิการ แก้ปวดท้อง ช่วยแก้อาการท้องร่วง ช่วยขับลม ช่วยแก้พิษงู มีฤทธิ์ต้านเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย ช่วยต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยแก้อาการปวดเมื่อย ลดอาการปวดเส้น

ดีปลี สมุนไพร ภาษาอังกฤษ เรียก Long Pepper ชื่อวิทยาศาสตร์ของดีปลี คือ Piper retrofractum Vahl เป็นพืชสมุนไพร ตระกูลเดียวกันกับพริกไทย มีชื่อเรียกอื่นๆ ว่า ดีปลีเชือก ปานนุ ประดงข้อ พิษพญาไฟ ปีกผัวะ เป็นต้น ต้นดีปลีพบได้มากที่ประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย สำหรับในประเทศไทย สามารถพบได้ที่ภาคเหนือและภาคใต้

ลักษณะของต้นดีปลี

ดีปลี เป็นไม้เถา ตระกลูพริกไทย ลักษณะของลำต้นเป็นเถาค่อนข้างเหนียว สามารถเจริญเติบดตได้ดีในดินที่ค่อนข้างชุ่ม มีแสงแดดรำไร ใบของดีปลี เป็นลักษณะ ใบเดี่ยว รูปไข่ สีเขียวเข้ม ใบเป็นมัน  ปลายแหลม ผลของดีปลี จะมีสีเขียว และจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อผลสุก ออกเป็นช่อ รูปทรงกระบอกยาวประมาณ 7 เซ็นติเมตร ผิวของผลค่อนข้างหยาบ

สรรพคุณของดีปลี

การนำดีปลีมาใช้ประโยชน์ สามารถนำมาใช้ในส่วนของ ดอก ใบ ผลแก่ เถา และราก รายละเอียดของ สรรพคุณของดีปลี มีดังนี้

  • ดอกของดีปลี สามารถนำมาใช้ประโยชน์ เป็นยาบำรุงกำลัง ยาอายุวัฒนะ ช่วยเจริญอาหาร แก้เวียนหัว แก้หวัด แก้หอบหืด ช่วยขับเสมหะ แก้ท้องเสีย ช่วยแก้อาการท้องร่วง ช่วยขับลม ช่วยแก้ริดสีดวงทวารหนัก ช่วยแก้ตับพิการ ช่วยแก้อัมพาต
  • ผลของดีปลี สามารถนำมาใช้เป็นยาบำรุงธาตุ ช่วยบำรุงธาตุไฟ ช่วยให้นอนหลับ  แก้ไอ แก้หลอดลมอักเสบ ใช้รักษาโรคลมบ้าหมู ช่วยขับเสมหะ แก้ปวดท้อง ช่วยแก้อาการท้องร่วง ช่วยขับลม เป็นยาขับพยาธิ ช่วยแก้ริดสีดวงทวารหนัก เป็นยาขับระดูของสตรี ช่วยบีบมดลูก ช่วยขับน้ำดี ช่วยแก้ตับพิการ
  • รากของดีปลี สามารถนำมาเป็นยาบำรุงธาตุ แก้เวียนหัว ช่วยเป็นยาเย็น แก้หอบหืด ช่วยขับเสมหะ แก้ปวดท้อง
  • เถาของดีปลี มีรสเผ็ดร้อน ช่วยขับเสมหะ แก้ปวดฟัน แก้ปวดท้อง ช่วยแก้อาการท้องร่วง ช่วยขับลม ช่วยแก้ริดสีดวงทวารหนัก ช่วยแก้พิษงู มีฤทธิ์ต้านเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย ช่วยต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ช่วยเสริมฤทธิ์ยานอนหลับ ช่วยต่อต้านออกซิเดชั่น ต้านพิษต่อตับ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ลดระดับน้ำตาลในเลือด
  • ใบของดีปลี ใช้ช่วยแก้อาการปวดเมื่อย ลดอาการปวดเส้น

โทษของดีปลี

การใช้ประโยชน์จากดีปลี มีข้อควรระวัง และ คำแนะนำการใช้อย่างเหมาะสม มีดังนี้

  • การกินดีปลีทำให้ร่างกายร้อน สำหรับผู้ป่วยที่มีไข้ ไม่ควรรับประทานดีปลี เพราะ จะทำให้ไข้สูงขึ้น
  • สตรีมีตั้งครรภ์ ห้ามรับประทานดีปลี อาจจะทำให้แท้งบุตรได้ เพราะ ทำให้ความร้อนในร่างกายสูง เป็นอันตรายต่อบุตรในท้อง
  • การรับประทานดีปลีมากเกินไป จะทำให้กระเพาะอาหารอักเสบได้ หรือ แสบทวารหนักต้อนขับถ่าย เพราะ ดีปลีมีรสเผ็ดร้อน

ดีปลี ( Long Pepper ) สมุนไพร มีฤทิธ์เผ็ดร้อน พืชตระกูลพริกไทย ประโยชน์ของดีปลี สรรพคุณของดีปลี เป็นยาบำรุงกำลัง ยาอายุวัฒนะ ช่วยเจริญอาหาร แก้เวียนหัว แก้หวัด แก้หอบหืด ช่วยขับเสมหะ แก้ท้องเสีย ช่วยแก้อาการท้องร่วง ช่วยขับลม ช่วยแก้ริดสีดวงทวารหนัก ช่วยแก้ตับพิการ ช่วยแก้อัมพาต ยาบำรุงธาตุ

ส้มแขก ( Garcinia ) สมุนไพร สรรพคุณแก้ไอ ขับเสมหะ ลดความดัน รักษาเบาหวาน บำรุงเลือด ช่วยเจริญอาหาร แก้ปวดท้อง ยาระบายอ่อนๆ ขับปัสสาวะ ข้อควรระวังในการกินส้มแขก

ส้มแขก สมุนไพร

ส้มแขก ( Garcinia )  ชื่อวิทยาศาสตร์ของส้มแขก คือ Garcinia atroviridis Griff. ex T.Anderson สมุนไพร สรรพคุณของส้มแขก ลดความอ้วน แก้ไอ ขับเสมหะ ลดความดัน รักษาเบาหวาน บำรุงเลือด ฟอกเลือด ช่วยเจริญอาหาร แก้กษัย แก้ปวดท้อง ยาระบายอ่อนๆ ขับปัสสาวะ รักษานิ่ว และ แก้ท้องผูก ข้อควรระวังในการกินส้มแขก

ส้มแขก ภาษาอังกฤษ เรียก Garcinia มีชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Garcinia atroviridis Griff. ex T.Anderson เป็นพืชตระกลูเดียวกับมังคุด  ชื่อเรียกอื่นๆ ของ ส้มแขก เช่น ชะมวงช้าง ส้มควาย อาแซกะลูโก ส้มพะงุน ส้มมะอ้น ส้มมะวน มะขามแขก เป็นต้น ส้มแขก เป็นพืชท้องถิ่นของอินเดียและศรีลังกา และในประเทศไทยนิยมปลูกในภาคใต้ เนื่องจาก ส้มแขก มีรสเปรี้ยว นิยมนำมาทำส่วนประกอบในการทำ แกงส้ม แกงเลียง ต้มเนื้อ ต้มปลา เป็นต้น

ลักษณะของต้นส้มแขก

  • ต้นส้มแขก เป็นไม้ยืนต้น มีความสูงประมาณ 14 เมตร เปลือกของต้นส้มแขกมีสีน้ำตาลดำ
  • ใบของส้มแขกเป็นใบเดี่ยว ใบใหญ่ เรียบ และมัน ใบอ่อนมีสีน้ำตาล
  • ดอกส้มแขก ด้านในมีสีแดง ส่วนด้านนอกจะมีสีเขียว
  • ผลของส้มแขก จะมีผิวเรียบ สีเขียว เมื่อแก่จะมีสีเหลือกแก่

การขยายพันธุ์ สามารถขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด การแตกหน่อ การติดตา และการต่อยอด

การปลูก ให้เตรียมพื้นที่ปลูก เนื่องจากส้มแขกเป็นไม้ผลที่มีทรงพุ่มขนาดใหญ่ ระยะปลูกที่แนะนำ คือ 8 X 8 เมตร หรือ 10 X 10 เมตร ซึ่งจะได้จำนวนต้นประมาณ 20 – 25 ต้นต่อไร่ ก่อนปลูกควรรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก หลังจากปลูกนาน 1 เดือน ให้ปลูกซ่อมต้นที่ตายทันที

นักโภชนาการ ได้ศึกษาส้มแขก พบว่ามีสาร HCA(Hydroxycitric Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติเด่น คือ ยับยั้งเอนไซม์ในกระบวนการสร้างไขมัน จากคาร์โบไฮเดรต ส้มแขกจึงนิยมนำมาเป็นส่วนประกอบสำหรับอาหารเสริมสำหรับลดน้ำหนัก มีการแปรรูบส้มแขก มากมาย เช่น เม็ด ชา แคปซูล

สรรพคุณของส้มแขก

สำหรับสรรพคุณของส้มแขก มีมากมาย สามารถนำส้มแขกมาใช้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็น ดอก ผล ราก ใบ รายละเอียด ดังนี้

  • ดอกของส้มแขก มีสรรพคุณ ช่วยแก้ไอ ขับเสมหะ ลดความดันโลหิต
  • ผลของส้มแขก สามารถนำมาช่วยลดความดัน ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ช่วยฟอกโลหิต ช่วยเจริญอาหาร ช่วยลดไขมัน
  • รากของส้มแขก สามารถใช้ เป็นยาแก้กษัย บรรเทาอาการปวดท้องสำหรับสตรีมีครรภ์ เป็นยาระบายอ่อนๆ ขับปัสสาวะ รักษานิ่ว
  • ใบของส้มแขก สามารถใช้ แก้อาการท้องผูก ขับปัสสาวะ

ข้อควรระวังในการบริโภคส้มแขก

ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากส้มแขกมีปริมาณ HCA ที่สูง ไม่ควรใช้กับสตรีตั้งครรภ์ หรือสตรีให้นมบุตร เพราะสารชนิดนี้จะไปรบกวนการสร้าง Fatty Acid, Acetyl coenzyme A รวมไปถึง Cholesterol ซึ่งอาจส่งผลต่อการสร้าง Steroid Hormone ได้นั่นเอง และสำหรับบุคคลทั่วไปการรับประทานในปริมาณมากเกินไปอาจมีอาการข้างเคียงต่อระบบทางเดินอาหารได้


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove