ปอดอักเสบ หรือ ปอดบวม เกิดจากปอดติดเชื้อ อาการอาจรุนแรงทำให้เสียชีวิตได้ อาการไอ มีเสมหะ เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก มีไข้ อ่อนเพลีย รักษาและป้องกันอย่างไร
ปอดบวม ปอดอักเสบ โรคทางเดินหายใจ โรคติดเชื้อ

โรคปอดอักเสบ ( pneumonitis ) ภาวะการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจในส่วนของปอด โรคนี้พบบ่อย ในเด็ก คนแก่ และ คนที่มีภูมิต้านทานต่ำ สำหรับกลุ่มเสี่ยง สามารถป้องกันโรคด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคได้

สาเหตุของโรคปอดอักเสบ

โรคปอดอักเสบ สามารถแบ่งสาเหตุของการเกิดโรคได้ 2 สาเหตุ คือ ปอดอักเสบจากการติดเชื้อ และ ปอดอักเสบจากการไม่ติดเชื้อ แต่โรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อพบได้มากกว่าโรคปอดอักเสบจากการไม่ติดเชื้อโรค โดยรายละเอียด ดังนี้

  • ปอดอักเสบจากการติดเชื้อ เกิดจากการรับเชื้อโรคต่างๆเข้าสู่ปอด จนเกิดการอักเสบของถุงลมปอดและเนื้อเยื่อปอด ซึ่งอาการของโรคแตกต่างกันตามสภาพร่างกายของผู้ติดเชื้อ
  • ปอดอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ โดยลักษณะของการเกิดกระแทกที่ปอดอย่างรุนแรง หรือ การระคายเคืองที่ระบบทางเดินหายใจนานๆ นอกจากนี้ การใช้ยาปฏิชีวนะ อาจทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบได้

ปัจจัยเสี่ยงของโรคปอดอักเสบ

สำหรับกลุ่มคนที่มีโอกาสเสี่ยงการเกิดโรคปอดอักเสบ มีรายละเอียด ดังนี้

  • คนอายุน้อยที่อายุต่ำกว่า 2 ปี
  • กลุ่มคนอายุมากกว่า 65 ปี
  • กลุ่มผู้ป่วยหนักที่เข้ารับการรักษาในห้องไอซียู
  • กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจ เป็นต้น
  • กลุ่มคนที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ป่วยโรคเอดส์  คนที่ปลูกถ่ายอวัยวะ ผู้ป่วยโรคมะเร็ง
  • กลุ่มคนสูบบุหรี่

ปอดอักเสบในผู้สูงอายุ

สำหรับการติดเชื้อที่ปอดของผู้สูงอายุ เกิดจากการเชื้อโรค เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส หรือ เชื้อรา โดยการรับเชื้อโรคเกิดจากการหายใจเข้าสู้ระบบทางเดินหายใจ เป็นอาการต่อเนื่องจากโรคไข้หวัดใหญ่

ปอดอักเสบในเด็ก

ภาวะปอดอักเสบในเด็ก เกิดจากสาเหตุทั้ง การติดเชื้อโรคและการไม่ติดเชื้อโรค เนื่องจากเด็กภูมิต้านทานโรคต่ำ ทำให้โอกาสการติดเชื้อโรคง่ายขึ้น

อาการของโรคปอดอักเสบ

สำหรับอาการของโรคปอดอักเสบ ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุการติดเชื้อโรคและไม่ติดเชื้อโรคนั้น มีการแสดงอาการที่ระบบทางเดินหายใจ แต่โรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อพบได้มากกว่าโรคปอดอักเสบจากการไม่ติดเชื้อโรค สำหรับอาการของโรคปอดอักเสบ แสดงอาการ ดังต่อไปนี้

  • มีอาการไอและมีเสมหะ
  • เจ็บหน้าอกเวลาไอ
  • เจ็บหน้าอกเวลาหายใจ
  • หายใจลำบาก หายใจเร็ว และหายใจหอบ
  • มีไข้สูง มีเหงื่อออก และมีอาการหนาวสั่น
  • มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
  • มีอาการท้องเสีย
  • อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
  • มีอาการซึม

การรักษาโรคปอดอักเสบ

สำหรับการรักษาโรคปอดอักเสบ มีแนวทางการรักษาโรคโดยการใช้ยารักษาโรค การรักษาด้วยการประคับประคองโรค และ การรักษาภาวะแทรกซ้อน ของโรค โดยรายละเอียดของการรักษาโรคปอดอักเสบ มีดังนี้

  • การให้ยาปฏิชีวนะ ใช้สำหรับผู้ป่วยในกรณีติดเชื้อแบคทีเรีย การรักษาในปัจจุบันมีการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างแพร่หลาย ซึ่งบางครั้งอาจทำให้เกิดการดื้นยา
  • การรักษาด้วยการประคับประคองตามอาการของโรค ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อ สามารถใช้การรักษาเพื่อบรรเทาอาการของโรค เช่น การให้ยาลดไข้ การใช้ยาขยายหลอดลม การให้ยาละลายเสมหะ เป็นต้น
  • การรักษาภาวะแทรกซ้อนของโรค ภาวะแทรกซ้อนที่น่ากลัว เช่น การติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด อาการฝีในปอด ภาวะน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด ผู้ป่วยบางรายมีความรุนแรงของโรคมาก ส่งผลต่อการเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

การป้องกันโรคปอดอักเสบ

สำหรับแนวทางการป้องกันการเกิดโรคปอดอักเสบ มีแนวทางการปฏิบัติตน ต่อไปนี้

  • ฉีดวัคซีนป้องกันโรค การฉีดวัคซีนที่ให้อัตราการเกิดโรคปอดอักเสบลดลง วัคซีนที่ป้องกันโรคปอดอักเสบ เช่น วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • รับประทานอาหารทที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
  • รักษาสุขอนามัย สิ่งแวดล้อม ให้สะอาด
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค

โรคปอดอักเสบ หรือ ปอดบวม คือ การอักเสบของเนื้อเยื่อปอด เกิดจากการติดเชื้อโรค บางครั้งอาจรุนแรงทำให้เสียชีวิตได้ อาการของปอดบวม ไอ มีเสมหะ เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก มีไข้ อ่อนเพลีย การรักษาโรค และ การป้องกันโรค

ตับอ่อนอักเสบ ( Pancreatitis ) เกิดจากนิ่วในท่อน้ำดี เนื้องอกในตับอ่อน เป็นต้น ปวดท้องตรงกลางส่วนบนอย่างรุนแรง ท้องอืด ไข้สูง อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว หายใจเร็วตับออนอักเสบ โรคตับ โรคไม่ติดต่อ

ตับอ่อน นอกจากย่อยอาหารแล้ว แล้ว ตับอ่อนจะสร้างฮอร์โมน เข้ากระแสเลือด เพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด เมื่อ ตับอ่อนอักเสบ จะทำให้ ระบบการย่อยอาหาร และ การลดระดับน้ำตาลในเลือด มีปัญหา ตับอ่อนอักเสบ (Pancreatitis) เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบของเซลล์ของตับอ่อน (Pancreas) โดยมีทั้งการอักเสบชนิดเฉียบพลันที่เกิดขึ้นทันทีทันใด แต่ส่วนใหญ่อาการจะเป็นอยู่ไม่นานและมักจะทุเลาดีขึ้นได้เอง และการอักเสบชนิดเรื้อรังซึ่งจะมีการทำลายเซลล์ของตับอ่อนจนไม่สามารถฟื้นตัวได้ โดยสาเหตุของโรคนี้หลัก ๆ แล้วจะมาจากโรคนิ่วในถุงน้ำดี และจากการดื่มแอลกอฮอล์จัด การอักเสบของตับอ่อน นั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ ตับอ่อนอักเสบชนิดเฉียบพลัน และ ตับอ่อนอักเสบชนิดเรื้อรัง โดยรายละเอียด ดังนี้

  • โรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน ( Acute pancreatitis ) เกิดการอักเสบขึ้นกับเซลล์ของตับอ่อนอย่างเฉียบพลัน ผู้ป่วยบางรายอาจพบว่ามีอาการรุนแรง
  • โรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง (Chronic pancreatitis) การอักเสบของตับอ่อนอย่างต่อเนื่องจนเกิดอาการเรื้อรัง โดยอาจจะเกิดขึ้นตามหลังการอักเสบเฉียบพลัน รักษาไม่หาย ซึ่งในการอักเสบเรื้อรังนี้เซลล์ของตับอ่อนจะค่อย ๆ ถูกทำลายจนไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่

ตับอ่อนอักเสบ โรคตับ การติดเชื้อ อาการโรคตับ

สาเหตุที่ทำให้ตับอ่อนอักเสบ

โรคตับอ่อนอักเสบเกิดจากนิ่วในท่อน้ำดีไปอุดตัน ทางเดินน้ำย่อยของตับอ่อน และ การดื่มสุรา เกิดจาก ยาบางชนิด ระดับไขมันในเลือดสูง  การผ่าตัด ซึ่งส่งผลให้ เลือดไปเลี้ยงตับอ่อนน้อยลง อุบัติเหตุที่หน้าท้อง เนื้องอกในตับอ่อน

ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคตับอ่อน

ปัจจัยเสี่ยง สำหรับการเกิดโรคตับอ่อนอักเสบ พบว่า ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี นักดื่มสุรา คนสูบบุหรี่ การฝ่าตัด และคนทีมีไขมันในเลือดสูง มีความเสี่ยงในการเป็น โรคตับอ่อนอักเสบสูง

อาการของโรคตับอ่อนอักเสบ

สำหรับอาการของโรคตับอ่อนอักเสบ ผู้ป่วยจะมีอาการ ปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ ลามไปถึงด้านหลัง คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ เหงื่อออกมาก เจ็บเวลากดที่หน้าท้อง หัวใจเต้นเร็ว หายใจเร็ว อาการตับอ่อนอักเสบ ใหแต่ละชนิด มีรายละเอียด ดังนี้

อาการตับอ่อนอักเสบชนิดเฉียบพลัน

  • ปวดท้องตรงกลางส่วนบน มีอาการปวดอย่างรุนแรง โดยจะปวดแบบตื้อ ๆ ต่อเนื่องกันหลายวัน ปวดร้าวไปถึงหลัง
  • มีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย แน่นท้อง
  • มีไข้สูง คลื่นไส้ อาเจียน
  • กดหน้าท้องจะเจ็บ
  • หัวใจเต้นเร็วและหายใจเร็ว
  • ผู้ป่วยจะมีอาการของภาวะขาดน้ำและมีอาการจากการอักเสบของอวัยวะต่าง ๆ ร่วมด้วย เช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ปอดอักเสบ หรือไตวายเฉียบพลัน

อาการตับอ่อนอักเสบชนิดเรื้อรัง

  • อาการเบื้องต้นเหมือนตับอ่อนอักเสบชนิดเฉียบพลัน
  • มีอาการท้องเสียแบบเรื้อรัง อุจจาระมีลักษณะเป็นไขมัน และมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ
  • คลื่นไส้ อาเจียน มีอาการท้องผูกน้ำหนักตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
  • มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะมีสีเข้ม และน้ำดีไหลลงลำไส้ไม่ได้
  • บางรายอาการปวดท้องอาจหายไปแม้ว่าโรคจะเลวลงก็ตาม

การตรวจวินิจฉัยโรคตับอ่อนอักเสบ
สำหรับการตรวจวินิจฉัย โรคเราจะทราบได้อย่างไรว่าเป็นโรคตับอ่อนอักเสบ เราสามารถตรวจได้โดย การ ตรวจเลือด ทำอัลตราซาวน์

การรักษาโรคตับอ่อนอักเสบ 

การรักษาโรคตับอ่อนอักเสบ จะต้องให้ผุ้ป่วยงดน้ำและอาหาร เพื่อให้กระเพาะอาหารทำงานน้อยลง ให้สารอาหารทางน้ำเกลือ ให้ยาแก้ปวด และยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาโรคติดเชื้อ หากพบว่ามีนิ่วที่ถุงน้ำดี ต้องทำการผ่าตัด เฝ้าระวังอาการแทรกซ้อนตามมา เช่น เกิดภาวะโลหิตเป็นพิษ โรคเบาหวาน โรคไตวาย ขาดอาหาร

การป้องกันตับอ่อนอักเสบ

สำหรับการป้องกันการเกิดโรค สามารถทำได้โดย งดการดื่มสุรา รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ รายละเอียด ดังนี้

  • หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคนิ่วในถุงน้ำดี
  • งดการดื่มแอลกอฮอล์
  • งดการสูบบุหรี่
  • ควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์เสมอก่อนที่จะซื้อยาใด ๆ มารับประทานเอง
  • รักษาสุขอนามัยพื้นฐานให้ดี เพื่อช่วยลดโอกาสการติดเชื้อต่าง ๆ

ตับอ่อนอักเสบ ( Pancreatitis ) สาเหตุเกิดจากนิ่วในท่อน้ำดี การดื่มสุรา การกินยาบางชนิด ไขมันในเลือดสูง เนื้องอกในตับอ่อน เป็นต้น อาการปวดท้องตรงกลางส่วนบนปวดอย่างรุนแรง ท้องอืด มีไข้สูง คลื่นไส้ อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว หายใจเร็ว การรักษาโรคตับอ่อนอักเสบ


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove