สะเดา Siamese neem tree ผักพื้นบ้าน สมุนไพรมีรสขม สรรพคุณดูแลช่องปาก เหงือกและฟัน ช่วยถ่ายพยาธิ รักษาโรคผิวหนัง ลดความดัน ลดไข้ แก้อ่อนเพลีย ช่วยเจริญอาหาร

สะเดา สมุนไพร สรรพคุณของสะเดา

ต้นสะเดาในประเทศไทย เราพบว่า สะเดาสามารถการกระจายพันธุ์อยู่ตามธรรมชาติตามป่าเบญจพรรณและป่าแดง ทั่วประเทศ  นอกจากนี้ยังสามารถพบสะเดาได้ตามป่าแล้งในประเทอินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า ปากีสถานและศรีลังกา

ต้นสะเดา ภาษาอังกฤษ เรียก Siamese neem tree. มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Azadirachta indica A. Juss. Var. siamensis Veleton. ชื่ออื่นๆของสะเดา เช่น สะเลียม กะเดา จะตัง สะเดาบ้าน เดา กระเดา จะดัง จะตัง ผักสะเลม ลำต๋าว สะเรียม ตะหม่าเหมาะ ควินิน สะเดาอินเดีย ไม้เดา เป็นต้น

ลักษณะของต้นสะเดา

ต้นสะเดา เป็นไม้ยืนต้น มีความสูงประมาณ 7 เมตร ใบของสะเดาเป็นแบบขนนก เรียงสลับใบ ยอดอ่อนของใบมีสีน้ำตาลอมแดง ดอกของสะเดา จะออกบริเวณปลายของกิ่ง และจะดอกสะเดาจะออกเมื่อใบของสะเดาแก่และร่วงไป ดอกสะเดามีกลีบดอกสีขาวและมีกลิ่นหอม ผลของสะเดา มีลักษณะเป็นรูปรี กลม

คุณค่าทางโภชนาการของสะเดา

นักโภชนาการได้ศึกษา คุณค่าทางอาหารของสะเดา พบว่า ยอดสะเดา 100 กรัม ให้พลังงานต่อร่างกาย 76 กิโลแคลอรี ซึ่มประกอบไปด้วยน้ำ 77.9 กรัม แคลเซี่ยม 354 มิลลิกรัม โปรตีน 5.4 กรัม ฟอสฟอรัส 26 มิลลิกรัม คาร์โบไฮเดรต 12.5 กรัม ไขมัน 0.5 กรัม กากใยอาหาร 2.2 กรัม ธาตุเหล็ก 4.6 มิลลิกรัม วิตามินซี 194 มิลลิกรัม วิตามินบีหนึ่ง 0.06 มิลลิกรัม เบต้า-แคโรทีน 3611 ไมโครกรัม วิตามินบีสอง 0.07 มิลลิกรัม ในสะเดาพบว่ามีสารสำคัญที่มีประโยชน์ เช่น ในใบสะเดามี quercetin และสารพวก limonoid ได้แก่ nimbolide และ nimbic acid ในเมล็ดสะเดามี Azadirachtin ประมาณ 0.4-1% ในเปลือกต้นสะเดามีสาร nimbin และ desacetylnimbin

สรรพคุณทางสมุนไพรของสะเดา

สามารถนำส่วนต่างๆมาใช้ประโยชน์ได้ เช่น ยอดอ่อน ขนอ่อน เปลือกต้น ก้ายใบ กระพี้ ยาง แก่น ราก ใบ ผล เมล็ด รายละเอียด ของ สรรพคุณของสะเดา มีดังนี้

  • ดอกสะเดาและยอดอ่อนสะเดา สามารถใช้ แก้พิษโลหิต หยุดเลือดกำเดา รักษาริดสีดวงในลำคอ บำรุงธาตุ ช่วยขับลม
  • ขนอ่อนสะเดา สามารถใช้ถ่ายพยาธิ แก้ริดสีดวง แก้ปัสสาวะพิการ
  • เปลือกต้นสะเดา ใช้ลดไข้ ช่วยเจริญอาหาร แก้ท้องเดิน
  • ก้านใบสะเดา สามารถใช้ลดไข้ นำมาทำเป็นยารักษาโรคมาลาเรีย
  • กระพี้ สามารถใช้รักษาถุงน้ำดีอักเสบ
  • ยางของต้นสะเดา ใช้ในการดับพิษร้อน
  • แก่นสะเดา รักษาอาการแก้อาเจียน ช่วยขับเสมหะ
  • รากสะเดา สามารถนำมาใช้รักษาโรคผิวหนัง ขับเสมหะ
  • ใบสะเดา และผลสะเดา สามารถใช้ทำเป็นยาฆ่าแมลง และบำรุงธาตุ
  • ผลของสะเดา จะมีรสขม นิยมนำมาใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ เป็นยาระบาย รักษาโรคหัวใจเดินผิดปกติ
  • เปลือกของรากสะเดา จะมีรสฝาด ใช้ลดไข้ ทำให้อาเจียน และใช่รักษาโรคผิวหนัง
  • เมล็ดสะเดา สามารถนำมาสกัดน้ำมัน และสามารถใช้รักษาโรคผิวหนัง และทำเป็นยาฆ่าแมลง

ข้อควรระวังในการบริโภคสะเดา

  1. ห้ามบริโภคสะเดาในคนที่มีความดันต่ำ เนื่องจากสะเดามีฤทธ์ให้ความดันโลหิตต่ำลง
  2. สะเดา เป็น ยาเย็น มีรสขมอาจทำให้ท้องอืด เกิดลมในกระเพาะได้
  3. ในสตรีหลังคลอด ไม่ควรรับประทาน เพราะจะทำให้น้ำนมแห้ง

การปลูกสะเดา

สามารถปลูกได้ในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน และก่อนปลูกควรไถพรวนแปลงอีกรอบ และตากดินนาน 3-5 วัน วิธีการปลูก เตรียมต้นกล้าสำหรับปลูกที่มีอายุ 3-5 เดือน และมีความสูงประมาณ 20 เซ็นติเมตร จากนั้นนำลงแปลงปลูก ขุดหลุมในระยะระหว่างหลุมประมาณ 3 เมตร ควรให้ขนานกับแนวของดวงอาทิตย์ในทิศตะวันออก-ตะวันตก เพื่อให้ต้นสะเดาสามารถรับแสงได้อย่างทั่วถึง

ฟ้าทะลายโจร ( Kariyat ) สมุนไพร ประโยชน์และสรรพคุณช่วยสมานแผล ลดไข้ แก้ไอ ขับเสมหะ รักษาระบบทางเดินอาหารอักเสบ รักษาทอนซิลอักเสบ ต้นฟ้าทลายโจรเป็นอย่างไรฟ้าทะลายโจร สมุนไพร สรรพคุณของฟ้าทะลายโจร

ต้นฟ้าทะลายโจร ภาษาอังกฤษ เรียก Kariyat ชื่อวิทยาศาสตร์ของฟ้าทะลายโจร คือ Andrographis paniculata Wall. ex Ness. สำหรับชื่อเรียกอื่นๆของฟ้าทะลายโจร เช่น น้ำลายพังพอน ฟ้าสาง หญ้ากันงู สามสิบดี ฟ้าสะท้าน เขยตายยายคลุม เมฆทะลาย เป็นต้น ซึ่งชื่อเรียกของฟ้าทลายโจร ก็จะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละท้องถิ่น จัดเป็นสมุนไพรท้องถิ่นในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่น อินเดีย จีน ศรีลังกา และ ไทย นิยมนําส่วนของใบและลําต้นใต้ดินมาทํายารักษาโรค

ลักษณะของต้นฟ้าทะลายโจร

ฟ้าทะลายโจร เป็นไม้ล้มลุก การขยายพันธุ์ของฟ้าทะลายโจรสามารถขยายพันธ์โดยใช้เมล็ด ลักษณะของต้นฟ้าทะลายโจร มีดังนี้

  • ลำต้นฟ้าทะลายโจร มีลำต้นตั้งตรง ปลายกิ่งเป็นสี่เหลี่ยมสีเขียว ความสูงประมาณ 2 ฟุต
  • ใบของฟ้าทลายโจร เป็นใบเดี่ยว ใบแคบ ตรงปลายและโคนใบจะแหลม ผิวมัน สีเขียว
  • ดอกของฟ้าทลายโจร เป็นช่อตามง่ามใบ และส่วน ยอดของต้น ลักษณะของดอกเป็นหลอด ส่วนปลายของดอก จะแยกออกเป็น 5 กลีบ มีสีขาวอมม่วง ดอกฟ้าทะลายโจรจะแบ่งออกเป็น 2 ปาก โดยปากบนจะแยกออกเป็น 3 กลีบ และปากล่างจะแยกออก 2 กลีบ และมีเลี้ยง 5 กลีบผลของฟ้าทะลายโจร มีขนาดเล็ก และเมื่อผลแก่เต็มที่จะแตกออกเป็นสองซีก ภายมีสีน้ำตาล

สารสำคัญในฟ้าทะลายโจร

การศึกษาสารสำคัญในฟ้าทะลายโจร พบว่ามีสารสําคัญ 3 สาร ซึ่งเป็นสารในกลุ่ม Lactone  ประกอบด้วย สารแอดโดรกราโฟไลด์ ( Andrographolide ) , สารนีโอแอนโดรกราโฟไลด์ ( NeoAndrographolide ) และ สาร 14-ดีอ๊อกซี่แอนโดรกราโฟไลด์ ( 14-deoxy-andrographolide )

ฟ้าทะลายโจร สามารถรักษาโรคไข้หวัดได้ เนื่องจากในฟ้าทะลายโจรมีสารสำคัญ คือ ไดเทอร์ปีนแลคโตน ( Diterpene Lactones ) ฟลาโวนอยด์ ( Flavonoid ) และสารประกอบอื่นๆ ซึ่งสรรพคุณช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

สรรพคุณของฟ้าทะลายโจร

สำหรับการใช้ประโยชน์จากฟ้าทะลายโจร เพื่อการรักษาโรคและบำรุงร่างกาย สามารถใช้ประโยชน์จากทั้งต้น ทั้งสดและต้นแห้งย โดยรายละเอียดของสรรพคุณฟ้าทะลายโจร มีดังนี้

  • ใบของฟ้าทะลายโจร สามารถใช้รักษาแผลน้ำร้อนลวก แผลไฟไหม้ นำมาบดผสมกับน้ำมันพืช แล้วพอกบริเวณแผล
  • ต้นของฟ้าทะลายโจร นำมาใช้แก้บิด ชนิดติดเชื้อ แก้โรคระบบทางเดินอาหารอักเสบ ลดไข้ แก้ทอนซิลอักเสบ โดยนำต้นฟ้าทะลายโจร มาต้มน้ำและนำไปดื่ม

วิธีนำฟ้าทะลายโจรมาใช้ประโยชน์ในการรักษาโรค

  • ทำยาชง ด้วยการใช้ใบสดหรือใบแห้ง (ใบสดจะมีสรรพคุณที่ดีกว่า) ประมาณ 5-7 ใบ แล้วนำมาต้มกับน้ำเดือดลงจนเกือบเต็มแก้ว แล้วปิดฝาทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง เมื่ออุ่นแล้วก็นำมารินดื่ม โดยให้รับประทานก่อนอาหารและก่อนนอนครั้งละ 1 แก้ว วันละ 3-4 ครั้ง
  • ทำยาเม็ดฟ้า ด้วยการใช้ใบสดนำมาล้างให้สะอาด แล้วผึ่งในที่ร่มที่มีลมโกรกให้แห้ง (ห้ามตากแดด) นำมาบดจนเป็นผงละเอียด แล้วนำมาปั้นผสมกับน้ำผึ้ง (หรือน้ำเชื่อมก็ได้เช่นกัน) ให้เป็นเม็ดขนาดเท่ากับเม็ดถั่วเหลือง (หนักประมาณ 250 มิลลิกรัม) เมื่อปั้นเสร็จแล้วให้ผึ่งลมจนแห้ง (ถ้าไม่แห้งแล้วนำมารับประทานจะขมมาก) โดยรับประทานก่อนอาหารและก่อนนอนครั้งละ 4-10 เม็ด วันละ 3-4 ครั้ง
  • ทำยาแคปซูล ด้วยการใช้ผงยาที่ปั้นเป็นยาลูกกลอน ก็ให้นำมาใส่ในแคปซูล เพื่อที่จะช่วยกลบรสขมของยา ทำให้รับประทานได้ง่าย โดยขนาดแคปซูลที่ใช้คือ ขนาดเบอร์ 2 (250 มิลลิกรัม) ใช้รับประทานก่อนอาหารและก่อนนอนวันละ 3-4 แคปซูล วันละ 3-4 ครั้ง
  • ทำยาผง สำหรับใช้สูดดม โดยใช้ยาผงที่บดละเอียดนำมาใส่ขวด ปิดฝาเขย่าแล้วเปิดฝาออก ผงควันก็จะลอยออกมา ก็ให้สูดดมควันนั้นเข้าไป โดยผงยาจะติดที่คอช่วยทำให้ยาออกฤทธิ์ที่ลำคอโดยตรง จึงช่วยลดเสมหะ แก้อาการเจ็บคอ ช่วยลดน้ำมูก และช่วยฆ่าเชื้อในจมูกได้เป็นอย่างดี (ซึ่งวิธีนี้จะดีกว่าวิธีกวาดคอ วิธีเป่าคอ และวิธีการชง เพราะจะรู้สึกขมน้อย ไม่รู้สึกขยาดเวลาใช้ ใช้งานง่ายและสะดวก) โดยนำมาสูดดมบ่อย ๆ วันละหลาย ๆ ครั้ง แต่ถ้ารู้สึกคลื่นไส้ให้หยุดใช้สักพัก เมื่อหายแล้วก็นำมาสูดใหม่จนกว่าอาการจะดีขึ้น
  • ทำยาดองเหล้า ด้วยการใช้ผงแห้งที่ได้นำมาแช่กับสุราโรง 40 ดีกรี (แต่ถ้าใช้แอลกอฮอล์ที่สามารถรับประทานได้ หรือ Ethyl alcohol ก็จะดีกว่าเหล้า) โดยแช่พอท่วมยาผงขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากนั้นปิดฝาขวดให้แน่น ทิ้งไว้ 7 วัน และให้เขย่าขวดทุก ๆ วัน วันละ 1 ครั้ง เมื่อครบตามกำหนดก็ให้กรองเอาแต่น้ำนำมาดื่มก่อนอาหารครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ (รสชาติจะขมมาก) วันละ 3-4 ครั้ง (ส่วนที่เหลือก็ให้เก็บไว้ในขวดที่สะอาดและปิดให้สนิท)

โทษของฟ้าทะลายโจร

การใช้ฟ้าทะลายโจร เพื่อรักษาโรคต้องใช้อย่างถูกวิธีและใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งโทษของฟ้าทะลายโจร มีดังนี้

  • ฟ้าทะลายโจรอาจส่งผลให้ความดันโลหิตต่ําลง แต่ยังไม่มีผลการยืนยันผลต่อการใช้ในคน ผู้ที่มีภาวะความต่ําจึงไม่ควรรับประทาน เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ
  • ฟ้าทะลายโจรอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดออกผิกปกติหรือรอยฟกช้ําได้ง่าย ผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติจึงควรหลีกเลี่ยงที่จะรับประทาน รวมถึงผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดควรหยุดใช้สมุนไพรนี้อย่างน้อย 2 สัปดาห์

กลุ่มคนที่ไม่ควรบริโภคฟ้าทะลายโจร

  • สตรีมีครรภ์
  • คนที่เป็นโรคความดันโลหิตต่ำ
  • คนที่เคยมีประวัติเป็นโรคหัวใจรูห์มาติค (Rheumatic heart disease)
  • คนที่มีอาการเจ็บคอเนื่องมาจากการติดเชื้อ Streptococcus group A
  • คนที่มีประวัติเคยเป็นโรคไตอักเสบ เนื่องมาจากการติดเชื้อ Streptococcus group A
  • คนที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากติดเชื้อแบคทีเรียและมีอาการรุนแรง เช่น มีไข้สูง มีอาการหนาวสั่น มีหนองในลำคอ

ฟ้าทะลายโจร ( Kariyat ) คือ สมุนไพร ประโยชน์และสรรพคุณของฟ้าทะลายโจร ช่วยสมานแผล ลดไข้ แก้ไอ ขับเสมหะ รักษาระบบทางเดินอาหารอักเสบ รักษาทอนซิลอักเสบ ต้นฟ้าทลายโจรเป็นอย่างไร


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove