แครอท ผักสวนครัว นิยมนำมาทำอาหาร ต้นแครอทเป็นอย่างไร คุณค่าทางโภชนาการของแครอท ประโยชน์และสรรพคุณบำรุงสายตา ช่วยชะลอวัย โทษของแครอทมีอะไรบ้างแครอท สมุนไพร สรรพคุณของแครอท ประโยชน์ของแครอท

แครอท ( Carrot ) ชื่อวิทยาศาสตร์ของแครอท คือ Daucus carota L. สมุนไพร พืชตระกูลผักชี ต้นแครอท นิยมรับประทานหัวแครอท คุณค่าทางโภชนาการของแครอท ประโยชน์ของแครอท สรรพคุณของแครอท บำรุงสายตา บำรุงเลือด ป้องกันมะเร็ง บำรุงผิว บำรุงกระดูก ช่วยชะลอวัย ช่วยลดคอเลสเตอรอล  รักษาโรคความดันโลหิตสูง ป้องกันโรคหลอดเลือด รักษาโรคหัวใจ เป็นยาขับปัสสาวะ ช่วยรักษาฝี รักษาแผลหนอง

ต้นแครอท หากจะพูดถึงแครอท เพื่อนคิดถึงอะไร กระต่าย ชอบกินแครอท ซึ่งแครอท เป็นผักชนิดหนึ่งที่นิยมรับประทานหัวของแครอท เป็นพืชต่างแดน มีสรรพคุณด้านสุขภาพมากมาย แครอทอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆมากมาย อาทิ เช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก

แครอทมีสารสำคัญ ตัวหนึ่ง เรียกว่า  “ ฟอลคารินอล ( falcarinol ) ” เป็นสารที่ช่วยต้านเซล์มะเร็งได้ แครอทนิยมนำมารับประทาน เป็นส่วนประกอบของอาหารต่างๆมากมาย ทั้งเมนูต้ม ผัด แกง ทอด นึ่ง วันนี้มาทำความรู้จักกับ แครอท ว่า ต้นแครอทเป็นอย่างไร คุณค่าทางโภชนาการของแครอทมีอะไรบ้าง สรรพคุณด้านการรักษาโรคของแครอทเป็นอย่างไร

แครอท มีชื่อภาษาอังกฤษ ว่า Carrot ชื่อวิทยาศาสตร์ของแครอท คือ Daucus carota L. เป็นพืชตระกูลเดียวกันกับผักชี แครอท เป็นพืชที่ถิ่นกำเนิดในประเทศแถบเอเชียตะวันออกและประเทศแถบเอเชียกลาง เป็นพืชที่นิยมรับประทานกันทั่วโลก เป็นผักที่นิยมนำมารับประทานมากชนิดหนึ่ง ด้วยรสชาติหวาน กรอบ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

ต้นแครอท

ต้นแครอท เป็นพืชที่มีหัวอยู่ใต้ดิน มีลักษณะคล้ายกับผักชี โดยลักษณะของต้นแครอท มีรายละเอียด ดังนี้

  • หัวแครอทมีสีส้ม สามารถนำมารับประทานได้ รากหรือหัวแครอท มีลักษณะพองโต ยาว ความยาวประมาณ 15 เซนติเมตร ถึง 30 เซนติเมตร
  • ใบของต้นแครอท ใบจะแตกออกรอบๆของลำต้น ก้านใบยาว มีสีเขียว ความสูงประมาณ 20 เซนติเมตร ถึง 40 เซนติเมตร แครอทจะมีอยู่ 2 ส่วน คือ ส่วนเนื้อและส่วนแกน ซึ่งส่วนของเนื้อ (Outer Core) ประกอบด้วย เปลือกบางชั้นนอก (Periderm) และเนื้อ(Cortex) ส่วนที่สองส่วนแกน(Inner core) เป็นส่วนที่ทำให้หัวของแครอทแข็งแรง ส่วนนี้จะประกอบไปด้วย ท่อนํ้า(Xylem) และแกน(Pith)

สายพันธุ์แครอท

  • พันธุ์เบบี้แครอท(Baby carrot) สายพันธุ์ มีหัวขนาดเล็ก ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร มีสีส้ม
  • พันธุ์แนนเทส(Nantes) สายพันธ์นี้ มีหัวขนาดปานกลาง ความยาวของหัวประมาณ 15 เซนติเมตร มีสีส้ม เนื้อกรอบ นิยมปลูกในแถบประเทศยุโรป
  • พันธุ์แชนทีเน่(Chantenay) สายพันธุ์นี้มีหัวขนาดปานกลาง เป็นทรงรูปกรวย ความยาวของหัวประมาณ 25 เซนติเมตร มีสีส้ม เนื้อกรอบ เป็นสายพันธุ์ที่นิยมปลูกที่สหรัฐอเมริกา
  • พันธุ์แดนเวอร์(Danvers) สายพันธ์นี้มีลักษณะของหัวจะสั้นและเรียว ความยาวของหัวแครอทประมาณ 20 เซนติเมตร มีสีส้ม เปลือกมีผิวเรียบ เป็นสายพันธ์ที่นิยมนำมาแปรรูปเป็นอบแห้ง หรือบรรจุกระป๋อง และปลูกมากในประเทศสหรัฐอเมริกา
  • พันธุ์อิมเพอเรเตอร์ (Imperater) สายพันธุ์นี้มีหัวขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ผิวของเปลือกเรียบ มีสีส้ม ลักษณะเด่นของสายพันธุ์นี้คือ มีใบติดกับหัวแครอท
  • พันธุ์หงส์แดง (New Kuruda) เป็นสายพันธ์ไทย จัดอยู่ในสายพันธุ์แชนทาเน่ ชอบดินร่วนปนทราย สามารถปลูกได้ทั้งตลอดปี
  • พันธุ์มินิเอ็กซ์เพรส (Mini Express) สายพันธุ์นี้จัดอยู่ในแครอทสายพันธุ์เบบี้แครอท คือมีหัวเล็ก เรียวยาว ปลูกได้ตลอดทั้งปี ชอบดินร่วนปนทราย
  • พันธุ์ทัมบีลีนา(Thumbelina)มีลักษณะเด่น คือ หัวกลม และสั้น ความยาวประมาณ 5 เซนติเมตร มีสีส้มสด รสชาติดี
  • พันธุ์ทัวริโน เอฟวัน (Tourino F1) เป็นสายพันธุ์ที่อ้วนเตี้ย มีสีส้มสด และอายุการเก็บเกี่ยวสั้น มีสีส้มสด

คุณค่าทางอาหารของแครอท

มีการศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของหัวแครอทขนาด 100 กรัม พบว่าให้พลังงาน 41 กิโลแคลอรี่ มีสารอาหารต่างๆ มากมาย ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 9.6 กรัม น้ำตาล 4.7 กรัม เส้นใย 2.8 กรัม ไขมัน 0.24 กรัม โปรตีน 0.93 กรัม วิตามินเอ 835 ไมโครกรัม เบต้าแคโรทีน 8,285 ไมโครกรัม ลูทีน และ ซีแซนทีน 256 ไมโครกรัม วิตามินบี1 0.066 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.058 มิลลิกรัม วิตามินบี3 0.983 มิลลิกรัม วิตามินบี5 0.273 มิลลิกรัม วิตามินบี6 0.138 มิลลิกรัม วิตามินบี9 19 ไมโครกรัม วิตามินซี 5.9 มิลลิกรัม วิตามินอี 0.66 มิลลิกรัม ธาตุแคลเซียม 33 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 0.3 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม ธาตุแมงกานีส 0.143 มิลลิกรัม ธาตุฟอสฟอรัส 35 มิลลิกรัม ธาตุโพแทสเซียม 320 มิลลิกรัม ธาตุโซเดียม 69 มิลลิกรัม ธาตุสังกะสี 0.24 มิลลิกรัม และธาตุฟลูออไรด์ 3.2 ไมโครกรัม

สรรพคุณของแครอท

การใช้แครอทในการรักษาโรคนิยมใช้หัวแครอทมาใช้ประโยชน์ ซึ่ง สรรพคุณของแครอทประกอบด้วย

  • บำรุงสายตา แครอทมีสารเบต้าแคโรทีน ที่มีประโยชน์ต่อสายตา การรับประทานแครอทอย่างสม่ำเสมอจะช่วยถนอมดวงตา
  • ช่วยป้องกันมะเร็ง แครอทมีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันโรคมะเร็งปอด ในแครอทมีสารต้านอนุมูลอิสระ มีฤทธิ์ต้านการเจริยเติบโตของเซลล์มะเร็ง
  • บำรุงเลือด แครอทสามารถช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดดี ในแครอทช่วยลดน้ำตาลในเลือดและลดไขมันในเลือด ทำให้เลือดสามารถไหลเวียนได้ดี การกินแครอทช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเส้นเลือด เนื่องจากในแครอทมีสารที่ชื่อว่า แคโรทีนอยด์ เป็นสารที่ช่วยรักษาสมดุลของน้ำตาลในเลือด
  • บำรุงระบบทางเดินอาหาร แครอทช่วยปรับระบบย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดี แครอทจะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบย่อยอาหาร
  • บำรุงผิวพรรณ แครอทมีวิตามินหลายชนิดที่มีผลดีต่อผิว และยังมีน้ำ ทำให้ผิวเปล่งปลั่งอยู่เสมอ ลดรอยเหี่ยวย่น
  • บำรุงเส้นผม ในแครอทมีน้ำและวิตามินหลายชนิดที่ช่วยให้เส้นผมแข็งแรง
  • แครอทช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค ในแครอทเด่นอย่างหนึ่ง คือ มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียทำให้แผลหายเป็นปกติรวดเร็วมากขึ้น
  • ช่วยสมานแผล
  • ขับพยาธิ แครอทมีฤทธิ์ช่วยในการขับถ่ายพยาธิได้
  • ช่วยบำรุงกระดูก ฟัน เหงือก เล็บ ให้แข็งแรง
  • ช่วยในการชะลอวัย และลดริ้วรอยตามผิวหนัง

นอกจากนั้น แครอทยัง ช่วยลดคอเลสเตอรอล  รักษาโรคความดันโลหิตสูง ป้องกันโรคหลอดเลือด รักษาโรคหัวใจ เป็นยาขับปัสสาวะ ช่วยรักษาฝี รักษาแผลหนอง

การปลูกแครอท

การปลูกแครอทนั้น แครอท เป็นพืชที่ ชอบอากาศหนาว ระดับ 7-23 องศาเซลเซียส การปลูกจะปลูกในช่วยฤดูหนาว ระหว่างเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ มีอายุการเก็บเกี่ยวที่ 80 – 100 วัน ดินที่เหมาะสมต่อการปลูกแครอท คือ ดินร่วนปนทราย มีอินทรีย์วัตถุสูง ระบายนํ้าได้ดี หน้าดินลึก ในประเทศไทย สามารถปลูกได้ในทุกภาคยกเว้นภาคใต้ แครอทสามารถปลูกได้ทุกฤดู แต่ฤดูหนาวจะให้ผลผลิตสูงที่สุด การปลูกแครอท สามารถใช้วิธีการหว่านหรือหยอดเมล็ด

แครอท ผักสวนครัว นิยมนำหัวแครอทมาทำอาหาร ลักษณะของต้นแครอท เป็นอย่างไร คุณค่าทางโภชนาการของแครอท ประโยชน์และสรรพคุณของแครอท เช่น บำรุงสายตา ช่วยชะลอวัย โทษของแครอท มีอะไรบ้าง

ขนุน ( Jackfruit ) สมุนไพร ไม้มงคล นิยมปลูกหลังบ้าน เชื่อว่าจะหนุนนำความเจริญ ต้นขนุนเป็นอย่างไร สรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆ บำรุงร่างกาย ชูกำลัง แก้อาการเมาสุราขนุน สมุนไพร ผลไม้ สรรพคุณของขนุน

ต้นขนุน เป็น ผลไม้พื้นบ้าน ที่เป็นที่รู้จักกันในสังคมไทย เป็น พืชมงคล ที่นิยมปลูกหลังบ้าน ด้วยชื่อของขนุน หนุนนำความเจริญสู่เจ้าของบ้าน เม็ดขนุน จากการศึกษาพบว่ามีสารพรีไบโอติก ที่ช่วยให้กระเพาะอาหารทำงานได้ดีและการดูดซึมสารอาหารของลำไส้เล็กได้ดี ช่วยให้ร่างกานดูซึม แร่ธาตุต่างๆได้ดี และยังมีสารป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วย ประโยชน์ของขนุน ลักษณะทางพันธุ์ศาสตร์ของขนุน สรรพคุณของขนุน  คุณค่าทางอาหารของขนุนมีอะไรบ้าง วันนี้เราจะมา นำเสนอขนุน ผลไม้ไทย ให้ทุกคนได้รู้จักกันอย่างละเอียด

ต้นขนุน มีชื่อภาษาอังกฤษ เรียก Jackfruit ขนุน มีชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Artocarpus heterophyllus Lam ส่วนชื่อเรียกอื่นๆ ของขนุน อาทิ เช่น ขะนู นะยวยซะ เนน นากอ มะหนุน หมากหมี้ เป็นต้น ขนุน เป็น ผลไม้พื้นบ้านของไทย ผลสุกของขนุน มีรสหวาน กรอบ มีกลิ่นหอม อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารมากมาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ ไทอามิน ไนอาซิน แคลเซียม โพแทสเซียม เหล็ก สังกะสี โซเดียม และกรดโฟลิก ขนุนมีไขมันและคอเลสเตอรอลน้อย สำหรับคุณแม่มือใหม่ การกินเมล็ดขนุน ช่วยเร่งน้ำนมได้

คุณค่าทางโภชนาการของขนุน

นักโภชนาการได้ศึกษา คุณค่าทางอาหารของขนุน ขนาด 100 กรัม พบว่า ให้พลังงาน 95 กิโลแคลอรี่ มีสารอาหารต่างๆ มากมาย ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 23.25 กรัม น้ำตาล 19.08 กรัม กากใยอาหาร 1.5 กรัม ไขมัน 0.64 กรัม โปรตีน 1.72 กรัม วิตามินเอ 5 ไมโครกรัม เบต้าแคโรทีน 61 ไมโครกรัม ลูทีน และ ซีแซนทีน 157 ไมโครกรัม วิตามินบี1 0.105 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.055 มิลลิกรัม วิตามินบี3 0.92 มิลลิกรัม วิตามินบี5 0.235 มิลลิกรัม วิตามินบี6 0.329 มิลลิกรัม วิตามินบี9 24 ไมโครกรัม วิตามินซี 14.7 มิลลิกรัม วิตามินอี 0.34 มิลลิกรัม ธาตุแคลเซียม 24 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 0.23 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 29 มิลลิกรัม ธาตุแมงกานีส 0.043 มิลลิกรัม ธาตุฟอสฟอรัส 21 มิลลิกรัม ธาตุโพแทสเซียม 448 มิลลิกรัม ธาตุโซเดียม 2 มิลลิกรัม และธาตุสังกะสี 0.13 มิลลิกรัม

ลักษณะของต้นขนุน

ต้นขนุน เป็นไม้ยืนต้น ที่มีขนาดใหญ่ ความสูงประมาณ 30 เมตร ขนุนสามารถขยายพันธ์ได้โดยการใช้เมล็ด ลักษณะของต้นขนุน มีรายละเอียด ดังนี้

  • ลำต้นและกิ่งของต้นขนุน จะมีน้ำยางเป็นสีขาว ซึ่งน้ำยางจะเหนียว สามารถนำมาใช้ห้ามเลือด รักษาแผลอักเสบได้ดี
  • ใบของต้นขนุน เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ ตามกิ่งก้าน ใบเป็นรูปวงรี กว้างประมาณ 5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 10เซนติเมตร ปลายใบมีลักษณะแหลม ผิวของในเรียบ มีสีเขียว เนื้อใบหนา
  • ดอกของขนุน ออกเป็นช่อ มีสีเขียว ออกดอกตามปลายกิ่งหรือซอกใบ ซึ่งดอกของขนุนจะกลายเป็นผลของขนุนในเวลาต่อมา สำหรับผลของต้นขนุน
  • ผลขนุน มีลักษณะ กลมหรือรี ผลมีสีเขียว ผลดิบเนื้อในจะเป็นสีขาว เมื่อผลสุกเนื้อในจะเป็นสีเหลือง และมีรสหวาน ภายในผลจะมีเมล็ดจำนวนมากขนาดใหญ่

ขนุน มีหลายสายพันธุ์ ซึ่งแต่ละสายพันธ์มีความแตกต่างกันออกไป สำหรับสายพันธ์ขนุนที่นิยมปลูกในประเทศไท นั้น ได้แก่ พันธุ์ตาบ๊วย มีลักษณะเด่น เนื้อสีเหลือง ผลใหญ่ เนื้อหนา พันธุ์ฟ้าถล่ม ลักษณะเด่น ผลขนาดใหญ่ กลม เนื้อเป็นสีเหลืองทอง และพันธุ์ทองสุดใจ ลักษณะเด่น ผลยาว ใหญ่ และเนื้อเป็นสีเหลือง

สรรพคุณของขนุน

สำหรับ ขนุน นั้นนิยมรับประทานผลสุก เนื่องจากมีรสหวาน กลิ่นหอม รสหวานช่วยให้ร่างกายมีกำลังวังชา ประโยชน์ของขนุน มีมากมายหลายส่วน ตั้งแต่รากของขนุน เนื้อไม้ ผล เมล็ด เปลือก ยางของขนุน เป็นต้น โดยรายละเอียดของประโยชน์ด้านการรักษาโรคของขนุน มีดังนี้

  • เปลือกผลขนุน ช่วยป้องกันมะเร็ง
  • ผลขนุน ใช้เป็นยาระบายอ่อนๆ แก้กระหายน้ำ บำรุงร่างกาย เป็นยาชูกำลัง ช่วยแก้อาการเมาสุรา
  • รากขนุน ช่วยแก้ท้องเสีย
  • เมล็ดของขนุน ช่วยบำรุงระบบทางเดินอาหาร ป้องกันมะเร็ง รักษาอาการปวดท้อง บำรุงร่างกาย เป็นยาชูกำลัง ช่วยบำรุงน้ำนม ขับน้ำนม ทำให้น้ำนมของแม่เพิ่มมากขึ้น
  • ไส้ในของผลขนุน ช่วยลดอาการตกเลือด
  • รากของขนุน ช่วยรักษาโรคผิวหนัง ช่วยขับพยาธิ ช่วยบำรุงเลือด
  • ใบของขนุน ช่วยป้องกันแผลเป็นหนอง รักษาโรคผิวหนัง แก้ท้องเสีย รักษาอาการปวดหู รักษาหูน้ำหนวก ช่วยระงับประสาท แก้โรคลมชัก ลดระดับน้ำตาลในเลือด รักษาโรคเบาหวาน
  • แก่นไม้ต้นขนุน ช่วยสมานแผล รักษากามโรค รักษาแผลในกระเพาะอาหาร บำรุงเลือด
  • ยางของต้นขนุน ช่วยลดอาการบวมอักเสบของแผล ป้องกันแผลเป็นหนอง ลดน้ำตาลในเลือด รักษาเบาหวาน บำรุงเลือด กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว

โทษของขนุน

สำหรับการใช้ประโยชน์จากขนุน พบว่าสารสกัดจากขนุน ทำให้รู้สึกง่วง ข้อควรระวังในการบริโภคขนุน มีดังนี้

  • ผู้ป่วยเบาหวาน ไม่ควรรับประทานผลขนุนสุก เพราะ อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง
  • สตรีมีครรภ์ และ สตรีที่อยู่ระหว่างกำลังให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการใช้ขนุนเพื่อรักษาโรค เพราะ ขนุนจะซึมผ่านน้ำนมจนเกิดอันตรายต่อทารก
  • ควรหยุดใช้สารสกัดจากขนุนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพราะ อาจทำให้รู้สึกง่วงซึม

ขนุน ( Jackfruit ) สมุนไพร ไม้มงคล นิยมปลูกหลังบ้าน เชื่อว่าจะหนุนนำความเจริญ ประโยชน์ของขนุน ลักษณะทางพันธุ์ศาสตร์ของขนุน คุณค่าทางอาหารของขนุนมีอะไรบ้าง สรรพคุณของขนุน เป็นยาระบายอ่อนๆ แก้กระหายน้ำ บำรุงร่างกาย เป็นยาชูกำลัง ช่วยแก้อาการเมาสุรา


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove