มะนาว น้ำจากผลมะนาวมีรสเปรี้ยว สมุนไพรรสเปรี้ยว ต้นมะนาวเป็นอย่างไร สรรพคุณของมะนาว เช่น เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยขับปัสสาวะ บำรุงเลือด โทษของมะนาวมีอะไรบ้าง

มะนาว ชนิดของมะนาว ประโยชน์มะนาว สรรพคุณมะนาว

มะนาว ( Lime ) ชื่อวิทยาศาสตร์ของมะนาว คือ Citrus aurantiifolia (Christm) สมุนไพร คู่ครัวไทย มีรสเปรี้ยว นิยมนำมาปรุงรส สรรพคุณของมะนาว ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ ช่วยแก้อาเจียน ช่วยรักษาสมดุลโรคความดันโลหิต ช่วยเจริญอาหาร แก้โรคตาแดง แก้ไข้ บำรุงเลือด รักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้ ช่วยขับเสมหะ ช่วยแก้ไอ ช่วยบรรเทาอาการเสียบแหบแห้ง บำรุงเหงือก ช่วยรักษาท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้อาการท้องร่วง ช่วยการขับพยาธิไส้เดือน เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยรักษาโรคกระเพาะ แก้อาการบิด ช่วยขับปัสสาวะ รักษาโรคนิ่ว ช่วยบำรุงโลหิต รักษาโรคผิวหนัง ใช้รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก

ต้นมะนาว ภาษาอังกฤษ เรียก Lime มะนาวมีชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Citrus aurantiifolia (Christm) ชื่ออื่นๆของมะนาว เช่น ส้มมะนาว โกรยชะม้า ปะนอเกล มะนอเกละ มะเน้าด์เล ปะโหน่งกลยาน ลีมานีปีห์ หมากฟ้า เป็นต้น มะนาวที่นิยมปลูกในเมืองไทย มี 4 พันธุ์ ประกอบด้วย มะนาวไข่ มะนาวแป้น มะนาวแป้นรำไพ และมะนาวหนัง มะนาวถือเป็นผลไม้ ที่มีกรดอินทรีย์หลายชนิด ประกอบด้วยกรดซิตริก กรดมาลิค และไวตามินซี นอกจากนี้แล้ว น้ำมันหอมระเหยที่สกัดได้จากผิวมะนาว มีวิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียมและฟอสฟอรัสอีกด้วย

คุณค่าทางโภชนาการของมะนาว

จากการศึกษามะนาวขนาด 100 กรัม พบว่า ข้อมูลทางโภชนาการของมะนาว ต่อ 100 กรัม ให้พลังงาน 30 กิโลแคลอรี มีสารอาหารสำคัญประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 10.5 กรัม น้ำตาล 1.7 กรัม กากใยอาหาร 2.8 กรัม ไขมัน 0.2 กรัม โปรตีน 0.7 กรัม วิตามินบี 1 0.03 มิลลิกรัม วิตามินบี 2 0.02 มิลลิกรัม วิตามินบี 3 0.2 มิลลิกรัม วิตามินบี 5 0.217 มิลลิกรัม วิตามินบี 6 0.046 มิลลิกรัม วิตามินบี 9 8 ไมโครกรัม วิตามินซี 29.1 มิลลิกรัม ธาตุแคลเซียม 33 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 0.6 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 6 มิลลิกรัม ธาตุฟอสฟอรัส 18 มิลลิกรัม ธาตุโพแทสเซียม 102 มิลลิกรัม และธาตุโซเดียม 2 มิลลิกรัม

สรรพคุณของมะนาว

สรรพคุณของมะนาว ประกอบด้วย เราได้รวบรวมประโยชน์ทางสมุนไพรของมะนาว ดังนี้ ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ ช่วยแก้อาเจียน ช่วยรักษาสมดุลโรคความดันโลหิต ช่วยในการเจริญอาหาร แก้โรคตาแดง แก้ไข้ บำรุงเลือด รักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้ ช่วยขับเสมหะ ช่วยแก้ไอ ช่วยบรรเทาอาการเสียบแหบแห้ง บำรุงเหงือก ช่วยรักษาท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้อาการท้องร่วง ช่วยการขับพยาธิไส้เดือน เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยรักษาโรคกระเพาะ แก้อาการบิด ช่วยขับปัสสาวะ รักษาโรคนิ่ว ช่วยบำรุงโลหิต รักษาโรคผิวหนัง ใช้รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก

การนำมะนาวมาใช้ประโยชน์ทางความงาม ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ช่วยบำรุงตา น้ำมันหอมระเหยที่ให้กลิ่นหอมสดชื่น (Aromatherapy) ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออกไป ช่วยผิวบริเวณเหล่านี้มีความนุ่มนวลเพิ่มมากขึ้น ช่วยรักษาสิวของคุณให้ลดน้อยลงได้ แก้ปัญหาผิวแตก แก้ปัญหาส้นเท้าแตก

ประโยชน์ด้านอื่นของมะนาว

  • ป้องกันภัยจากงูและสัตว์เลื้อยคลาน ด้วยการใช้เปลือกวางไว้บริเวณใกล้ที่นอน ๆ สัตว์เหล่านี้ก็จะไม่มารบกวนเพราะได้กลิ่นมะนาว
  • แก้พิษจากการโดนงูกัด
  • ถ้าก้างปลาติดคอ ให้นำน้ำมะนาว 1 ลูก เติมเกลือ ใส่น้ำตาลเล็กน้อย แล้วกลืนลงไปให้ตรงกับบริเวณที่ก้างติดคอ อมไว้สักครู่แล้วค่อย ๆ กลืน ก้างปลาจะอ่อนตัวลงแล้วหลุดลงไปในกระเพาะ
  • แก้เล็บขบ ส้นเท้าแตก ขาลาย
  • ลบรอยเปื้อนหมึก หรือรอยเตารีด บนเสื้อผ้าได้

เมื่อพูดถึงมะนาวนั้นหลายหลายคนก็คงจะนึกถึงรสชาติความเปรี้ยวจี๊ดอีกทั้งยังนึกถึงความเป็นผลไม้รสเปรี้ยวพี่อยู่คู่กับครัวคนไทยมาแต่ช้านาน โดยส่วนใหญ่แล้วมะนาวมักจะถูกนำมาเป็นเครื่องปรุงรถสำหรับการทำอาหารประเภทยำเป็นหลัก ซึ่งรสชาติความเปรี้ยวจี๊ดของมะนาวนั้นมีสรรพคุณที่ดีมากมายนั่นเอง รสชาติเปรี้ยวจี๊ดของมะนาวนั้นอุดมไปด้วยวิตามินซีจากธรรมชาติที่สูงมากโดยวิตามินซีนั้นเป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระอีกทั้งยังช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเห็นได้ว่าหากมีอาการเจ็บป่วยหรืออาการไม่สบายต่างๆนั้นคนโบร่ำโบราณก็จะใช้มะนาวมาช่วยเพื่อบรรเทาอาการนั่นเอง

สรรพคุณของมะนาว นั้นมีมากมายหลากหลายอย่างซึ่งส่วนใหญ่แล้วนั้นจะช่วยในเรื่องของการบรรเทาอาการปวดศีรษะช่วยลดอาการอาเจียนเป็นลมวิงเวียนศีรษะหรือแม่กระทั่งแก้เมาเหล้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย และยังรวมไปถึงมะนาวนั้นยังมีคุณสมบัติในการช่วยแก้ไอได้เป็นอย่างดีซึ่งหากมีอาการไอแล้วก็สามารถใช้มะนาวผสมกับน้ำผึ้งแล้วก็เกลือนิดหน่อยใช้จิบบ่อยๆจะช่วยลดอาการระคายเคืองคออีกทั้งยังช่วยสามารถให้ชุมคอได้เป็นอย่างดีอีกด้วย อีกครั้งมะนาวนั้นยังมีการนำมาใช้เพื่อการบำรุงผิวและเพื่อความสวยความงามได้เป็นอย่างดีอีกด้วยโดยในน้ำมะนาวนั้นจะมีกรดซิตริกสูง ซึ่งกรดซิตริกนี้จะช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพได้เป็นอย่างดี จึงเห็นได้ว่าจะมีผู้คนนำน้ำมะนาวนั้นมาผสมกับดินสอพองเพื่อพอกหน้าเป็นประจำจะช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นอีกทั้งยังช่วยลดรอยสิวและลดอาการสิวได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นแล้วมะนาวยังสามารถนำมาใช้ประกอบการหุงข้าวทำให้ข้าวนั้นขาวและอร่อยมากยิ่งขึ้นโดยการนำน้ำมะนาวเพียงแค่สองถึงสามช้อนชาใส่ลงไประหว่างหุงข้าวนั่นเอง อีกทั้งหากต้องการให้ไข่เจียวมีความฟูและนิ่มขึ้นก็สามารถใช้น้ำมะนาวเพียงสี่ถึงห้าหยดผสมลงไปในไข่พี่เตรียมจะเจียวก็สามารถทำให้ไข่นั้นนุ่มและฟูน่ากินเป็นอย่างมาก

นอกจากนั้นแล้วในเปลือกของผิวมะนาวยังมีน้ำมันหอมระเหยหลากหลายชนิดที่ให้กลิ่นหอมสดชื่นโดยกลิ่นหอมสดชื่นนั้นจะช่วยในการลดอาการวิงเวียนศีรษะและลดอาการปวดศีรษะ อีกทั้งรวมไปถึงสามารถทำให้ร่างกายเกิดความสงบและมีสมาธิในการทำงานหรือทำกิจกรรมต่างๆได้เป็นอย่างดีมากขึ้นด้วยเช่นกัน ในปัจจุบันนี้มีการแปรรูปมะนาวเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆมากมายทั้งผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารอีกทั้งยังรวมไปถึงขนมและของกินเล่นต่างๆมากมายด้วยซึ่งถือได้ว่าเป็นการต่อยอดผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นน้ำมะนาวสำเร็จรูปมะนาวผงและรวมไปถึงมะนาวดองอีกด้วย จึงนับได้ว่ามะนาวนั้นเป็นสมุนไพรใกล้ตัวที่มีสรรพคุณมากมายหลากหลายอีกทั้งยังสามารถนำมาทำเป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหารต่างๆเพื่อสร้างรสชาติอร่อยถูกปากกับคนไทยได้เป็นอย่างดี

โยคะท่าตรีโกณ ( Triangle Pose ) ช่วยยืดกล้ามเนื้อสะโพก ขา และ หลัง ให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ช่วยยกกระชับสะโพก ไม่ให้บั้นท้ายดูหย่อน หรือใหญ่จนเกินไป

ท่าตรีโกรน โยคะ การฝึกโยคะ โยคะพื้นฐาน

โยคะท่าตรีโกณ ( Triangle Pose ) ช่วยยืดกล้ามเนื้อสะโพก ขา และ หลัง  เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรง แถมยัง ช่วยยกกระชับสะโพก ไม่ให้บั้นท้ายดูหย่อน หรือใหญ่จนเกินไป ช่วยเรื่องการยืดแผ่นหลังให้ตรงและพยายามให้ส่วนของบั้นท้ายอยู่ในทิศทางเดียวกับแผ่นหลัง

วิธีการฝึกโยคะท่าตรีโกณ ( Triangle Pose )

  1. เริ่มต้นด้วยการยืนตัวตรง โดยให้มือทั้ง 2 ประสานกันไว้แบบนมัสการ แยกเท้าให้ออกห่างกันประมาณ 1 เมตร แล้วเปิดปลายเท้าขวาออกด้านนอกทำมุม 90 องศา โดยให้เท้าซ้ายอยู่ประมาณกึ่งกลางเท้าขวา ให้ลำตัวช่วงบนอยู่ศูนย์กลางเข่า หายใจเข้าลึกๆ
  2. หายใจออกแล้ววางมือขวาลงกับพื้น โดยให้ขนานกับเท้าซ้าย ส่วนมือซ้ายเหยียดชี้ขึ้นฟ้าโดยให้ขนานกับหัวไหล่ แหงนหน้าขึ้นมองไปยังที่ปลายนิ้วมือข้างซ้าย พยายามเปิดอกเปิดไหล่หรือยืดหลังให้ตรง ให้น้ำหนักตัวลงที่ฝ่าเท้าทั้ง 2 ข้างมากกว่าลงน้ำหนักไปที่ฝ่ามือขวาที่วางราบกับพื้น ทำค้างไว้ 30-60 วินาทีโดยหายใจเข้าและหายออกตามปกติ
  3. จากนั้นก็กลับมาสู่ท่ายืนตรงเหมือนตอนเริ่มต้นแล้วทำสลับข้าง

ประโยชน์ของการฝึกโยคะท่าตรีโกณ

  • ช่วยยืดกล้ามเนื้อ ส่วนต้นขา น่อง เข่า ข้อเท้า ไหล่ และหลัง
  • ช่วยกระตุ้นอวัยวะในช่องท้อง และทำให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น
  • ลดภาวะความตรึงเครียด
  • ลดปัญหาอาการของวัยทอง

ข้อห้ามฝึกในการฝึกโยคะท่าตรีโกณ

  • สำหรับคนที่มีปัญหาท้องร่วงอยู่ให้งดทำท่านี้
  • สำหรับคนที่ปวดศีรษะอยู่ ให้งดการฝึกท่านี้ก่อน
  • สำหรับคนที่มีปัญหาความดันโลหิต ทั้ง ความดันโลหิตต่ำและความดันโลหิตสูง ให้งดการทำท่านี้ไปก่อน

โยคะท่าตรีโกณ Triangle Pose  สามารถใช้บล็อกวางช่วยได้กรณีที่วางมือราบกับพื้นไม่ได้ และสามารถหมุนกลับหรือจะปรับเปลี่ยนท่าบ้างเล็กน้อยก็สามารถทำได้ ตามความชำนาญและการฝึกฝนของแต่ละบุคคล

โยคะท่าตรีโกณ Triangle Pose  สามารถงอเข่าได้เล็กน้อยกรณีที่ยังเหยียดขาได้ไม่ตรง ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละบุคคล แต่ในช่วงที่วางมือราบกับพื้นพยายามเก็บหน้าท้องแล้วดันให้สะโพกเข้าแกนกลางลำตัว จะยิ่งทำให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่นได้มากขึ้น ควรทำสลับข้างให้เท่ากัน อย่างด้านขวา 3 ครั้ง ก็ควรทำด้านซ้าย 3 ครั้งด้วยเช่นกัน เพื่อให้ร่างกายทั้ง 2 ข้างเกิดความสมดุล ระหว่างทำควรมีสมาธิ จิตจดจ่ออยู่กับการยืดกล้ามเนื้อ ปล่อยวางภาระหน้าที่ เพื่อผ่อนคลายความเครียดที่ผ่านมา ไม่แนะนำให้คนที่มีความดันต่ำ พักผ่อนน้อย มีอาการปวดศรีษะ หรือท้องเสียทำท่านี้ เพราะ อาจทำให้หน้ามืดและเป็นลมหมดสติได้

โยคะท่าตรีโกณ Triangle Pose ทำได้ง่ายและไม่ต้องใช้พื้นที่มากนัก หากทำติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอก็จะเห็นผลชัดเจนและเร็วขึ้น จำนวนครั้งเราสามารถเพิ่มจำนวนขึ้นตามความถี่ของการฝึกฝน ครั้งนี้ข้างละ 3 ครั้ง คราวหน้าเราก็สามารถเพิ่มเป็นข้างละ 5 ครั้งได้ ตามความเหมาะสม การเล่นโยคะ ไม่ควรฝืนร่างกายเพราะอาจทำให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บได้ ทำตามศักยภาพของร่างกายตัวเอง สรีระของแต่ละคนสร้างมาต่างกัน เราไม่สามารถทำทุกท่าเหมือนกันได้ แต่เราสามารถฝึกฝนเพื่อความแข็งแรงของร่างกาย จึงควรเลือกท่าที่เหมาะสมแล้วเราจะมีความสุขในการเล่นโยคะมากยิ่งขึ้นไป

โยคะ (สันสกฤต: योग) เป็นกลุ่มของการปฏิบัติหรือการประพฤติทางกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ โดยถือกำเนิดที่ประเทศอินเดีย หลายพันปีมาแล้ว วิธีการฝึกโยคะนั้นมีการได้ถ่ายทอดจากอดีตถึงปัจจุบัน ในแถบหุบเขาอินดัส วอลเลย์ มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โดยนักโบราณคดีได้ค้นพบไม้แกะสลัก และงานศิลปะประเภทรูปปั้น ที่มีการฝึกโยคะ นักปราชญ์ชาวฮิน ชื่อ ปตัญชลี ได้ปรับปรุงรูปแบบการฝึกโยคะขั้นพื้นฐาน และได้เขียนตำราสูตรการฝึกโยคะไว้ 8 ข้อ ผู้ที่ฝึกและปฏิบัติโยคะ หากเป็นชายจะเรียกว่า โยคี และหากเป็นสตรีจะเรียกว่า โยคินี โยคะมาเป็นการออกกำลังกาย จะเน้นความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกระดูกทำให้เลือดและสารอาหารไปเลี้ยงส่วนประสาท ทำให้การทำงานของต่อมต่างๆทำงานดีขึ้น ท่าต่างๆในการฝึกโยคะ จะยืดเหยียดกล้ามเนื้อตามแบบของโยคะสอดคล้องกับการหายใจ และการทำสมาธิ การฝึกโยคะจะทำให้สุขภาพจิตและสุขภาพกายดี

แหล่งอ้างอิง

  • Denise Lardner Carmody, John Carmody (1996), Serene Compassion. Oxford University Press US. p. 68.
  • Stuart Ray Sarbacker, Samādhi: The Numinous and Cessative in Indo-Tibetan Yoga. SUNY Press, 2005, pp. 1–2.
  • Tattvarthasutra [6.1], see Manu Doshi (2007) Translation of Tattvarthasutra, Ahmedabad: Shrut Ratnakar p. 102