มะเร็งลำไส้เล็ก เนื้อร้ายที่ลำไส้เล็ก อาการปวดท้องหลังกินอาหาร ปวดท้องถึงหลัง เบื่ออาหาร มีเลือดออกที่ทางเดินอาหาร สีอุจจาระผิดปรกติ มีก้อนบริเวณท้องส่วนบนขวามะเร็งลำไส้เล็ก โรคระบบทางเดินอาหาร โรคมะเร็ง เนื้อร้าย

มะเร็งลำไส้เล็ก เกิดจากอะไร สาเหตุ ปัจจัยที่ทำให้เกิด โรคมะเร็งลำไส้เล็ก คืออะไร รักษาโรคมะเร็งลำไส้เล็ก อย่างไร สำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้เล็กต้องดูแลอย่างไร โรคในระบบทางเดินอาหาร ความผิดปรกติของเซลล์ในร่างกาย โรคมะเร็งที่พบได้ไมบ่อย ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งลำไส้เล็ก มีอะไรบ้าง

ลำไส้เล็ก

ทำความรู้จักกับ ลำไส้เล็ก หน้าที่ของลำไส้เล็ก นั้นคือ การย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารที่ถูกย่อยเข้ากระแสเลือด เพื่อนำสารอาหารเหล่านั้นไปใช้ประโยชนื ซึ่ง ลำไส้เล็ก นั้นมีความสำคัญต่อร่างกาย ซึ่งใน ลำไส้เล็ก นั้นบทบาทมากที่สุด ในลำไส้เล็กจะมี ติ่งที่ยื่นออกมา เราเรียกติ่งนี้ว่า วิลไล ภาษาอังกฤษ เรียก Villi ส่วนนี้ เป็นส่วนสำคัญที่ใช้เพื่อเพิ่มความสามารถในการดูดซึมสารอาหารของ ลำไส้เล็ก

โครงสร้างลำไส้เล็ก

ลำไส้เล็ก นั้นมีลักษณะเป็นท่อ เป็นกล้ามเนื้อ มีความยาวประมาณ 10 เมตร เป็นจุดที่เชื่อมต่อจากส่วนปลายของกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก นั้นจะสร้างน้ำย่อยออกมา เพื่อประโยชน์ในการย่อยอาหาร และการดูดซึมอาหารให้ได้มากที่สุด ลำไส้เล็ก(Small intestine) สามารถแบ่งได้ 3 ส่วน ประกอบด้วย ลำไส้เล็กตอนต้น เรียก Duodenum ลำไส้เล็กส่วนกลาง เรียก Jejurium  และ ลำไส้เล็กส่วนปลาย เรียก lleum โดยรายละเอียดของลำไส้เล็กส่วนต่างๆ มีรายละเอียด ดังนี้

  • ลำไส้เล็กส่วนต้น ( Duodenum ) คือส่วนที่ต่อจากกระเพาะอาหาร ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่สั่นที่สุด เมื่อเทียบกับลำไส้เล็กส่วนอื่นๆ
  • ลำไส้เล็กส่วนกลาง ( Jejunum ) ส่วนนี้จะมีความยาวประมาณ 9 ฟุต อยู่ต่อจากลำไส้เล็กส่วนต้น
  • ลำไส้เล็กส่วนปลาย ( Ileum ) เป็นส่วนของลำไส้เล็กที่อยู่ปลาย อยู่ติดกับลำไส้ใหญ่ เป็นส่วนที่มีความยาวมากที่สุด เป็นส่วนที่มีความสามารถในการดูดซึมสารอาหารมากที่สุด ของลำไส้เล็ก

โรคมะเร็งลำไส้เล็ก

สำหรับอัตราการเกิด โรคมะเร็งลำไส้เล็ก นั้นเราไม่พบว่ามีการป่วย โรคมะเร็งลำไส้เล็ก ในอัตราที่สูง โดย อัตราการเกิดมะเร็งลำไส้เล็ก ไม่ถึงร้อยละ 1 ของการเกิดมะเร็งในอวัยวะทั้งหมดของร่างกาย แต่โรคมะเร็งชนิดนี้ เราจะพบว่าผู้สูงอายุ ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป มีอัตราการเกิดที่สูงกว่าช่วงอายุที่ต่ำกว่า 50 ปี และอัตราการเกิดโรคเพศชายจะมีอัตราส่วนที่สูงกว่าเพศหญิง

มะเร็งลำไส้เล็ก คือ การเกิดความผิดปรกติของเซลล์ร่างกายบริเวณลำไส้เล็ก ลักษณะเป็นเนื้องอก ก้อนเนื้อร้าย ที่ลามมาจากอวัยวะใกล้เคียง หรือสามารถแพร่่ไปสู่อวัยวะใกล้เคียงได้ เช่น กระเพาะอาหาร ท่อน้ำดี ตับอ่อน เป็นต้น

สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้เล็ก

การเกิด โรคมะเร็งลำไส้เล็ก นั้น ในปัจจุบันเรายัง ไม่สามารถทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงของการเกิด มะเร็งลำไส้เล็ก ได้แน่ชัดนัก แต่มีการพบสารบางตัว ที่ออกมาจากน้ำย่อยจากตับอ่อนและน้ำดี เช่น กรดลิโธโคลิก(Lithocholic) เป็นต้น ปัจจัยที่ทำให้เกิดมะเร็ง มาจาก พันธุกรรม โรคเนื้องอกชนิดดีบริเวณเยื่อบุผิว เนื้องอกชนิดต่อมขนอ่อน แผลที่ลำไส้เล็ก เป็นต้น

ประเภทของมะเร็งลำไส้เล็ก

การเกิดมะเร็งลำไส้เล็ก เราพบว่ามีหลายลักษณะ ซึ่งเราสามารถแบ่งประเภทของมะเร็งลำไส้เล็กได้ 4 ประเภท มีรายละเอียด ดังนี้

  1. มะเร็งลำไส้เล็ก ชนิดต่อม เกิดต่อมที่เยื่อเมือกลำไส้เล็กส่วนต้น และต่อมนี้เกิดการพัฒนาเป็นเนื้องอก
  2. มะเร็งลำไส้เล็ก ชนิดคาซินอย ( Carcinoid ) เป็นการเกิดเนื้อร้ายจากเซลล์enterochromaffin โดยทั่วไปแล้วเนื้องอกที่เกิดขึ้น จะมีขนาดเล็กและส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นที่ลำไส้เล็กเพียงจุดเดียว แต่เมื่อเนื้องอกนี้พัฒนาตัวจนมีขนาดใหญ่ขึ้น จะสามารถลามจนเกิดเนื้อร้ายได้
  3. มะเร็งลำไส้เล็ก ชนิดกล้ามเนื้อเรียบ เป็นการเกิดชั้นของกล้ามเนื้อ ลักษณะเรียบ ที่ลำไส้เล็ก
  4. มะเร็งลำไส้เล็ก ชนิดเนื้อร้ายของต่อมน้ำเหลือง เป็นเนื้องอกชนิดร้าย เกิดจากต่อมน้ำเหลืองที่ผนังลำไส้เล็ก แต่มะเร็งชนิดนี้ มีความแตกต่างจากมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่รุกล้ำถึงลำไส้เล็ก

อาการของผู้ป่วยมะเร็งลำไส้เล็ก

อาการของมะเร็งลำไส้เล็ก นั้น ก็จะเกิด การผิดปรกติของระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเราสามารถสรุป อาการของโรคมะเร็งลำไส้เล็ก ได้ดังนี้

  1. มีอาการปวดท้องส่วนบน ปวดท้องตื้อๆ หลังรับประทานอาหาร อาการปวดสามารถลามไปปวดบริเวณหลัง
  2. มีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
  3. มีเลือดออกที่ทางเดินอาหาร แบบเรื้อรัง สังเกตุอาการจาก สีอุจจาระผิดปรกติ มีเลือดปนที่อุจจาระ อุจจาระมีสีดำ
  4. น้ำหนักตัวลดลง ร่างกายอ่อนแอ โลหิตจางฃ
  5. มีก้อนบริเวณท้องส่วนบนขวา เกิดจากเนื้องอก เนื้อร้าย มีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อเนื้องอกมีขนาดใหญ่ขึ้น

วิธีการรักษามะเร็งลำไส้เล็ก

การรักษาโรคมะเร็งลำไส้เล็ก นั้น หากพบว่ามีมะเร็ง ต้องทำการรักษาด้วยการตัดเนื้อร้ายออกและการฉายรังสี การทำเคมีบำบัด เพื่อป้องกันการเติบโตของเนื้อร้าย เราสามารถสรุป วิธีการรักษามะเร็งลำไส้ ได้ดังนี้

  • การรักษามะเร็งลำไส้เล็กด้วยการผ่าตัด ซึ่งการผ่าตัดแพทยืจะทำการผ่าตัดลำไส้เล็ก หัวตับอ่อน การผ่าตัดท่อลำไส้เล็กแบบเป็นช่วงๆ และการผ่าตัดส่วนของกระเพาะอาหาร เป็นการตัดเนื้อร้ายออกจากร่างกาย แต่การผ่าตัดยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เนื่องจากเนื้อร้ายสามารถเจริญเติบโตได้ ดังนัั้น ต้องมีการรักษาด้วยเคมีบำบัดควบคู่ไปด้วย
  • การรักษามะเร็งลำไส้เล็กด้วยการฉายรังสีและการทำเคมีบำบัด เป็นการทำให้เนื้อร้าย และเซลล์มะเร็งผ่อ ไม่สามารถเจริญเติบโตได้อีก

วิธีการดูแลผู้ป่วยมะเร็งลำไส้เล็ก

สำหรับ การดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้เล็ก นั้น การลดการทำงานของระบบทางเดินอาหาร การใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารเป็นสิ่งที่สำคัญ วิธีการดูแลผู้ป่วยมะเร็งลำไส้เล็ก มีดังนี้

  • ผู้ป่วยต้องเลิกการบุหรี่
  • ผู้ป่วยต้องไม่ดื่มสุรา
  • ผู้ป่วยต้องไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชาและกาแฟ
  • อาหารสำหรับผู้ป่วยต้องเป็นอาหารเบาๆ ไม่รสจัด หรือเผ็ด
  • การใช้ยาที่มีผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารต้องปรึกษาแพทย์
  • รับประทานอาหารที่มีกากใยอาหาร เช่น ผลไม้และผักสด
  • ควรให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่ครบห้าหมู่
  • รักษาความสะอาดของภาชนะที่มีส่วนในการรับประทานอาหาร และความสะอาดของสิ่งแวดล้อมของผู้ป่วย

โรคมะเร็งลำไส้เล็ก เกิดเนื้องอกที่ลำไส้เล็ก ปวดท้องหลังรับประทานอาหาร ลามไปถึงหลัง ก้อนเนื้อร้าย สามารถแพร่่ไปสู่อวัยวะใกล้เคียงได้ โรคนี้เกิดจากอะไร แนวทางการรักษาทำอย่างไร สำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้เล็กต้องดูแลอย่างไร

การส่งเสริมทักษะการเข้าสังคม สามารถสังเกตุจากบุคลิกภาพของลูก ว่าพร้อมในการเข้าระดับใด วิธีสังเกตุว่า ทักษะการเข้าสังคม ของลูกน้อยอยู่ในระดับใด

พัฒนาการเด็ก การเข้าสังคม การเลี้ยงลูก

สามารถสังเกตุจากบุคลิกภาพของลูกว่ามีความพร้อมใน การเข้าสังคม มากน้อยเพียงใด เรามีวิธีสังเกตุลูกน้อยว่า ทักษะการเข้าสังคมของลูกน้อย อยู่ในระดับใด

การส่งเสริมทักษะการเข้าสังคมของลูก น้อย นั้นเด็กๆนั้นถึงแม้ว่าจะเป็น ผ้าขาว ที่พร้อมจะรับสิ่งต่างๆจาก สิ่งแวดล้อม แต่ บุคลิกภาพของลูก จะถูกถอดแบบมาจาก พฤติกรรมของพ่อและแม่ เนื่องจาก พ่อและแม่ เป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับลูกมากที่สุด การเลียนแบบคนรอบข้าง และ สิ่งที่เด็กได้พบและเห็น มี ผลต่อบุคลิกภาพของเด็ก อย่างชัดเจน

การช่วย ส่งเสริมบุคลิกภาพ ที่มีอยู่แล้วของลูกนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ซึ่งจะเป็น ตัวช่วยผลักดัน ให้เด็กมีพฤติกรรมใน การเข้าสังคม ที่แตกต่างกันออกไป สิ่งนี้สามารถสังเกตุได้จาก การสังเกตุพฤติกรรมของลูก

การสังเกตุพฤติกรรมของลูก นั้น สามารถ สังเกตุ ได้ตลอดเวลา ว่า ลูกชอบทำ และ ไม่ชอบทำสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นขณะอาบน้ำ เล่น รับประทานอาหาร การนอน การตื่น ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นส่วนของการปรับแผนการใน การเลี้ยงลูก ให้ลูกมีพฤติกรรม และ บุคลิกภาพที่ดี ใน การเข้าสังคม

การแสดงออกทางอารมณ์ ของลูก จะเป็นสิ่งที่ บ่งบอกถึงบุคลิกภาพ ของเขาได้เป็นอย่างดี เราได้แยก พฤติกรรมของลูก ออกเป็น 4 พฤติกรรม ซึ่งเราสามารถนำมาใช้ ปรับบุคลิกของลูกน้อย ให้พร้อมในสังคม มีรายละเอียดดังนี้

  • ลูกอารมณ์ปานกลางถึงปกติ ลูกมี พฤติกรรมการชอบเล่น และ ปฏิสัมพันธ์ กันเพื่อนๆ มีความสนใจและพอใจสิ่งรอบข้างรวมถึงสิ่งใหม่ๆรอบตัว ชอบที่จะเล่น และ เข้าหาเพื่อน แต่มีการเล่นสนุก งอแง และดื้อรันบ้างตามสถานการณ์ ซึ่งการจัดการสถานการณ์แบบนี้ต้องให้พ่อแม่ ช่วยระงับความเครียด นั้น
  • ลูกอารมณ์ดีและติดเล่น เด็กยิ้มเก่ง หัวเราะง่าย ซน และ ให้ความสนใจ กับ สิ่งแวดล้อมต่างๆ เด็ก ลักษณะนี้จะอดทนต่อการรอคอยได้น้อย เด็ก ลักษณะนี้เลี้ยงง่าย ไม่ดื้อรั้น
  • ลูกมีอารมณ์เงียบขรึม เด็กไม่ซน ชอบอยู่เงียบๆ เด็กจะ มีความสามารถในการจำ สิ่งต่างๆได้ดี สามารถ มีสมาธิ อยู่กับสิ่งที่ตนเองสนใจได้เวลานาน หาก พ่อแม่ สามารถ ส่งเสริม ลูก ให้สนใจใน สิ่งที่มีประโยชน์ เช่น การอ่านหนังสือ เล่นกีฬา การทำกิจกรรมพิเศษ เด็ก จะ ไม่ดื้อรั้น แต่อาจจะ ดื้อเงียบๆ ไม่เชื่อฟังคำสั่งสอน ง่ายๆ เด็ก จะมีความเป็น โลกส่วนตัวสูง อาจทำให้ ทักษะการเข้าสังคม ต่ำ พ่อแม่ ควรหา กิจกรรม ที่ลูกได้มีส่วนร่วม ทำงานร่วมกับคนอื่น ร่วม จะ ช่วยให้ลูกเป็นเด็กที่มีความสามารถใน การเข้าสังคม มากขึ้น
  • ลูกดื้อรั้น ลูก จะมีลักษณะในการ ไม่ชอบให้ใครขัดใจ ซึ่งมี พฤติกรรมการแสดงออกที่รุนแรง สิ่งนี้เกิดจาก การเลี้ยงดู ที่มี การเอาใจเด็กมากเกินไป พฤติกรรม นี้เป็น พฤติกรรมที่มีปัญหาต่อการเข้าสังคม มาก ซึ่งหากปล่อยไว้นาน ลูก จะ แสดงออกทางอารมณ์ คำพูด และ การกระทำที่รุนแรง หากเด็กโตขึ้นไปจะกลาย เป็นเด็กเกเร  ไม่มีเพื่อนคบ เป็นการผลักดันให้เด็กอยู่ในสภาพสังคมที่ไม่ดี กลายเป็น ปัญหาสังคม ที่ยากในการแก้ไข

แต่อย่างไรก็ดี ไม่ว่าเด็กจะมี บุคลิกภาพ แบบใด มี การแสดงออกทางอารมณ์อย่างไร บุคคลสำคัญที่มีผลต่อพฤติกรรมของลูก ในระยะยาว คือ พ่อและแม่ การเลี้ยงลูกให้มีพัฒนาการ ที่ดี โดยเฉพาะ ทักษะการเข้าสังคม นั้น เป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ การแก้ไขและปรับบุคลิกภาพที่ไม่เหมาะสมของลูก ต้องไม่ทำให้ลูกเกิด ความเครียด และมี พฤติกรรมในการต่อต้าน และจะมี ปัญหาที่สะสม ต่ออีก

การเลี้ยงลูก ตั้งแต่เริ่มต้นตั้งแต่ปัญหาจนถึงการเลี้ยงลูกให้มีพัฒนาการที่ดี แข็งแรง สมบรูณ์ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ การเลี้ยงลูกนั้น มีรายละเอียดที่แตกต่างกันตามช่วงอายุของลูก การจะสร้างลูกให้เจริญเติบโตขึ้มมาพร้อมกับพัฒนาการที่ดี เป็นคนเก่ง มีพัฒนาการด้านร่างกาย สมองและอารมณ์ ที่ดี จำเป็นต้องเข้าใจเด็ก อย่างถูกต้อง