โรคคอตีบ ( Diphtheria ) การติดเชื้อแบคทีเรียที่ทางเดินหายใจ ติดต่อสู่คนได้ อาการมีไข้ มีเสมหะ เจ็บคอ หายใจลำบาก มีแผลตามตัว หากไม่รักษาเป็นอันตรายถึงชีวิต

โรคคอตีบ โรคระบบทางเดินหายใจ ติดเชื้อที่ทางเดินหายใจ ติดเชื้อที่คอ

โรคคอตีบ ( Diphtheria ) คือ โรคระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ชนิด Chorynebac terium diphtheriae เป็นโรคพบได้น้อยในประเทศที่พัฒนาแล้ว โรคคอตีบมีฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโรค ต้องฉีดวัคซีนตั้งแต่เป็นทารกอายุ 2 เดือนโรคที่พบได้บ่อยในประเทศในเขตร้อน เมื่ออดีตโรคคอตีบมีอาการที่รุนแรงเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตจนนวนมาก

สาเหตุของการเกิดโรคคอตีบ

สำหรับโรคคอตีบเกิดจากเชื้อแบคทีเรียคอตีบ ชื่อว่า โครินแบคทีเรียดิฟทีเรีย ( Corynebacterium diphtheriae ) เชื้อโรคเมื่อเข้าสู่งร่างกายเชื้อโรคจะปล่อยสารพิษ ( Exotoxin ) ออกมาทำลายเนื้อเยื่อต่างๆ โดยเฉพาะเยื่อบุคอหอย กล้ามเนื้อหัวใจ และ เส้นประสาท ซึ่งโรคคอตีบนี้สามารถติดต่อกันได้ โดยการรับเชื้อทางปาก หรือ การหายใจ เช่น การไอ การจาม หรือ การสัมผัสน้ำลายหรือเสมหะของคนที่มีเชื้อโรคคอตีบ หลังจากได้รับเชื้อภายใน 10 วันผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการของโรคคอตีบ

อาการของผู้ป่วยโรคคอตีบ  

การแสดงอาการของผู้ป่วยโรคคอตีบ ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บคอ มีไข้ มีน้ำมูก ครั่นเนื้อครั่นตัว ต่อมน้ำเหลืองโต หายใจลำบาก กลืนน้ำลายไม่สะดวก และ ผิวหนังจะมีอาการผิดปรกติ เช่น มีแผลที่ผิวหนัง มีอาการอักเสบที่แผล เจ็บแผล และ มีหนองที่แผล ผู้ป่วยโรคคอตีบหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จะทำให้เกิดอาการต่างๆจากโรคแทรกซ้อนเพิ่มได้ คือ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ภาวะหัวใจล้มเหลว น้ำท่วมปอด หัวใจเต้นผิดปรกติ อาจทำให้เป็นอัมพาต ปากเบี้ยว ตาเข มือเท้าชา และ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ได้ สามารถสรุบลักษณะอาการของโรคคอตีบ ได้ดังนี้

  • มีไข้สูง แต่ไม่เกิน 39 องศาเซลเซียส
  • รู้สึกหนาวสั่น
  • อ่อนเพลีย
  • เจ็บคอมาก
  • หายใจลำบาก
  • หอบเหนื่อย
  • คออาจบวม
  • ไอมีเสียงดังเหมือนสุนัขเห่า
  • เสียงแหบ
  • น้ำมูกอาจมีเลือดปน
  • มีแผลบริเวณผิวหนัง บริเวณแขนและขา

ระยะของโรคคอตีบ

สำหรับระยะของอาการโรคคอตีบ มี 2 ระยะ คือ คอตีบระยะฟักตัวของโรค และ คอตีบระยะติดต่อ ซึงรายละเอียดของโรคคอตีบแต่ละระยะ มีดังนี้

  • คอตีบระยะฟักตัว ตั้งแต่ได้รับเชื้อจะแสดงอาการภายใน 10 วัน ในบางกรณีผู้ติดเชื้ออาจจะไม่แสดงอาการใดๆเลยก็ได้ ซึ่งกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการเหล่านี้ มักเป็นแหล่งแพร่เชื้อสำคัญในชุมชน
  • คอตีบระยะติดต่อ หลังจากติดเชื้อได้ประมาณ 3 สัปดาห์ ผู้ป่วยจะแสดงอาการของโรคคอตีบ ซึ่งสามารถแพร่เชื้อโรคได้ในระยะนี้จากการไอ การจาม และ สารคัดหลั่ง

การรักษาโรคคอตีบ

สำหรับแนวทางการรักษาโรคคอตีบ สามารถรักษาโรคคอตีบได้ด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น penicillin หรือ Erythromycin ใช้เวลาในการรักษาประมาณ 14 วัน  เมื่อให้ยาปฏิชีวนะในการฆ่าเชื้อกับผู้ป่วย แพทย์จะการรักษาด้วยการประคับประคองตามอาการของโรคอื่นๆ เช่น ให้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ให้น้ำเกลือและให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ ใช้เครื่องช่วยหายใจ เพื่อช่วยในการหายใจ ให้ออกซิเจน เป็นต้น

การป้องกันโรคคอตีบ

สำหรับแนวทางการป้องกันการติดเชื้อโรคคอตีบ สามารถทำได้โดยการฉีดวัคซีนป้องกันคอตีบ สรุปแนวทางการป้องกันการเกิดโรคคอตีบได้ ดังนี้

  • เข้ารับการฉีดวัควีนป้องกันโรคคอตีบ
  • รักษาสุขอนามัยพื้นฐานให้สะอาด เพื่อป้องกันอาการติดเชื้อ
  • หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
  • ใช้หน้ากากอนามัยหากต้องอยู่ในพื้นที่เสี่ยงในการรับเชื้อโรค
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยในระยะติดต่อ

ปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่า โควิด-19 Covid-19 ติดเชื้อไวรัสจากสัตว์สู่คน อาการมีไข้ ไอ ปอดอักเสบ หายใจไม่ออก สูญเสียการรับกลิ่น ยังไม่มียารักษาโรค

ไวรัสโคโลน่า โรคปอดอักเสบ โรคทางเดินหายใจ โรคติดเชื้อ

เชื้อไวรัสโคโรน่า เป็นเชื้อไวรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่มีสารพันธุกรรมเป็นอาร์เอ็นเอ มีเปลือกหุ้มด้านนอก ประกอบด้วย โปรตีนคลุมด้วยกลุ่มคาร์โบไฮเดรทเป็นปุ่มๆ ( spikes ) เมื่อดูด้วยกล้องจุลทรรศน์จะเห็นเป็นเหมือนมงกุฎ ซึ่งภาษาลาติน เรียก corona จึงได้ชื่อว่า ไวรัสโคโลน่า เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบอย่างรุนแรง พบครั้งแรงที่เมืองอู่ฮั่น ( Wuhan ) มณฑลหูเป่ย ( Hubei ) ประเทศจีน เป็นการติดเชื้อจากสัตว์สู่คน ไวรัสโคโรน่าข้ามสปีชีส์มาจากค้างคาวติดเชื้อสู่คน

สถานะการณ์การติดเชื้อไวรัสโคโรน่าในปัจจุบัน

สถานการ์ณการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ในปัจจุบัน ปี 2019 มีการรายงานการป่วยครั้งแรกเมื่อ 31 ธันวาคม 2019 ต่อมาจึงพบว่ามีการระบาดของภาวะปอดอักเสบจากไวรัสโคโลน่าที่เมืองอู่ฮั่นเพิ่มขึ้น ซึ่งทางประเทศจีนได้ทำการสืบสวนหาแหล่งแพร่เชื้อของการระบาดในครั้งนี้ พบว่ากลุ่มคนงานและลูกค้าของตลาดขายส่งอาหารทะเลฮั่วนาน ( Huanan Seafood Wholesale Market ) เป็นแหล่งของเชื้อโค พบเชื้อไวรัสโคดลน่าในสัตว์ที่ยังมีชีวิต เช่น เป็ด ไก่ ลา แกะ หมู อูฐ สุนัขจิ้งจอก งู แบดเจอร์ หนูอ้น เฮดจ์ฮอก แต่ตรวจไม่พบเชื้อในอาหารทะเล ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่พบว่าแพร่เชื้อพบว่าเป็นเชื้อโรคที่ข้ามสปีชีส์จากงูเห่าถ่ายทอดสู่คน

ในประเทศจีนเองก็มีการรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ที่เมืองอื่นๆด้วยนอกจากเมื่ออู่ฮั่น เช่น กวางตุ้ง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เป็นต้น ซึ่งทางประเทศจีนได้ประกาศปิดเมืองอู่ฮั่น เพื่อควบคุมการเดินทางของคนจากเมืองนี้เพื่อลดการขยายของตัวของเชื้อไวรัสนี้ นอกจากแพร่ระบาดไปนอกเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีนแล้ว ก็ยังระบาดไปทั่วจีน และทั่วโลก 204 ประเทศและดินแดน จนมีจำนวนสะสมของผู้ป่วยมากกว่า 2,064,815 คน และผู้เสียชีวิตมากกว่า เสียชีวิตแล้ว 137,078 คน

องค์การอนามัยโลก ( WHO ) ประกาศตั้งชื่ออย่างเป็นทางการสำหรับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยใช้ชื่อว่า ” โควิด-19 ” ( Covid-19 ) ย่อมาจาก “ coronavirus disease starting in 2019 ” หรือโรคที่เกิดจากไวรัสโคโรนาที่มีการเริ่มต้นในปี 2562

นายทีโดรส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า ในการเลือกชื่อให้ไวรัส องค์การอนามัยโลกหลีกเลี่ยงที่จะพาดพิงถึงที่ตั้งทางภูมิศาสตร์อย่างเจาะจง สายพันธุ์ต่างๆ ของสัตว์หรือกลุ่มคน ตามกรอบคำแนะนำสำหรับการตั้งชื่อเพื่อหลีกเลี่ยงสร้างบาดแผลหรือมลทินให้แก่เมืองอู่ฮั่น

สาเหตุของไวรัสโคโรน่า

ไวรัสโคโลน่า เป็นเชื้อไวรัสสายพันธ์ใหม่ที่กรายพันธ์มาจากงูและค้างคาว งานวิจัยล่าสุดจากประเทศจีน เชื่อว่าคนที่ติดเชื้อโรคมาจากการกินงูสามเหลี่ยมที่กินค้างคาวเป็นอาหาร ซึึ่งไวรัสโคโลน่าเมื่อเข้าสู่ร่างกายสามารถการแพร่เชื้อจากคนสู่คน ได้ด้วยการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้มีเชื้อโรค ลมหายใจ บาดแผล ดวงตา เป็นต้น

กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรน่า

สำหรับกลุ่มเสี่ยงภาวะติดเชื้อจากไวรัสโคโรน่า คือ ผู้สูงอายุ และ เด็ก ที่มีภาวะภูมิต้านทานโรคต่ำ รวมถึงกลุ่มคนที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่อยู่ใกล้กับแหล่งที่มีเชื้อโรค เช่น เม่ืองอู่ฮั่น ประเทศจีน และ แหล่งที่อับที่มีแหล่งเชื้อโรค

อาการไวรัสโคโรน่า

สำหรับอาการผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า เชื้อโรคจะใช้เวลาในการเพาะเชื้อ 14 วัน ซึ่งอาการของโรคจะแสดงอาการที่ระบบทางเดินหายใจ มีไข้สูง กระสับกระส่าย ไอ ปวดตามเนื้อตัว หากไม่รับการรักษาไวรัสจะเข้าทำลายปอด จนเกิดอาการปอดอักเสบอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้เสียชีวิตได้

การรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า

ปัจจุบันยังไม่มียารักษาภาวะติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ได้โดยตรง การรักษาภาวะติดเชื้อจากไวรัวโคโรน่า จึงใช้การประคับประครองรักษาตามอาการ และ ให้ร่างกายในพักพื้นรักษาตัวเองด้วยการสร้างภูมิต้านทานโรคในร่างกาย ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ป่วยที่สามารถรักษาจนหมดเชื้อในร่างกายได้แล้ว

การป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า

แนวทางการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโลน่า ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังเมืองต่างๆที่มีการระบาดของโรค ซึ่ง ณ มีนาคม 2563 มีการระบาดทั่วโลก ไม่ใช้ระบาดเฉพาะเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน รวมถึง สนามบิน สถานที่ท่องเที่ยว สถานบันเทิง สนามกีฬา ซึ่งอาจมีแหล่งแพร่เชื้อโดยผู้แพร่เชื้อไม่รู้ตัว ให้ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์และสวมหน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อโรคหากต้องเดินทางไปสถานณ์ที่ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโรค เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อโรค โดยหากมีอาการมีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อยหอบ ให้เข้าไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคทันที

ปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ไวรัสโควิด-19 ( Covid-19 ) ติดเชื้อจากสัตว์สู่คน เป็นไวรัสชนิดร้าย มีไข้ กระสับกระส่าย ไอ ปอดอักเสบ ยังไม่มียารักษา ระบาดหนักจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove