ลูกชอบภาษาทำอย่างไร ความฉลาดด้านภาษาของลูกสังเกตุอย่างไร อยากให้ลูกมีความเป็นเลิศด้านภาษา การเลี้ยงลูกในปัจจุบันหากพ่อแม่รู้ได้ทันก็ส่งเสริมได้อย่างถูกต้อง

ความฉลาดด้านภาษา การเลีี้ยงลูก การค้นหาพรสววรค์ของลูก

ศาสตราจารย์โฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ ( Howard Gardner ) ได้นำเสนอ ทฤษฎีพหุปัญญา ( The Theory of Multiple Intelligence ) แนวคิดของทฤษฎีนี้ คือ สติปัญญาของมนุษย์มีหลายด้านขึ้นอยู่กับว่าใครจะโดดเด่นในด้านใด ซึ่งแต่ละด้านผสมผสานกัน แสดงออกมาจนเกิดความสามารถในเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้ ความสามารถของมนุษย์สามารถแบ่งได้ 8 ด้าน คือ ด้านภาษา ด้านตรรกศาสตร์และคณิตศาสตร์ ด้านมิติสัมพันธ์ ด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว ด้านดนตรี ด้านมนุษยสัมพันธ์ ด้านการเข้าใจตนเอง และ ด้านเข้าใจธรรมชาติ

ความฉลาดด้านภาษา ( Linguistic ) เด็กจะมีความถนัดด้านการเรียนรู้ภาษา สามารถเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆได้อย่างรวดเร็ว ชอบการแต่งโคลงกลอน แต่งเพลง และแต่งนิทาน เด็กกลุ่มนี้มีแนวโน้มว่าจะเป็นนักพูดและนักเล่าเรื่องที่ดี

จุดเด่นของเด็กที่มีความฉลาดด้านภาษา

สำหรับจุดเด่นที่สามรถสังเกตุได้ ของเด็กที่มีความถนัดด้านภาษา คือ มีความสามารถด้านความจำภาษาและคำศัพท์ และ สามารถอธิบายเรื่องที่เกี่ยวข้องได้อย่างเข้าใจ โดยลักษณะของเด็กที่มีจุดเด่นด้านภาษา มีลักษณะ ดังนี้

  • ชอบอ่านหนังสือ ชอบเขียน ชอบพูด และ สามารถเล่าเรื่องราวต่างๆที่อ่านได้
  • ชอบพูดเล่นคำทางภาษา คำพ้อง คำผวน และ สำนวนต่างๆ สามารถจดจำและใช้ได้อย่างถูกต้อง
  • ชอบเรียนวิชาด้านภาษา เช่น ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน
  • มีอารมณ์ขัน ชอบการแต่งกลอน ชอบเล่นปริศนาทายคำ
  • สามารถจำชื่อสถานที่และเรื่องราวต่างๆได้อย่างละเอียด

กิจกรรมเสนอแนะสำหรับพ่อแม่ที่มีลูกมีความสามารถด้านภาษา

  • ควรรับฟังความคิดเห็นและตอบคำถามของเด็กด้วยความเต็มใจ
  • หากิจกรรมที่ได้แสดงความสามารถด้านภาษา เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้
  • จัดเตรียมหนังสือและสื่อการเรียนการสอน ให้พร้อมสำหรับการเรียนรู้ของลูก เช่น วิดีโอ กระดาษสำหรับการเขียน อุปกรณ์การเขียนให้พร้อม หนังสือต่างๆ
  • ส่งเสริมการเรียนของลูกด้ายการใช้ภาษา

สำหรับพ่อแม่ที่มีลูก มีความสามารถทางด้านภาษา สามรถมองหาอาชีพที่เหมาะสมกับลูก เช่น นักพูด นักเล่านิทาน นักการเมือง กวี นักเขียน บรรณาธิการ นักหนังสือพิมพ์ ครูสอนภาษา เป็นต้น

ลูกชอบภาษาทำอย่างไร ความฉลาดด้านภาษาของลูก ต้องสังเกตุอย่างไร และ จะพัฒนาต่ออย่างไร ให้ลูกมีความเป็นเลิศด้านภาษา การเลี้ยงลูกในปัจจุบัน ไม่สามารถทำให้ลูกเก่งทุกอย่างได้ หากพ่อแม่รู้ได้ทันก็สามารถส่งเสริมได้อย่างถูกต้อง

ทฤษฏีพหุปัญญา ( Multiple intelligence ) หลักการพัฒนาลูก ด้วยแนวความคิดในการค้นหาความอัฉริยะในตัวเด็ก 8 ด้าน การเข้าใจในความต่างของเด็กทำให้เราพัฒนาลูกได้ถูกทางMultiple intelligence การเลี้ยงลูก

การพัฒนามนุษย์ หากเราสามารถพัฒนาได้อย่างเข้าใจ และ ตรงจุด จะเกิดการพัฒนาอย่างเป็นเลิศ สำหรับพ่อแม่ ที่กำลังมีลูกอยู่ในวัยเจริญเติบโต ต้องมีความเข้าใจในธรรมชาติของคนว่า แต่ละคนมีความแตกต่างกัน ซึ่งบ้างครั้งพ่อแม่ไม่เข้าใจว่า เด็กทำอะไรสักอย่างได้ไม่ไม่ดี ไม่ได้หมายถึง เด็กขี้เกรียจ แต่เกิดจากความไม่ถนัด หากพ่อแม่ดันทุรังในการย้ำให้เด็กทำในสิ่งนั้นๆ ทำให้เกิดผลที่ตามมา คือ เด็กเกรียจสิ่งนั้นไปเลย

สิ่งที่สำคัญสำหรับพ่อแม่ คือ การค้นหาพรสววรค์ของเด็ก และ ส่งเสริมอย่างตรงจุดให้เกิดความชำนาญ จนเกิดเป็นวิชาชีพเลี้ยงตนเอง สามารถอยู่รอดในสังคมได้ สำหรับเทคนิคการค้นหาพรสววค์ของเด็ก มี “ ทฤษฏีพหุปัญญา ( Multiple intelligence )” ของ Howard Gardner ซึ่งเสนอแนวคิดว่า สติปัญญาของมนุษย์ มีหลายด้านที่มีความสำคัญเท่าเทียมกัน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะโดดเด่นในด้านใดบ้าง และความสามารถแต่ละด้านสามารถผสมผสานกันได้ จนเป็นลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละคน ความสามารถของมนุษย์ มีอยู่อย่างน้อย 8 ด้าน คือ ด้านภาษา ด้านตรรกศาสตร์ ด้านมิติสัมพันธ์ ด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว ด้านดนตรี ด้านมนุษยสัมพันธ์ ด้านการเข้าใจตนเอง และ ด้านความเข้าใจในธรรมชาติ

มาทำความรู้จักกับ ทฤษฏีพหุปัญญา ( Multiple intelligence ) ว่าเป็นอย่างไร

  • ความฉลาดด้านภาษา ( Linguistic ) เด็กจะมีความถนัดในการเรียนรู้ภาษา สามารถจดจำคำศัพท์ใหม่ๆได้อย่างรวดเร็ว เด็กจะมีความสนุกกับการต่อคำศัพท์และการเกมเกี่ยวกับภาษา
  • ความฉลาดด้านตรรกะและคณิตศาสตร์ ( Logical-Mathematical ) เด็กมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน สามารถจำแนกสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเป็นระเบียบแบบแผน เด็กจะชอบเล่นเกมส์ที่ต้องแก้ปัญหาทุกชนิด จุดเด่นของเด็กที่มีความฉลาดด้านคณิตศาสตร์และตรรกะ คือ ความสามารถด้านการใช้เหตุผลได้ดี สามารถแยกแยะ จัดลำดับอย่างมีรูปแบบ สามารถเผชิญกับสถานการณ์ที่ซับซ้อน ได้ดีฃ
  • ความฉลาดด้านดนตรี ( Musical ) เด็กมีความสามารถการเรียนรู้ด้านดนตรีได้อย่างดี สามารถเชื่อมโยงเสียงเพลงและเสียงดนตรีได้ดี จุดเด่นของเด็กที่มีความฉลาดด้านดนตรี คือ เด็กจะสามารถทำให้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต เกิดความคล้องจอง เป็นแบบแผน อ่อนโยน สามารถถ่ายทอดสิ่งต่างๆให้เกิดความเข้าใจง่ายได้ดี
  • ความฉลาดด้านร่างกาย ( Bodily-Kinesthetic ) เด็กมีความแข็งแรงชอบทำกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย ชอบแสดงออก และ รักความสนุก จุดเด่นของเด็กที่มีความฉลาดด้านร่างกาย คือ เด็กสามารถตอบสนองต่อสิ่งเร้าทางกายภาพได้ดี
  • ความฉลาดด้านมิติสัมพันธ์ ( Spatial ) เด็กมีความสามารถด้านการคิดและสื่อสารด้วยภาพ จุดเด่นของเด็กที่มีความฉลาดด้านมิติสัมพันธ์ คือ เด็กกลุ่มนี้สามารถจัดการสิ่งต่างๆได้อย่างดี มีจินตนาการในการสร้างสรรค์เพื่อการสื่สาร
  • ความฉลาดด้านมนุษยสัมพันธ์ เด็กจะมีภาวะความเป็นผู้นำสูง มีมนุษยสัมพันธ์ดีเยี่ยม ชอบคนที่มีเพื่อนมากๆ จุดเด่นของเด็กที่มีความฉลาดด้านมนุษยสัมพันธ์ คือ มีความเข้าใจเรื่องการเข้าสังคมและการอยู่ร่วมกับผู้อื่น มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่น
  • ความฉลาดด้านเข้าใจตนเอง ( Intrapersonal ) เด็กกลุ่มนี้ชอบทำงานเพียงลำพัง ไม่ชอบการเข้าสังคม แต่มีความเชื่อมั่นในความสามารถของตนและมีแรงจูงใจในการทำสิ่งต่างๆ จุดเด่นของเด็กที่มีความฉลาดด้านเข้าใจตนเอง คือ เด็กกลุ่มนี้ทำงานเก่งมีเป้าหมายชัดเจน รักความยุติธรรม
  • 8. ความฉลาดด้านรู้จักธรรมชาติ ( Naturalistic ) เด็กกลุ่มนี้ชอบการท่องเที่ยว ชอบการผจญภัย ให้ความสนใจในเรื่องของต้นไม้และสัตว์ต่างๆอย่างมาก จุดเด่นของเด็กที่มีความฉลาดด้านรู้จักธรรมชาติ คือ ชอบสังเกต ชอบจัดระบบ ความสามารถแยกแยะสิ่งที่สังเกตเห็นว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร

ทฤษฏีพหุปัญญา ( Multiple intelligence ) คือ หลักการในการพัฒนาลูก ด้วยแนวความคิดในการค้นหาความอัฉริยะในตัวเด็ก แบ่งได้ ความฉลาด 8 ด้าน การเข้าใจในความต่างของเด็ก จะทำให้เราพัฒนาลูกได้อย่างถูกทาง


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove