ท่อน้ำลายอุดตัน ( Sialolithiasis ) เกิดจากนิ่วที่ต่อมน้ำลายอุดตันท่อน้ำลาย ทำให้ต่อมน้ำลายอักเสบ อาการปวดบวมที่ต่อมน้ำลาย การรักษานวดท่อน้ำลาย ดื่มน้ำ ผ่าตัดนิ่วต่อมน้ำลาย ท่อน้ำลายอุดตัน โรคในช่อปาก โรคไม่ติดต่อ

บทความเกี่ยวกับโรคท่อน้ำลายอุดตัน หรือ โรคนิ่วต่อมน้ำลาย เป็นโรคเกี่ยวกับช่องปาก โรคหู คอ จมูก ซึ่ง เราจะมาเรียนรู้ เกี่ยวกับน้ำลาย ต่อมน้ำลาย โรคนิ่วต่อมน้ำลาย การที่ท่อน้ำลายอุดตัน จะเกิดขึ้นได้อย่างไร สาเหตุของการเกิดโรค อาการนิ่วต่อมน้ำลายเป็นอย่างไร การรักษาทำอย่างไร และ จะป้องกันอย่างไร สมุนไพรอะไรบ้างที่ช่วยลดภาวะการเกิดท่อน้ำลายอุดตัน

น้ำลาย เป็นของเหลวชนิดหนึ่งลักษณะใสๆ อยู่ในปาก น้ำลายพบในปากของสิ่งมีชีวิตทั่วไป ในคนหนึ่งคนจะสร้างน้ำลายประมาณ วันละ 1 ลิตร โดยน้ำลายเกิดจากการสร้างของต่อมน้ำลาย โดยต่อมน้ำลายหลักที่เป็นตัวสร้างน้ำลายจะมี 3 คู่ คือ ต่อมน้ำลายที่ใต้หู ต่อมน้ำลายใต้ขากรรไกร และต่อมน้ำลายใต้ลิ้น แต่ต่อมน้ำลายไม่ได้มีแค่ 3 คู่ ต่อมน้ำลายจะกระจายอยู่ที่เยื่อบุช่องปากและคอหอย

ต่อมน้ำลายใต้หูสร้างน้ำลายชนิดใส ต่อมน้ำลายใต้ขากรรไกรและต่อมน้ำลายใต้ลิ้น สามารถสร้างน้ำลายได้ทั้งชนิดใสและชนิดเหนียวข้น ในน้ำลายชนิดใสจะมีเอนไซม์แอลฟ่าอะไมเลส ซึ่งมีประโยชน์ช่วยย่อยแป้ง ในขณะที่น้ำลายชนิดข้นจะมีหน้าที่ช่วยหล่อลื่นอาหาร

น้ำลายของคนมีค่า PH ที่ประมาณ 7.0 มีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆ หน้าที่หลักของน้ำลาย คือ ช่วยย่อยอาหารและช่วยป้องกันอันตรายภายในช่องปาก ในน้ำลายมีเอนไซม์ช่วยย่อยอาหารคาร์โบไฮเดรต ช่วยหล่อลื่นอาหาร และป้องกันการระคายเคืองจากอาหาร ในน้ำลายจะมีน้ำจำนวนมาก ซึ่งทำให้ปากชุ่มชื้นอยู่เสมอ

สาเหตุของต่อมน้ำลายอุดตัน

ต่อมน้ำลายจะอยู่ต่ำกว่าท่อน้ำลาย ซึ่งการเกิดตะกอนตกค้างในท่อน้ำลายสามารถเกิดขึ้นได้ เนื่องจากการดื่มน้ำน้อย ทำให้น้ำลายเหนียวเกิดการตกตะกอนได้ง่าย และอาหารบางชนิดสามารถก่อนิ่วในท่อน้ำลายได้ ซึ่งอาหารจำนวก แคลเซียมสูง เนื่องจากแคลเซียมอาทำให้ผนังท่อน้ำลายหนาขึ้น แต่สาเหตุนี้ยังไม่เด่นชัดนัก แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยที่มีความเสี่ยงทำให้เกิดนิ่วที่ต่อมน้ำลาย เช่น การขาดน้ำ การใช้ยาบางชนิด รวมถึงการกระทบกระเทือน การได้รับบาดเจ็บของต่อมน้ำลาย ก็มีผลต่อการเกิดนิ่วต่อมน้ำลายได้ และเมื่อนิ่วเกิดขึ้นที่ต่อมน้ำลายหรือท่อน้ำลาย ทำให้น้ำลายไหลออกมาจากท่อน้ำลายไม่ได้ เราอาจจะสรุปประเด็นสาเหตุเป็นข้อๆได้ ดังนี้

  1. ความผิดปกติของเมตะบอลิสมของแคลเซียม
  2. ภาวะขาดน้ำ ทำให้น้ำลายไหลน้อยลง
  3. เกิดการติดเชื้อในช่องปาก
  4. การปรับเปลี่ยนสารละลายประเภทเกลือที่ทำให้เกิดการตกตะกอนของแร่ธาตุ
  5. การรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาลดความดัน ยาแก้แพ้ เป็นต้น ซึ่งยาเหล่านี้ ทำให้ต่อมน้ำลายผลิตน้ำลายได้น้อยลง
  6. การรับประทานอาหารไม่พอ ทำให้ความสามารถในการผลิตน้ำลายลดลง

อาการผู้ป่วยนิ่วต่อมน้ำลาย

ในผู้ป่วยที่มีอาการนิ่วที่ต่อมน้ำลาย เป็นอาการร่างกายไม่สามารถระบายน้ำลายออกมาทางท่อน้ำลายได้ เนื่องจากมีนิ่วไปอุดตัน ทำให้เกิดอาการปวดและบวมบริเวณต่อมน้ำลาย มีการอักเสบบริเวณต่อมน้ำลาย ผุ้ป่วยอาจมีไข้สูง มีหนองไหลออกมาปนกับน้ำลาย พบก้อนนิ่วในท่อน้ำลาย บวมใต้คาง ซึ่งอาการจะเป็นๆหายๆ อาจมีภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับการติดเชื้อ ทำให้เกิดการอักเสบที่ผนังท่อน้ำลาย และเป็นฝีได้

การตรวจวินิจฉัยโรคนิ่วที่ต่อมน้ำลาย สามารถทำได้โดยการเอ็กเลย์ เพื่อดูว่ามีก้อนนิ่วหรือไม่

การรักษาโรคนิ่วที่ต่อมน้ำลาย

การรักษาสามารถทำการรักษาได้หลายวิธี โดยขึ้นอยู่กับอาการของโรค รายละเอียดดังนี้

  1. ในกรณีที่ก้อนนิ่วเล็ก ใช้วิธีให้ดื่มน้ำให้มาก เพื่อให้การสร้างน้ำลายมากขึ้นและจะขับนิ่วออกเอง หรือให้กินอาหารหรือเครื่องดื่ม รสขมหรือรสเปรี้ยว เช่น มะนาว ส้ม ซึ่งจะช่วยให้หลั่งน้ำลายมากขึ้น และขับนิ่วออกมาเอง
  2. ใช้วิธีการนวดให้ก้อนนิ่วออก วิธีนี้ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญ
  3. รักษาโดยใช้คลื่น ใช้คลื่นกระแทก ซึ่งภาษาอังกฤษเรียก Extracorporeal shock wave lithotripsy เรียกย่อๆว่า  ESWL
  4. ผ่าตัดต่อมน้ำลายเอานิ่วออก ซึ่งในกรณีผู้ป่วยที่เป็นบ่อย อาจต้องตัดท่อน้ำลายทิ้ง
  5. รักษาอาการติดเชื้อตามอาการ โดยใช้ยาปฏิชีวนะ

การป้องกันการเกิดนิ่วต่อมน้ำลาย

การป้องกันการเกิดนิ่วที่ต่อมน้ำลายสามารถทำได้โดย การรักษาความสะอาดภายในช่องปาก และให้ดื่มน้ำมากๆ เนื่องจากการดื่มน้ำทำให้น้ำลายสามารถสร้างออกมาได้มาก การอัดตันของท่อน้ำลายก้จะมีโอกาสเป็นไปได้น้อย

ท่อน้ำลายอุดตัน ( Sialolithiasis ) เกิดจากนิ่วที่ต่อมน้ำลายไปอุดตันทางเดินน้ำลาย ทำให้เกิดอาการอักเสบของต่อมน้ำลาย มีอาการปวด บวม ติดเชื้อที่ต่อมน้ำลาย การรักษารักษาท่อน้ำลายอุดตัน ใช้การนวดท่อน้ำลาย ดื่มน้ำมากๆ ผ่าตัดเอานิ่วออก โรคนิ่วต่อมน้ำลายป้องกันอย่างไร

ไตอักเสบ ( Pyelonephritis ) การติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะแพร่สู่ไต ส่งผลให้ตัวบวม อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ปวดหลัง ปวดเอว ความดันสูง แนวทางการรักษาไตอักเสบทำอย่างไรไตอักเสบ กรวยไตอักเสบ โรคไต โรคไม่ติดต่อ

ไต เป็น อวัยวะของระบบใดในร่างกายมนุษย์ ก็ต้องตอบว่าเป็นส่วนหนึ่งของ ระบบทางเดินปัสสาวะ  ไต ภาษาอังกฤษ เรียก Kidney ไตมีสองข้าง คือ ข้างซ้ายและข้างขวา รูปร่างคล้ายเมล็ดถั่วแดง หน้าที่ของไตคือกรองของเสีย น้ำ และเกลือแร่ส่วนเกินจากเลือด และไหลผ่านไปสร้างปัสสาว นอกจากกรองของเสียแล้วยังมีหน้าที่ช่วยรักษาความปกติของระดับน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย ควบคุมความดันโลหิต และกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง หากเกิดความผิดปรกติของการทำงานของไต จะทำให้เกิดการสะสมของเสียในร่างกาย ระบบเลือด และความดันเลือดในร่างกายก็ผิดปรกติ ส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

วันนี้เรามารู้จักกัโรคไต โรคไตอักเสบกันว่า ไตอักเสบเกิดจากอะไร ใครเป็นกลุ่มเสี่ยงเกิดโรคไต อาการของโรคไต การรักษาทำอย่างไร รักษาหายไหม แล้วจะป้องกันโรคไตอักเสบอย่างไร

โรคไตอักเสบ หมายถึง การอักเสบของไต ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะและแพร่สู่ไต หรือการผิดปรกติของการทำงานของไต นอกจากนั้นแล้ว โรคไตอักเสบ อาจเกิดจากปัญญหา เช่น อาการบวมน้ำ การกำจัดน้ำออกจากร่างกายทำได้ไม่ปรกติ ทำให้น้ำสะสมในร่างกายทำให้บวมตามส่วนต่างๆของร่างกาย

ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคไตอักเสบ

ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคไตอักเสบมีหลายข้อ เรารวบรวมและแยกเป็นข้อๆได้ดังนี้

  1. กรรมพันธ์ โรคไตอักเสบบางชนิด เกิดจากกรรมพันธุ์ เช่น โรคไตเป็นถุงน้ำ (Polycystic Kidney Disease) อย่างไรก็ตาม กรรมพันธุ์ไม่ใช่สาเหตุหลัก มีส่วนน้อยที่มีอาการไตอักเสบจากกรรมพันธ์
  2. ภาวะความดันโลหิตสูง การไตทำงานร่วมกับเลือดมีผลต่อระดับความดันเลือด หากไตทำงานหนัก ก็ทให้เกิดความผิดปรกติของไตได้ โดรเริ่มจากอาการอักเสบ และอาจทำให้ไตหยุดทำงาน เกิดภาวะไตวายได้
  3. โรคเบาหวาน  ผู้ป่วยเบาหวานจะปัสาวะบ่อย อาจเกิดการติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะได้ง่ายกว่าปกติ อาการไตอักเสบอาจเกิดขึ้นได้จากภาวะการติดเชื้อ ทำให้ไตอักเสบ ไตวาย แล้วยังทำให้เกิดความดันโลหิตสูงด้วย
  4. โรคอ้วน คนอ้วยมีเมตาบอลิซึมสูง ทำให้ไตต้องทำงานหนักกว่าปรกติ ทำให้เกิดการอักเสบของไตได้ง่าย
  5. อายุ เมื่ออายุมากขึ้น เกิดความเสื่อมของอวัยวะไปตามอายุ การป้องกันเชื้อโรค และการทำงานของอวัยวะต่างๆก้ลดประสิทธิภาพ โดยทั่วไป ไต จะเริ่มเสื่อมตั้งแต่อายุ 35 ปี เฉพาะผู้สูงอายุเพศชายมีโอกาสเป็นโรคเกี่ยวกับต่อมลูกหมากสูง ส่งผลถึงระบบทางเดินปัสสาวะอุดตัน ทำให้ไตอักเสบได้
  6. อาหาร การรับประทานอาหารรสจัด ทำให้ไตทำงานหนัก ส่งผลกระทบต่อไตทำให้อ่อนแอได้ง่าย
  7. ยาบางชนิด มีผลต่อการทำงานของไต เช่น ยาแก้ข้อกระดูกอักเสบ ดังนั้น หากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง
  8. อุบัติเหตุ การเกิดอุบุติเหตุกระทบกระเทือนต่อไต ทำให้ไตบอบช้ำทำงานได้ไม่ปรกติ

บุคคลกลุ่มเสี่ยงเกิดโรคไตอักเสบ

สามารถแยกรายละเอียดของคนที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคไตอักเสบ มีรายละเอียดดังนี้

  1. ผู้สุงอายุ ตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไป เนื่องจากความเสื่อมของอวัยวะต่างๆเป็นไปตามอายุ
  2. ผู้ที่มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นโรคไต เนื่องจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม มีโอกาสเกิดได้
  3. คนน้ำหนักมาก คนอ้วน คนเป็นเบาหวาน
  4. ผู้ป่วยโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ
  5. ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง
  6. ผู้ป่วยโรคเนื้องอกในไต
  7. ผู้ที่อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีโอกาสได้รับสารพิษจากยาบางชนิด
  8. ผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ
  9. ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ตัวเอง

อาการของผู้ป่วยไตอักเสบ

อาการของผู้ป่วยไตอักเสบ จะสังเกตุได้จาก อาการตัวบวม อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ปวดหลัง ปวดเอว เนื่องจากไตหน้าที่หลักคือ การคัวบคุมระดับน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย หากการทำงานผิดปรกติ การควบคุมระดับน้ำในร่างกายผิดปรกติเกิดการสะสมในร่างกายทำให้ตัวบวม ไตทำหน้าที่กรองของเสียในเลือดและขับออกทางปัสสาวะ หากร่างกายกรองของเสียได้ไม่ดี ของเสียก็จะกลับสู่ร่างกายทางเลือด ทำให้อ่อนเพลีย และไตเป็นอวัยวะที่อยู่บริเวณเอว ใต้ซี่โครง หากอวัยวะภายในอักเสบก็ทำให้เกิดอาการ เจ็บ และปวด นอกจากนั้น การปัสสาวะผิดปรกติ เช่น ปัสสาวะเป็นเลือด เป็นต้น ความดันดลหิตสูง

การตรวจว่าเป็นโรคไตอักเสบหรือไม่ สามารถทำได้โดยการ ตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือด โดยการตรวจปัสาวะเพื่อดูความปรกติของปัสสาวะว่า เป็นโรคอะไรหรือเปล่า เช่น โรคนิ่ว โรคติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ กรวยไตอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ และโรคไตอื่น ๆ ส่วนการตรวจเลือด เพื่อหาความผิดปรกติของไต

การรักษาโรคไตอักเสบ

การรักษาโรคไตอักเสบ สามารถรักษาได้โดยใช้ 3 วิธี คือ การรักษาสาเหตุของการเกิดไตอักเสบ รักษาดดยการชะลอความเสื่อมของไต และล้างไตทางหน้าท้อง รายละเอียดดังนี้

  1. การรักษาไตอังกเสบที่สาเหตุของโรค เช่น หากมีนิ่วที่ไต ก็ให้กำจัดนิ่ว หรือ รักษาโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เป็นการรักษาโดยการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เป็นหลัก
  2. การรักษาโดยเพื่อชะลอความเสื่อมของไต ในผู้ป่วยบางคนที่มีอาการไตอักเสบจากความเสื่อมของไต จะทำการรักษาโดยลดการทำงานหนักของไต เช่น การให้ยาควบคุมความดันโลหิต การควบคุมอาหาร เป็นต้น
  3. การรักษาโดยการล้างไตที่หน้าท้อง ในผู้ป่วยที่มีอาการอักเสบบเรื้อรังอาจเกิดไตวายได้ การทำงานของไตต่ำ การนำไตออกมาล้างเพื่อไม่ให้มีเลือดเสีย ทำให้ไตสะอาด

การป้องกันการเกิดโรคไตอักเสบ

โรคไต เป็นโรคที่ไม่มีใครอยากเป็น การป้องกันแบบง่ายๆ คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชิวิต โดยแยกเป็นข้อๆได้ดังนี้

  1. ลดการบริโภคอาหารเค็ม เพื่อควบคุมระดับความดันโลหิต
  2. ลดการดื่มเครื่องดื่มสุราและสารเสพติด
  3. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
  4. ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ
  5. พักผ่อนให้เพียงพอ
  6. หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีพิษต่อไต เช่น ยาแก้ปวดข้อ ปวดหลัง เป็นต้น

สมุนไพรช่วยลดความดันโลหิต สามารถช่วยลดการทำงานหนักของไตได้ สามารถช่วยบรรเทาอาการป่วยของโรคไตได้ เราจึงขอแนะนำ สมุนไพรช่วยลดความดันโลหิต สมุนไพรลดความดัน

มะรุม สมุนไพร สมุนไพรไทย สรรพคุณของมะรุมมะรุม
ฟักทอง สมุนไพร ผักสวนครัว สรรพคุณของฟักทองฟักทอง
กระเจี๊ยบเขียว สมุนไพร สมุนไพรไทย พืชสมนุไพรกระเจี๊ยบเขียว
แตงกวา สมุนไพร พืชสวนครัว ประโยชน์ของแตงกวาแตงกวา
กระเทียม สมุนไพร สมุนไพรไทย เครื่องเทศกระเทียม
หญ้าคา สมุนไพร สมุนไพรไทยหญ้าคา
มะเขือยาว สมุนไพร สมุนไพรไทย ผัดสวนครัวมะเขือยาว
อินทนิน สมุนไพร สมุนไพรไทย ไม้ยืนต้นอินทนิล

โรคไตอักเสบ ( Pyelonephritis ) เกิดจากการติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะ แพร่สู่ไต  ส่งผลให้เกิดอาการ อาการตัวบวม อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ปวดหลัง ปวดเอว ความดันโลหิตสูง สาเหตุของโรคไตอักเสบ กลุ่มเสี่ยงโรคไตอักเสบ อาการโรคไตอักเสบอย่างไร


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove