การกรน Snoring ภาวะกล้ามเนื้อคอคลายตัวขณะหลับ ทำให้ช่องคอแคบ เมื่อหายใจจึงเกิดแรงสั่นสะเทือนเป็นเสียงนอนกรน อาจทำให้เกิดภาวะการหยุดหยาใจ ไหลตาย ได้ รักษาอย่างไรรักษาการนอนกรน การนอนกรน แก้การนอนกรน ใหลตาย

การนอนกรน นี้จะเกิดกับคนอ้วน และ คนสูงวัย มากนอกจากนี้ ในคนที่ดื่มเหล้า หรือ สูบบุหรี่จัด ก็พบว่ามีอตราการนอนกรนสูงเช่นกัน การหยุดหายใจขณะหลับ คือ ภาวะเสี่ยงของคนนอนกรน ซึ่งทราบว่าตนมีปัญหาเรื่องการนอนกรน ควรรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางแก้ไข หากปล่อยเอาไว้อาจเป็นบ่อเกิดของโรคอื่นตามมา เช่น ความดันโลหิตสูง หัวใจขาดเลือด อัมพาต เป็นต้น

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เรียก obstructive sleep apnea เรียกย่อว่า OSA คือ ในขณะที่หลับอยู่นั้นมีภาวะการนอนกรนเกิดขึ้นและ มีอาการหยุดหายใจร่วมด้วย จากการที่เนื้อเยื่อคอ หรือ ลิ้น ปิดทางเดินหายใจ เมื่อเกิดการปิดกั้นอากาศเข้าสู่ร่างกายนานเกินไป ทำให้สมองขาดออกซิเจน และตายในที่สุด

อาการนอนกรน

สำหรับอาการนอนกรน สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ การกรนธรรมดา และกรนแบบก่ำกึ่งระหว่างธรรมากับอันตราย โดยรายละเอียด มีดังนี้

  • อาการนอนกรนธรรมดา ( primary snoring ) ผู้ป่วยมักไม่เดือดร้อน เพราะ ไม่มีผลกระทบต่อตัวผู้ป่วยเองมากนัก แต่จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้าง โดยเฉพาะกับคู่นอน
  • อาการนอนกรนแบบก้ำกึ่งระหว่างกรนธรรมดาและกรนอันตราย ( upper airway resistance syndrome ) คือ มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วย มีอาการง่วงมากผิดปกติในเวลากลางวัน อาจเกิดอุบัติเหตุในท้องถนนได้หากขับรถ

การนอนกรนจัดว่าเป็นปัญหาของการนอนหลับ นอกจากเสียงกรนที่สร้างความรำคาญแก่คนรอบข้างแล้ว ยังทำให้เกิดความผิดปกติกับร่างกายมากมาย เช่น ร่างกายอ่อนเพลีย ความสามารถในการใช้ความคิด ความสามารถในการจดจำ มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น จะลดความเสี่ยงต่อการนอนกรน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเรียนรู้สำหรับคนที่นอนกรน โดยวิธีการลดความเสี่ยงต่อการนอนกรน มีดังนี้

วิธีหลีกเลี่ยงการนอนกรน

  • การควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในภาวะปรกติ คนอ้วนจะนอนกรน เกิดจากไขมันที่สะสมบริเวณช่องทางเดินหายใจบริเวณคอ ถูกเบียดให้เล็กลง ทำให้การหายใจต้องใช้พลังงานมากขึ้น
  • หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลักกายช่วยให้กล้ามเนื้อเกี่ยวกับช่องทางเดินหายใจแข็งแรงขึ้น
  • การจัดท่านอนให้เหมาะสม ช่วยปกป้องการหายใจ โดยการนอนตะแคงงอข้อศอก เพื่อให้มือข้างหนึ่งยันคางไว้เป็นการปิดปาก หรือการใช้หมอนหนุนหลังเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้พลิกมานอนหงาย
  • การยกศีรษะให้สูงขึ้น ในกรณีที่นอนตะแคงไม่ถนัดนัก สามารถนอนหงายและใช้หมอนเล็กๆ หนุนที่บริเวณหลังคอด้านบน ยกศีรษะให้สูงจากเตียง เพื่อป้องกันไม่ให้ลิ้นหย่อนลงไปในลำคอจนทำให้เกิดเสียงกรน
  • ให้รักษาความสะอาดในบริเวณสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะที่นอน การเกิดหอบหืดหรือภูมิแพ้เป็นสาเหตุหนึ่งของการกรน
  • หมั่นรักษาความสะอาดของช่องจมูก พยายามอย่าให้มีขี้มูกมากเกินไป เพราะอาจจะไปปิดกั่นการหายใจ
  • ปรับระดับความชื้นของห้องนอนให้เหมาะสม ห้องนอนที่มีความชื้นต่ำมาก อากาศภายในห้องจะแห้ง ทำให้เยื่อบุต่างๆในระบบทางเดินหายใจแห้งตามไปด้วย ภาวะสภาพแวดล้อมนี้อาจเกิดการบวมของทางเดินหายใจ จนทำให้เกิดการนอนกรน

การรักษาการนอนกรน

การรักษาอาการนอนกรนนั้นมี 2 ทางเลือกหลักๆ คือ การรักษาโดยไม่ใช้วิธีผ่าตัด และ การรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด ซึ่งผู้ป่วยสามารถเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับอาการของโรคได้ โดยรายละเอียดการรักษา มีดังนี้

  • การรักษาการนอนกรนโดยวิธีไม่ผ่าตัด คือ การลดน้ำหนักตัว ออกกำลังกาย และ ปรับวิธีการนอนที่เหมาะสม
  • การรักษาการนอนกรนด้วยวิธีผ่าตัด  การผ่าตัดทำให้ขนาดของทางเดินหายใจกว้างขึ้น ทำให้อาการนอนกรน หรือ ภาวะการหยุดหายใจขณะหลับ หายไป การผ่าตัดขึ้นอยู่กับตำแหน่งของสาเหตุการนอนกรน หลังจากผ่าตัดแล้วผุ้ป่วยมีโอกาสกลับมานอนกรนได้อีก ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ลักษณะการนอน การออกกำลังกาย และ น้ำหนักตัว

การกรน ภาษาอังกฤษ เรียก Snoring คือ ภาวะกล้ามเนื้อคอคลายตัวขณะหลับ ส่งผลให้ช่องคอแคบ เมื่อหายใจขณะหลับนอนจึงทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือน เป็น เสียงนอนกรน ความอันตรายของการนอนกรน คือ ภาวะการหยุดหยาใจ หรือ ไหลตาย สาเหตุของการนอนกรนคืออะไร รักษาการนอนกรนได้อย่างไร จากสถิติพบว่าเพศชายนอนกรนมากกว่าเพศหญิง

คราบหินปูน ความผิดปรกติในช่องปากเกิดจากน้ำลาย เศษอาหารและแบคทีเรีย เกาะติดกับฟัน หินปูนทำให้เหงือกอักเสบ ปากเหม็น ความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ รักษาด้วยการขูดหินปูนคราบหินปูน โรคในช่องปาก โรคไม่ติดต่อ โรคเกี่ยวกับฟัน

คราบหินปูน ( Dental plaque ) คือ คราบสีขาวเกาะที่ฟัน เมื่อเกิดการเกาะตัวมากขึ้นจะทำให้คราบสีขาวนั้นมีขนาดใหญ่และแข็งมากขึ้น หากไม่กำจัดออกจะทำให้เชื้อแบคทีเรีย สร้างกรด เพื่อทำลายฟัน ซึ่งไม่สามารถกำจัดด้วยการแปรงฟันได้

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดคราบหินปูน

สำหรับปัจจัยของการเกิดคราบหินปูนนั้น มีปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดคราบหินปูน มีดังนี้

  • การสูบบุหรี่เป็นเวลานานๆ
  • ลักษณะของฟัน ที่สบกันไม่ดี
  • พฤติกรรมการชอบนอนกัดฟัน
  • ชอบทานอาหารที่มีรสหวาน
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนร่างกาย เช่น วัยรุ่น ตั้งครรภ์ วัยทอง เป็นต้น
  • ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน
  • เกิดจากการใช้ยาบางประเภท เช่น ยาลดความดันโลหิต ยากันชัก เป็นต้น
  • อาการปากแห้ง

สาเหตุของการเกิดคราบหินปูน

ที่ผิวฟันของเรานั้นมีส่วนที่หุ้มฟันอยู่ ผิวฟันจะเรียบและมัน เมื่อผิวฟันถูกน้ำลายจะทำให้เกิดสารไกลโคโปรตีนจากน้ำลาย ที่มีน้ำตาล และโปรตีน หลังจากทำความสะอาดฟันแล้ว สารเหล่านี้จะเจือจางลง และเกิดสารบางเหลืออยู่ทำให้เกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียมาเกาะที่ฟัน ซึ่งจะพบมากที่ขอบเหงือก และ หลุมร่องฟัน ซึ่งการเกาะของเชื้อแบคทีเรีย จะทำให้เกิดคราบหินปูน เป็นแคลเซี่ยม เกาะติดแน่น การกำจัดคราบหินปูนนั้นต้องให้ทันตแพทย์ขูดออก

อันตรายของคราบหินปูน

คราบหินปูน เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งการเกิดคราบหินปูนทำให้เกิดโรคได้ ดังนี้

  • ทำให้เกิดฟันผุ เมื่อเชื่อจุลินทรีย์ปล่อยกรดออกมา กรดนี้จะกัดกร่อนผิวเคลือบฟัน ทำให้เกิดเป็นร่องหากทิ้งไว้นานฟันจะผุได้
  • ทำให้เกิดเหงือกอักเสบ เมื่อมีเชื้อเชื้อจุลินทรีย์อยู่ในปาก เชื้อนี้จะปล่อยสารพิษออกปนกับน้ำลาย ทำให้เกิดเหงืออักเสบได้
  • ทำให้เกิดโรคปริทนต์ คราบหินปูนจะใช้เวลานานแค่ไหนที่จะทำลายฟัน
  • ทำให้เกิดโรคหัวใจ เนื่องจากเหงือกอักเสบจากคราบหินปูน ทำให้เกิดการติดเชื้อที่หลอดเลือด ทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตัน เกิดภาวะหลอดเลือดตีบ
  • ทำให้เกิดเลือดออกตามไรฟัน ซึ่งอันตรายของเลือดออกตามไรฟัน คือ การติดเชื้อในกระแสเลือด
  • ทำให้เหงือกบวม
  • ทำให้ฟันเหลือง เนื่องจากแคลเซียมและจุลินทรีย์เกาะเคลือบผิวฟัน เกิดเป็นสีเหลือง
  • ทำให้เกิดกลิ่นปาก เนื่องจากคราบหินปูน มีเชื้อแบคทีเรียเกาะที่ฟัน ทำให้เกิดกลิ่น
  • ทำให้เหงือกร่น เนื่องจากหากหินปูนเกาะตัวและมีขนาดใหญ่ขึ้น ดันให้เหงือกร่น
  • ทำให้ฟันโยกและฟันห่าง เมื่อหินปูนดันเหงือกลงมาก ๆ ทำให้เหงือกยึดฟันได้น้อย เวลาเคี้ยวอาหาร จะทำให้เกิดความเสี่ยงให้ฟันโยก และถ้าหินปูนที่ใหญ่ขึ้นจะดันให้ฟันห่างกัน

ดังนั้น หากแปรงฟันทุกวัน วันละสองครั้ง ร่วมกับการใช้ไหมขัดฟัน จะช่วยลดการเกิดคราบหินปูนได้

การรักษาคราบหินปูน

สำหรับการรักษาคราบหินปูน สามารถทำได้โดยการพบทันตแพทย์ เพื่อทำการขูดคราบหินปูนออก เป็นการรักษาที่ง่าย  ใช้เวลาไม่นาน และ ไม่ทำให้เกิดการเจ็บปวด วิธีขจัดคราบหินปูนในช่องปาก นั้นสามารถปฏิบัติได้ ดังนี้

  1. ลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดคราบหินปูน เช่น การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่มีรสหวาน การดื่มสุรา
  2. แปรงฟันทุกวัน วันละ 2 ครั้ง และควรดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ แปรงสีฟันอย่างถูกต้องและใช้ไหมขัดฟันหลังแปรงฟัน
  3. ขัดฟันด้วยเปลือกหมากสด คนสมัยก่อนใช้วิธีนี้ในการป้องกันการเกิดคราบหินปูน
  4. การพบทันตแพทย์ เพื่อทำลายคราบหินปูนออก

การป้องกันการเกิดคราบหินปูน

การเกิดคราบหินปูนนั้น เป็นอันตรายต่อสุภาพและ ทำให้เกิดผลเสียต่อบุคลิกภาพพอสมควร การป้องกันการเกิดคราบหินปูน ช่วยลดการเกิดคราบหินปูน ควรปฏิบัติ ดังนี้

  • ให้แปรงฟันทุกวัน โดยอย่างน้อยต้องแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง
  • การเลือกแปรงสีฟัน ให้เลือกแปรงที่ขนแปรงนุ่ม ปรายของแปรงมนไม่แหลม
  • การแปรงฟันให้เน้นแปรงที่รอยต่อระหว่างเหงือกและฟัน
  • การเลือกใช้ยาสีฟันให้เลือกใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์
  • ให้ใช้ไหมขัดฟัน ในการทำความสะอาดฟันอย่างน้อยวันละหนึ่งครั้ง
  • หมั่นตรวจสุขภาพฟันประจำปี
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร ที่มีรสหวาน อย่างขนมหวาน หากต้องการรับประทานอาหารที่มีรสหวานให้เลือกรับประทานผลไม้แทน

สำหรับคราบหินปูน หลายๆคนมองข้ามการกำจัดคราบหินปูน เนื่องจากไม่ทำให้การใช้ชิวิตผิดปรกติ เพราะ แขน ขา สมอง สามารถทำงานได้อย่างปรกติ จึงทำให้คนมองข้ามการเกิดคราบหินปูน จากข้อมูลที่เรานำเสนอ เป็นสิ่งที่ดีทำให้เราได้รู้ถึงภัยของหินปูนในปาก ทำให้เกิดโรคหัวใจได้ ทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบได้ จึงไม่ควรมองข้ามปัญหาคราบหินปูนได้เลย

คราบหินปูน คือ ภาวะความผิดปรกติในช่องปาก คราบหินปูนเกิดจากน้ำลาย เศษอาหารและเชื้อแบคทีเรีย เกาะติดกับฟัน เป็นเวลานาน ทำให้เกิดเป็นหินปูนเกาะที่ฟัน ซึ่งส่งผลต่อการทำให้เกิดการอักเสบของเหงือก และมีความเสี่ยงเป้นโรคหัวใจได้ มาทำความรู้จักกับคราบหินปูนกันให้มากขึ้น


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove