โรคชิคุนกุนยา ไข้ปวดข้อ พบบ่อยในฤดูฝน สาเหตุจากยุงลาย อาการคล้ายไข้เลือดออก มีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดข้อ มีผื่นแดงตามแขนขา ตาแดง ปวดหัว อ่อนเพลีย คลื่นไส้
โรคชิคุนกุนยา เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชื่อ Chikungunya virus ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะนำโรคเหมือนโรคไข้เลือดออก เป็นโรคที่ไม่มียา หรือ วัคซีนป้องกันโรค แต่พบในผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก เมื่อเกิดโรคป่วยจะมีอาการนอนซม ปวดข้อจนเดินไม่ได้ สำหรับการแพร่ระบาดของโรคนี้ในประเทศไทย พบว่ามีรายงานการแพร่กระจายของโรคในภาคใต้ตอนล่างของไทย ช่วงปี พ.ศ. 2552 โดยมาตรการที่สำคัญในขณะนั้น กระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่เร่งให้ความรู้ประชาชนเพื่อรณรงค์กำจัดลูกน้ำยุงลาย
ความเป็นมาของโรคชิคุนกุนยา
โรคชิคุนกุนยา ไม่ใช่โรคอุบัติใหม่เป็นโรคที่รู้จักกันมานานกว่า 50 ปีแล้ว เคยเป็นโรคที่ระบาดใหญ่ในอดีตโดยเฉพาะประเทศไทย เมื่อกว่า 40 ปีมาแล้ว หลังจากนั้นก็มีการพบประปรายจนกระทั่งในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา โรคดังกล่าวได้สงบลงและไม่ได้มีการกล่าวถึงกันมากนัก ซึ่งในปี พ.ศ.2547 เกิดการระบาดของโรคชิคุนกุนยาเป็นบริเวณกว้างประเทศฝรั่งเศส บริเวณหมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดีย (La Reunion Island) และได้แพร่กระจายเข้าสู่ประเทศต่างๆ ในแอฟริกาตะวันออก และเข้าสู่ประเทศอินเดีย ลงมาสู่ศรีลังกา เข้าอินโดนีเซีย แหลมมลายู และเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณชายแดนจังหวัดภาคใต้ ในปลายเดือนกันยายน-ตุลาคม และระบาดมาจนถึงทุกวันนี้ โดยขยายวงกว้างขึ้น 15 จังหวัด ทางภาคใต้ และเริ่มพบในจังหวัดอื่นบ้างโดยเฉพาะผู้ที่เดินทางไปจังหวัดภาคใต้มา ตั้งแต่มีการระบาดของโรคเชื่อว่ามีผู้ป่วยแล้วมากกว่า 1 ล้านคนทั่วโลก
สาเหตุของการติดเชื้อไวรัส
โรคชิคุนกุนยาเกิดจากการติดเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสในตระกูล Togaviridae โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค ซึ่งสามารถพบได้ทั่วไปในช่วงฤดูฝนและบริเวณที่มีน้ำขัง ยุงลายเป็นสัตว์ที่มักชุกชุมช่วงกลางวัน สถานที่เสี่ยงคือสถานที่ที่มียุงจำนวนมาก เช่น โรงเรียน สวนสาธารนะ เป็นต้น
ระยะของโรคชิคุนกุนยา
สำหรับระยะฟักตัวของโรคโดยทั่วไปประมาณ 1-12 วัน แต่ที่พบบ่อยประมาณ 2-3 วัน จากนั้นจะเข้าสู่ระยะติดต่อดรคเป็นช่วงระยะเวลาที่ผู้ป่วยไข้สูง ประมาณวันที่ 2 – 4 เนื่องจากเป็นระยะที่มีเชื้อไวรัสชิคุนกุนยาอยู่ในกระแสเลือดมากที่สุด
อาการของโรคชิกุนย่า
ผู้ป่วยโรคชิคุณกุนย่า จะมีไข้สูงอย่างกระทันหัน คันตามร่างกาย ตาแดง ไม่มีแรง ปวดตามข้อกระดูก บางรายอาจมีอาการข้ออักเสบร่วม ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเริ่มมีอาการปวดข้อ ภายใน 10 วัน หลังจากได้รับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย จะเกิดผื่นบริเวณลำตัวและแขนขา แต่ไม่มีอาการคัน ผื่นนี้จะหายได้เองภายใน 10 วัน และพบอาการปวดกล้ามเนื้อ เมื่อยล้า มีไข้ และต่อมนํ้าเหลืองโต แต่ไม่พบว่ามีอาการชาหรือเจ็บบริเวณฝ่ามือหรือเจ็บฝ่าเท้า ร่วมด้วย สามารถสรุปลักษณะอาการของโรคชิคุนกุนยา ได้ดังนี้
- มีไข้สูงเฉียบพลัน หลังจากนั้น 2 – 3 วัน ไข้จะเริ่มลดลง
- ปวดตามข้อกระดูกและปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- ผื่นแดงขึ้นตามแขนและขา
- ตาแดง
- เบื่ออาหาร
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ปวดศีรษะ
- อ่อนเพลีย
- ท้องเสีย
การรักษาโรคชิกุนย่า
สำหรับแนวทางการรักษาโรคชิคุนกุนยาในปัจจุบันยังไม่มียารักษาไวรัสชิกุนคุนยา รวมถึงยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคชิคุนกุนยา ซึ่งแนวทางการรักษาโรค คือ ประคับประครองตามอาการของโรค เช่น การรับประทานยาลดไข้ยาแก้ปวด จากนั้นพักผ่อนให้ร่างกายได้พักฟื้นรักษาตนเอง ซึ่งแนวทางการปฏิบัติตัวเมื่อมีอาการป่วยโรคชิคุนกุนยา คือ ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย พักผ่อนให้เต็มที่และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
การป้องกันโรคชิกุนย่า
เนื่องจากโรคชิกุนยา ไม่มียารักษาโรค หรือวัคซีนป้องกันโรค แนวทางการป้องกันการเกิดโรคจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งแนวทางการป้องกันโรคชิคุนกุนยา มีแนวทางดังนี้
- ป้องกันไม่ให้ถูกยุงลายกัด
- สวมใส่เสื้อผ้าที่ป้องกันไม่ให้ยุงกัด ติดมุ้งลวดในบ้าน หรือทายากันยุงขณะทำงานและออกนอกบ้าน
- ยาทากันยุงชนิดที่มีส่วนผสมของไพรีธรอยด์ช่วยป้องกันได้พอสมควร
- กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง โดยเฉพาะแหล่งน้ำขัง เริ่มจากในบ้านก่อน ไม่ว่าจะเป็นแจกันดอกไม้ที่ใส่น้ำไว้ ขาตู้ใส่น้ำกันมด ตุ่มใส่น้ำไม่ปิดฝา จากนั้นขยายอกบริเวณรอบบ้าน เช่น ขวดพลาสติก แก้วพลาสติกที่มีน้ำขัง ยางรถยนต์เก่าและแอ่งน้ำตามธรรมชาติ ฯลฯ
- ร่วมมือช่วยกันในชุมชนดูแลไม่ให้เกิดน้ำขังขึ้น จะเห็นได้ว่ามาตราการป้องกันยุงลาย นอกจากจะป้องกันไข้เลือดออกแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคชิคุนกุนยาได้อีกด้วย
โรคชิคุนกุนยา โรคไข้ปวดข้อ พบบ่อยในฤดูฝน สาเหตุจากยุงลาย ลักษณะอาการคล้ายไข้เลือดออก มีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดข้อและกล้ามเนื้อ มีผื่นแดงตามแขนขา ตาแดง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ท้องเสีย