เส้นเลือดสมองแตก ภาวะสมองขาดเลือดและออกซิเจน ทำให้สมองถูกทำลาย สูญเสียการควบคุมร่างกาย เป็นภาวะอันตราย ต้องรับการรักษาจากแพทย์อย่างใกล้ชิด คนสูบบุหรี่เสี่ยงหลอดเลือดสมองแตก เส้นเลือดสมองแตก โรคสมอง อัมพฤษ์

เส้นเลือดสมองแตก จัดเป็นโรคอันตราย ต้องนำผุ็ป่วยส่งโรงพยาบาลให้ทัน โรคนี้คนไทยเป็นเยอะและเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆเลยทีเดียวพบมากในคนอายุ 50 ปีขึ้นไป โรคนี้มักเกิดจากความเสื่อมของหลอดเลือดที่สมองจากการเสื่อมตามอายุ ผู้ป่วยที่เส้นเลือดสมองแตกอาจกลายเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต กลายเป็นผุ้ป่วยติดเตียงได้ การรักษานอกจากต้องรักษาโรคทางกาย โรคทางใจเป็นสิ่งที่จะควบคู่กันไปกับคนเส้นเลือดสมองแตก

6 สัญญาณเตือนสำหรับโรคเส้นเลือดสมองแตก

  • ความเครียด ความเครียดทำให้ระบบการทำงานของร่างกายขาดความสมดุล หากมีอาการเหนื่อยโดยไม่มีสาเหตุ ควรพบแพทย์ทันที เนื่องจากนี้เป็นสัญญาณของเส้นโลหิตในสมองแตก
  • มีปัญหาของตาข้างใดข้างหนึ่งมองไม่เห็น สมองแต่ละซีกทำงานในการควบคุมการทำงานของร่างกาย เมื่อสมองได้รับการกระทบกระเทือนจากเส้นเลือดในสมองแตก จะทำให้เกิดปัญหาการมองไม่เห็น
  • อ่อนแรง โดยมีอาการแขนขาอ่อนแรงการทำงานของสมองผิดปกติทำให้แขนหรือขาด้านใดด้านหนึ่งชา ถ้ารู้สึกว่าแขนขาชานั้นอาจจะเป็นเรื่องปกติหากหายเองภายใน 2-3 นาที แต่หากไม่หายต้องพบแพทย์ด่วน
  • มีอาการเวียนหัวและพูดติดขัด เรื่องการพูดนั่นเป็นสัญญาณว่าสมองไม่สามารถจะตอบสนองต่อการพูดและเส้นประสาทในการรับผิดชอบในการพูดได้ควรปรึกษาแพทย์ทันที
  • มีความสับสนด้านความคิด เนื่องจากสมองอาจขาดออกซิเจน ทำให้ไม่สามารถจดจำได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่สามารถจะพูดให้คนอื่นเข้าใจได้ อาจจะมีเส้นเลือดในสมองที่แตกอยู่
  • ปวดหัวอย่างรุนแรง คนที่ไม่เคยมีประวัติเป็นไมเกรนมาก่อน อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า โรคเส้นเลือดในสมองอุดตัน ควรเช็คกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที

สาเหตุของเส้นเลือดสมองแตก

ภาวะเส้นเลือดในสมองแตก หรือ ตีบตัน นั้นเป็นสาเหตุจากโรคหลอดเลือดในสมอง ร้อยละ 80 ของผู้ป่วยเส้นเลือดสมองแตกเกิดจากลิ่มเลือดอุดตันระบบไหลเวียนของโลหิต หรือ ไขมันอุดตันหลอดเลือดในสมอง ทำให้หลอดเลือดตีบ และ ประสิทธิภาพในการไหลเวียนเลือดลดลง ส่งผลให้เลือดและออกซิเจนไม่สามารถเข้าไปเลี้ยงสมองได้ และ อีกร้อยละ 20 ของผู้ป่วยเส้นเลือดในสมองแตก เกิดจาก หลอดเลือดสมองแตก หรือ ฉีกขาด เกิดจาก หลอดเลือดที่สมองเปราะบาง เมื่อมีภาวะความดันโลหิตสูงอาจทำให้เส้นเลือดสมองแตกได้ เส้นเลือดสมองหากแตกถือว่าอันตรายมาก ส่งผลให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว

ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดเส้นเลือดสมองแตก

สามารถสรุปปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองแตก หรือ ตีบตัน นั้น ได้ดังนี้

  • ภาวะความดันโลหิตสูง ความดันดลหิตที่สูงทำให้เกิดแรงดันที่หลอดเลือดหากหลอดเลือดเปราะบางก้สามารถแตกได้ง่าย
  • ภาวะไขมันในเลือดสูง การมีไขมันในเส้นเลือดสูงทำให้เกิดไขมันสะสมและเกาะตัวที่เส้นเลือดทำให้เกิดความดันเลือดสูงขึ้น
  • มีภาวะโรคเบาหวาน น้ำตาลในเลือดสูงทำให้เกิดหลอดเลือดแข็งทั่วร่างกาย
  • การสูบบุหรี่และการใช้ยาเสพติด
  • การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก
  • มีประวัติบุคคลในครอบครัวป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองแตก
  • มีความเสี่ยงที่ทำให้ลิ่มเลือดที่จะไปอุดตันหลอดเลือดสมอง
  • การขาดการออกกำลังกาย
  • การเสื่อมของหลอดเลือดตามอายุ

อาการของโรคเส้นเลือดสมองแตก

สำหรับอาการของโรคนี้สามารแบ่งอาการของโรค ได้ 2 ระยะ คือ ระยะเส้นเลือดสมองเริ่มตีบตัน และ ระยะเส้นเลือดสมองแตกไปแล้ว

  • ระยะเส้นเลือดสมองเริ่มตีบตัน ระบบไหลเวียนเลือดสู่สมองเริ่มติดขัด ทำให้สมองได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ทำให้มีอาการตาพร่ามัว ชาตามร่างกาย อาจมีอาการหมดสติได้
  • ระยะเส้นเลือดในสมองแตก เป็นระยะที่เกิดอาการแล้ว เป็นระยะที่มีความอันตรายมาก เนื่องจากมีเลือดออกในสมอง ต้องได้รับการรักษาโดยการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน เป็นระยะที่เสี่ยงต่อการเป็นอัมพาตได้

ลักษณะความรุนแรงของอาการเส้นเลือดในสมองแตกนั้นแตกต่างกันออกไปตามความแข็งแรงของร่างกายแต่ละคน และความเสียหายของสมองจากการขาดเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง อาการที่เป็นสัญญาณของเส้นเลือดในสมองแตก ดังนี้

  • มีอาการชาตามตัว แขนขาอ่อนแรง ขยับตัวไม่ได้ อัมพาตครึ่งซีก
  • ใบหน้าบิดเบี้ยว ควบคุมกล้ามเนื้อบนใบหน้าไม่ได้ สูญเสียการควบคุมใบหน้า เช่น มุมปากตก น้ำลายไหล กลืนลำบาก พูดลำบาก พูดติดขัด สื่อสารไม่ได้ มึนงง
  • ทรงตัวไม่ได้ เสียสมดุลการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น เดินเซ เดินลำบาก ขยับแขนขาลำบาก
  • มีปัญหาด้านสายตา เช่น สายตาพร่ามัว มองไม่เห็น มองเห็นภาพซ้อน ตาบอดข้างเดียว
  • มีอาการเวียหัวอย่างรุนแรง คลื่นไส้อาเจียนร่วม

เมื่อมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นตามลักษณะที่กล่าวมาข้างต้นให้รีบพบแพทย์ทันที

การวินิจฉัยโรคเส้นเลือดสมองแตก

การวินิตฉัยการเกิดโรคเส้นเลือดในสมองแตกนั้น แพทย์สามารถทำการวินิจฉัยโรคได้จาก ลักษณะทางกายภาพที่พบเห็น และ ต้องทำการตรวจร่างกาย เพื่อให้ทราบความชั้ดเจนของโรค โดย

  • ตรวจความดันโลหิต
  • ตรวจเลือด
  • ตรวจเอกซเรย์หลอดเลือดสมอง (Angiogram) แพทย์จะฉีดสารย้อมสีเข้าสู่เส้นเลือด จากนั้นจึงฉายภาพเอกซเรย์ส่วนศีรษะเพื่อหาจุดที่เส้นเลือดในสมองแตกหรืออุดตัน
  • ตรวจสมองด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) ใช้รังสีจากเครื่อง CT Scan ฉายไปยังบริเวณศีรษะ แล้วสร้างภาพออกมาด้วยคอมพิวเตอร์ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยลักษณะและตำแหน่งที่เส้นเลือดในสมองแตกหรืออุดตัน
  • ตรวจสมองด้วยเครื่องจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI Scan) การตรวจคล้ายกับ CT Scan แต่เครื่องจะสร้างภาพจากสนามแม่เหล็กที่ส่งคลื่นไปรอบ ๆ ตัวผู้ป่วยในขณะตรวจ และภาพที่ออกมาจะมีรายละเอียดที่ชัดเจนกว่า CT Scan
  • ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram: EKG) ด้วยการติดขั้วไฟฟ้าบริเวณหน้าอก แพทย์จะตรวจหาความผิดปกติผ่านทางจอภาพที่แสดงจังหวะการเต้นของหัวใจ
  • ตรวจหลอดเลือดใหญ่ที่คอ (Carotid Ultrasound) เป็นการตรวจการไหลเวียนของเลือดในเส้นเลือดบริเวณลำคอที่ทำหน้าที่ส่งเลือดไปเลี้ยงสมอง
  • ตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง (Echocardiogram)

การรักษาโรคเส้นเลือดสมองแตก

สำหรับการรักษาโรคเส้นเลือดในสมองแตกนั้น มีแนวทางการรักษาที่แตกต่างกัน ตามระยะของโรค โดยรายละเอียดของการรักษาโรคมี ดังนี้

  • การรักษาโรคหลอดเลือดในสมองแตกในระยะที่หลอดเลือดตีบตัน รักษาด้วยการให้ยาละลายลิ่มเลือดเพื่อทำให้เลือดไหลเวียนได้อย่างปกติ
  • การรักษาโรคหลอดเลือดในสมองในระยะหลอดเลือดสมองแตกไปแล้ว ต้องทำการการควบคุมเลือดที่ออกในสมอง รักษาระดับความดันเลือด และต้องผ่าตัดเพื่อป้องกันความเสียหายของเนื้อสมอง

เส้นเลือดสมองถูกลิ่มเลือดอุดตันทำให้ระบบไหลเวียนเลือดสู่สมองไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อออกซิเจนในเลือดไม่เพียงพอ การรักษาจะได้ผลดีกับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองต้องรีบพบแพทย์ภายใน 4 ชั่วโมงนับจากมีอาการอย่างไรก็ตาม หากเป็นกรณีฉุกเฉินที่ผู้ป่วยเกิดเส้นเลือดอุดตันในสมอง เป้าหมายของการรักษา คือ ควบคุมปริมาณเลือดที่ออกด้วยการรักษาระดับความดันโลหิต ในกรณีที่เลือดออกมาก แพทย์อาจพิจารณาผ่าตัดเพื่อป้องกันความเสียหายต่อสมองด้วย

การป้องกันการเกิดโรคเส้นเลือดสมองแตก

เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดในสมองแตกมีหลายประการ การป้องกันการเกิดโรคทำได้ง่ายกว่าการรักษาเนื่องจากหากเกิดขึ้นแล้วการจะกลับมาใช้ชีวิตอย่างปรกติทำได้ยาก แนวทางการป้องกันการเกิดโรค มีดังนี้

  • ตรวจวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทราบถึงระดับความดันเลือดของตนเอง
  • ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด ให้อยู่ในระดับสมดุลย์
  • ตรวจวัดระดับไขมันในเส้นเลือดให้อยู่ในระดับปรกติ
  • ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปรกติ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • ไม่สูบบุหรี่
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็ม หวานและมัน

เส้นเลือดสมองแตก ภาวะสมองขาดเลือด และ ออกซิเจน จากหลอดเลือดสมอง ตีบ อุดตัน หรือ แตก สมองถูกทำลาย สูญเสียการควบคุมร่างกาย โรคอันตราย การป้องกันโรคง่ายกว่าการรักษา

ชอบมีเซ็กซ์กับเด็ก เรียกว่า พีโดฟีเลีย กามวิตถาร พาราฟีเลีย ความผิดปกติทางจิต ส่วนใหญ่จะมีความต้องการทางเพศสูงแต่ขาดความเชื่อมั่นในตนเองจึงหันไประบายกับเด็ก พีโลฟีเลีย โลลิค่อน ชอบมีเซ็กซ์กับเด็ก กามวิตถาร

พฤติกรรมชอบมีเซ็กซ์กับเด็ก เรียกว่า “ พีโดฟีเลีย ” กามวิตถาร ( พาราฟีเลีย ) อาการผิดปกติทางจิต เรียกว่า ” พีโดริซึม ” ข่มขืนเด็ก ส่วนใหญ่จะมีความต้องการทางเพศสูงแต่ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ไม่กล้ามีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงวัยเดียวกัน จึงหันไประบายกับเด็กอาการของโรคนี้เป็นอย่างไร การรักษาโรคต้องทำอย่างไร หลายที่เรียก โลลิคอน เกิดจากการถูกกระทบกระเทือนทางจิตใจ คนเหล่านี้จะไม่มีอารมณ์ทางเพศหากไม่ได้ร่วมรักกับเด็ก

ในสังคมไทยหรือสังคมไหนๆ ยอมรับไม่ได้กับพฤติกรรมแบบนี้ ข่าว ผอ.โรงเรียน มีความรักกับเด็ก 14 ปี ในทางกฏหมาย ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ ถือเป็นความผิด นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ผอ.สถาบันกัลยาราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า พฤติกรรมของคนที่ชอบมีเซ็กซ์กับเด็ก เรียกว่า “พีโดฟีเลีย” เป็น กามวิตถารชนิดหนึ่ง

ความหย่อนสมรรภาพทางเพศ “ เซ็กชวล ดิสออเดอร์ ” เช่น หลั่งเร็ว นกเขาไม่ขัน ไม่มีอารมณ์ทางเพศ เป็นปัญหาของคนปกติ แต่สำหรับคนกลุ่ม กามวิตถาร จะมีพฤติกรรมทางเพศผิดปกติมากกว่านั้น เช่น ขโมยกางเกงในสตรี การร่วมเพศกับสัตว์ หรือ ร่วมเพศกับศพ รวมถึงปราถนาการร่วมเพศกับเด็ก ในสังคมไทยมีคนประเภทนี้ มีอยู่จริง แต่ไม่รู้ตัวว่าเป็นคนมีสภาพจิตผิดปรกติ ไม่มาบำบัด

พีโดฟีเลีย จัดเป็นโรคชนิกหนึ่ง แต่ไม่ใช่โรคจิต เพราะ โรคจิตนั้นจะมีปัญหาทางสมองจากสารเคมีในสมองผิดปกติ จนเกิดอาการหูแว่ว ประสาทหลอน เป็นต้น แต่ พีโดฟีเลีย มีควาตั้งใจในการทำให้เกิดพฤติกรรมการร่วมรักกับเด็ก โดยไม่มีอาการประสาทหลอน หรือ หูแว่ว ในประเทศญี่ปุ่น เรียกพฤติกรรมนี้ ว่า โลลิคอน ซึ่งมาจากคำว่า โลลิตาคอมเพล็กซ์ ( Lolita complex ) เป็นหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายสูงอายุ มีความรู้สึกเสน่หากับเด็กผู้หญิงอายุ 12 ปี

โลลิคอน (lolicon ) มาจากคำว่า โลลิตาคอมเพล็กซ์ ( Lolita complex ) มาจากหนังสือชื่อ โลลิตา ของ วลาดิมีร์ นาโบคอฟ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายอายุมาก แต่มีพฤติกรรมเสน่หากับเด็กผู้หญิงอายุเพียง 12 ปี ประเทศญี่ปุ่น นิยมใช้คำว่า โลลิคอน แทนพฤติกรรม ของผู้สูงอายุที่มีความรู้สึกเสน่หากับเด็ก

โลลิคอน มักถูกกล่าวถึง พวกชอบล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก ในหลายประเทศมีกฏหมายห้ามล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก และ มีบทลงดทษที่สูง พฤติกรรมโลลิคอน เป็นความผิดร้ายแรงอ่อนด้อยทางความคิด เพราะ ฝ่ายโลลิคอนเองมีเสรีภาพที่จะแสดงออกที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย

อาการพิโดฟีเลีย

พิโดฟีเลีย ( Pedophilia ) จัดว่าเป็นอาการผิดปกติทางจิต โดยผู้ป่วยมักไม่รู้ตัว จึงไม่มีการบำบัดอาการ เมื่อมีอาการรุนแรงขึ้น ถ้ามีเงื่อนไขหรือปัจจัยต่างๆ เอื้อให้ลงมือกระทำการ กรณีข่มขืนเด็กก็จะเกิดขึ้นได้ทันที ส่วนมากจะเป็นผู้ชาย และบางคนอาจมีภรรยาและลูกๆแล้ว ผู้ที่มีอาการพิโดฟีเลีย ที่มีโอกาสก่อเหตุร้าย มีการจัดกลุ่มการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก ไว้ 4 กลุ่ม คือ

  • พวกบุคลิกภาพที่ไม่สมวัย ไม่กล้าคบกับวัยเดียวกัน จึงพุ่งความสนใจไปที่เด็ก
  • พวกที่มีการวางเงื่อนไข ซึ่งอาจเคยใกล้ชิดและเคยปฏิสัมพันธ์กันมาก่อน กับเหยื่อ
  • พวกที่มีความเชื่อผิดๆ เช่น การมีเพศสัมพันธ์กับเด็กทำให้อายุยืน
  • พวกวิกลจริต

อาการผิดปกติทางจิต ” พีโดฟีเลีย ” เรียกว่า ” พีโดริซึม ” ที่ข่มขืนเด็ก ส่วนใหญ่จะมีความต้องการทางเพศสูงแต่ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ไม่กล้ามีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงวัยเดียวกัน จึงหันไประบายกับเด็ก โรคพิโดฟีเลีย เป็นโรคที่น่ากลัวในปัจจุบัน แต่ก็เป็นอันตรายเฉพาะกับเด็กๆ

การรักษาโรคพีโดฟีเลีย

คนที่รู้ตัวว่าชอบมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก หรือ พบว่าคนใกล้ชิดมีพฤติกรรมเช่นนี้ ควรไปพบและปรึกษาจิตแพทย์ ซึ่งแพทย์ต้องปรับทัศนคติ หาสาหตุของอาการทางจิตเหล่านี้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ต้องใช้เวลาในการเยียวยา

การป้องกันให้ลูกปลอดภัยกับผู้ป่วยจิตเภท

  • ต้องใกล้ชิดกับบุตรหลาน อย่าปล่อยให้อยู่ไกลสายตา
  • ต้องหมั่นสังเกตคนที่เข้ามาใกล้ชิดกับบุตรหลาน ควรฝากบุตรหลานกับคนที่ไว้ใจได้ คนที่พยายามเข้าใกล้เด็กเกินไป เช่น พยายามกอดหอม ถูกเนื้อต้องตัวเด็ก เป็นต้น
  • กลุ่มเด็กในวัยประถมหรือมัธยมต้น ต้องรับรู้ถึงปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก ต้องสอนให้อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า เด็กอาจตกเป็นเหยื่อได้

ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove