ลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง โรคยูซี ( Ulcerative colitis ) เยื่อบุผิวลำไส้ใหญ่อักเสบ เกิดแผลที่ผนังทางเดินอาหาร อุจาระมีเลือด มีไข้สูง อ่อนเพลีย ผิวซีด น้ำหนักลดโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ โรคติดเชื้อ โรคในช่องท้อง โรคไม่ติดต่อ

ลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง หรือ โรคยูซี มาจากภาษาอังกฤษ ว่า Ulcerative colitis เป็น โรคระบบทางเดินอาหาร เกิดขึ้นที่ลำไส้ใหญ่ของมนุษย์ เป็น การอักเสบของลำไส้ใหญ่ แบบต่อเนื่อง ระยะยาว รักษาไม่ขายขาดสักที วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง กันว่า สาเหตุของการเกิดโรคเกิดจากอะไร อาการของผู้ป่วยเป็นอย่างไร การวินิจฉัยและการรักษาทำอย่างไร รวมถึงการดูแลผู้ป่วยโรคนี้ ต้องทำอย่างไร

โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ นี้ ปัจจุบันยังไม่ทราบ สาเหตุการเกิดโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ เป็นแผลเรื้อรังอย่างชัดเจนนัก โรคนี้จะมีอาการสำคัญสังเกตุได้จากอุจจาระมีความผิดปกติ หากไม่รักษาอาจ ส่งผลต่อการเกิดโรคมะเร็งได้ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบแบบเรื้อรัง นี้จะพบมากในคนตะวันตกมากกว่าคนเอเชีย เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ รวมถึงประเทศแถบอากาศหนาวอย่าง สวีเดน นอร์เวย เป็นต้น สำหรับประเทศไทยนั้นพบน้อย ซึ่งจะพบมากในคนในแถบเมืองใหญ่

สาเหตุของการเกิดโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง

สำหรับ สาเหตุของการเกิดโรค นี้แบบเรื้อรังนั้น ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุได้ชัดเจนนัก แต่เรื่องของการถ่ายทอดทางพันธุกรรมนั้น มีผลต่อสาเหตุของโรค รวมถึงปัจจัยจากสิ่งแวดล้อม รวมถึงพฤติกรรมของผู้ป่วยเองมีผลต่อการเกิดโรคมาก เป็นที่ยอมรับว่าน่าเกิดจากผู้ป่วยบางคนมีพันธุกรรมบางอย่างที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคเมื่อร่วมกับปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมบางชนิด แต่สามารถสรุปสาเหตุของการเกิดโรคได้พอประมาณ ดังนี้

  • การถ่ายทอดทางพันธุกรรม พบว่ามีในผู้ป่วยโรคนี้ ร้อยละ 10 มีบิดาหรือมารดา เป็นโรคนี้ด้วย และร้อยละ 36 ของผู้ป่วยมีพี่น้องพ่อแม่เดียวกันเป็นโรคนี้เช่นกัน จากข้อมูลดังกล่าว สามารถระบุว่า พันธุกรรมมีผลต่อสาเหตุของการเกิดโรค
  • ระบบลำไส้ผิดปรกติ โดยไม่ตอบสนองต่อภูมิต้านทานโรค รวมถึงไม่มีการต่อต้านเชื้อโรค ที่เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งลักษณะของการผิดปรกติต่อระบบภูมิต้านทานโรคนั้น เม็ดเลือดขาวมีส่วนต่อความผิดปรกตินี้ เนื่องจากระบบภูมิต้านทานโรคมาจากเมฺดเลือดขาว
  • การติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้น ทำให้ลำไส้ใหญ่อักเสบ และรักษาไม่ขายขาด ทำให้เกิดแผลเรื้อรัง ส่วนใหญ่โรคลำไส้ใหญ่อักเสบจะสันนิษฐานว่ามาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หากทราบสาเหตุชัดเจนสามารถใช้ ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อได้
  • การสูบบุหรี่ เราพบว่า ผู้ป่วยโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง เป็นคนสูบบุหรี่ส่วนมาก
  • กลุ่มผู้ป่วยกลุ่มที่มีประวัติการใช้ยาแก้ปวด กลุ่มเอ็นเสดส์ (NSAIDs) ซึ่งยากลุ่มนี้อาจเป็นสาเหตุของโรคได้
  • ความเครียด หรือ การถูกกระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง ทำให้เกิดโรคและเป็นสาเหตุของการกำเริบของโรค
  • เคยมีประวัติการผ่าตัดโรคไส้ติ่งอักเสบ ก็อาจเป็นสาเหตุ เพราะจากสถิติของผู้เกิดโรคผู้เคยผ่าตัวไส้ติ่งมีโอกาสเป็นมากกว่าผู้ไม่เคยผ่าตัดไส้ติ่งมาก่อน

ผลข้างเคียงของผู้ป่วยโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง

สำหรับโรคนี้ไม่ใช่โรคอันตราย แต่จำเป็นต้องระวังการเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น ลำไส้ใหญ่เกิดการพองตัวและเน่า ลำไส้ใหญ่เกิดการตีบตัน และ โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ นอกจากโรคแทรกซ้อนแล้ว การปวดท้องส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันด้วย

อาการของโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง

อาการของปผู้ป่วยที่พบ คือ ปวดท้องแบบเกร็ง กดที่ท้องจะเจ็บมาก มีอาการท้องเสีย ในผู้ป่วยบางคน อุจาระมีเลือดปน มีไข้สูง เหนื่อย อ่อนเพลีย ผิวซีด เป็นโลหิตจาง และน้ำหนักตัวลด สำหรับอาการของโรคลำไส้ใหญ่อักเสบแบบเรื้อรัง นั้นมี 2 แบบ สามารถจำแนก คือ โรคCrohn’s disease และ โรคulcerative colitis รายละเอียด ดังนี้

  • โรค Crohn’s disease จะเกิดที่ระบบทางเดินอาหารได้ทุกส่วน ตั้งแต่ปากจนถึงทวารหนัก ซึ่งส่วนมากจะเกิดบริเวณลำไส้เล็กส่วนปลายและลำไส้ใหญ่ส่วนต้น ลักษณะของโรคนี้ สามารถแบ่งได้ 3 ลักษณะ คือ ผนังลำไส้อักเสบบวม เหมือนเป็นฝี ผนังลำไส้อักเสบเป็นแผลจนทะลุ และผนังลำไส้เกิดการอักเสบกระจายทั่วลำไส้ใหญ่
  • โรค Ulcerative colitis จะเกิดขึ้นที่ลำไส้ใหญ่เท่านั้น จะเกิดที่ผนังลำไส้ โดยผู้ป่วย จะมีอาการ เช่น ข้ออักเสบ ตาอักเสบ ตับอักเสบ รวมด้วย

การวินิจฉัยโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง

สำหรับการวินิจฉัยโรคนี้ สามารถ สังเกตุจากอาการผิดปรกติของอุจจาระ ได้ จากนั้นต้องทำการตรวจเพิ่มเติม เพื่อยืนยันการเกิดโรคและสาเหตุของโรค เพื่อทำการรักษาอย่างถูกต้อง รายละเอียดการตรวจวินิจฉัยโรคมีรายละเอียด ดังนี้

  • การตรวจหาสารภูมิต้านทาน ชนิด Antineutro phil cytoplasmic antibodies (ANCA)
  • การตรวจอุจจาระ เพื่อหาไข่พยาธิ และเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรค
  • การตรวจหาค่าการตกตะกอนของเลือด
  • การตรวจเลือด ดูปริมาณเม็ดเลือดแดง ปริมาณเกล็ดเลือด และสารอาหารในเลือด เพื่อประเมินความรุนแรงของโรค
  • การตรวจทางรังสี ด้วยการสวนแป้งที่ทวารหนักและเอกซเรย์ สามารถตรวจภาวะแทรกซ้อนของโรคได้
  • การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่และการตัดชิ้นเนื้อลำไส้ใหญ่ เพื่อทำการตรวจทางพยาธิวิทยา

การรักษาโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง

สำหรับ การรักษาโรค นั้น สามารถใช้ การรักษาด้วยยา ได้ ซึ่งจากการวินิจฉัยโรคจะทำให้สามารถทราบว่าต้องใช้ยารักษาอะไรบ้าง ซึ่ง การรักษานั้นเป็น การรักษาอาการอักเสบของลำไส้  ยารักษาไม่ให้อาการกำเริบ ยาช่วยบรรเทาอาการของโรค ยาบรรเทาอาการแทรกซ้อน และยารักษาโรคที่อาจจะเกิดกับอวัยวะข้างเคียง รายละเอียดดังนี้

  • การใช้ยา รักษาอาการอักเสบของลำไส้ จะเป็นยากลุ่ม ยาสเตียรอยด์ (Steroids) และยากลุ่มต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory agents) สำหรับการรักษาอื่นๆ เช่น การให้ยาปฎิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อาศัยในลำไส้ใหญ่ รวมถึงการเปลี่ยนถ่ายเม็ดเลือดขาว เป็นต้น
  • การใช้ยารักษา เพื่อควบคุมอาการอักเสบกำเริบ ซึ่งผู้ป่วยต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อาการลำไส้อักเสบกำเริบ ต้องอยู่ในการควบคุมการสั่งยาของแพทย์อย่างใกล้ชิด
  • การใช้ยาช่วยบรรเทาอาการอื่นๆ ที่เป็นผลกระทบจาก ลำไส้ใหญ่อักเสบ เช่น การรักษาอาการถ่ายเหลว อาการท้องร่วง สามารถให้น้ำเกลือแร่ทดแทนการเสียน้ำในร่างกาย แต่ถ้าการถ่ายอุจจาระมีเลือดปนในปริมาณมากต้องให้เลือดทดแทนการเสียเลือดเป็นต้น
  • การรักษาอาการจากภาวะแทรกซ้อน เช่น หากลำไส้ใหญ่แตกหรือทะลุ จะมีเลือดออกมาก ซึ่งอาจไม่สามารถควบคุมได้ ต้องได้รับการโดยด่วน

ดูแลและป้องกันโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง

สำหรับการดูแลและป้องกัน โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง นั้นผู้ป่วยต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนของโรค และ ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ การดูแลและป้องกันโรคนั้น ต้องปรับเรื่องการออกกำลังกายและอาการที่รับประทานในแต่ละวัน รวมถึงพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ

โดยผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องงดอาหาร ชนิดใดเป็นพิเศษ แต่ควรงดอาหารที่ไม่ดีต่อระบบการย่อยอาหาร หรือทำให้ลำไส้ทำงานหนัก เช่น อาหารเผ็ด อาหารเปรี้ยว และงดการกินอาหารในปริมาณมากเกินไป อาหารจำพวก อาหารดิบ อาหารปรุงสุกๆดิบๆ อาหารค้างคืน อาหารหมักดอง ก็ต้องเลิกรับประทาน

การบำบัดรักษาโรคลำไส้ใหญ่อักเสบด้วยวิธีธรรมชาติ

สำหรับ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ นั้นมีวิธีในการรักษาแบบธรรมชาติ ซึ่งเรารวมรวมให้ความรู้ เช่น การฝังเข็ม การปรับการรับประทานอาหาร การใช้สมุนไพร การทานอาหารเสริม และการนวนฝ่าเท้า ซึ่งรายละเอียดดังนี้

  • การฝังเข็มรักษา การฝังเข็มนั้นช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้ การฝังเพื่อลดอาการปวด ลดการอักเสบ ควบคุมการทำงานของลำไส้ให้เป็นปกติ เป็นลักษณะการรักษาเพื่อบรรเทาอาการของโรค
  • การปรับการรับประทานอาหาร โดยลดอาหารบางชนิด ที่ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานหนัก โดยรับประทานอาหารในปริมาณที่น้อย แต่กินบ่อย ๆ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานเบาลง โดยหลีกเลี่ยงอาหารที่มีผลเสียต่อระบบย่อยอาหาร เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว มะเขือเทศ อาหารเผ็ด กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ข้าวโพดหวาน ผักที่มีแป้งสูง เช่น ถั่ว รวมถึงงดอาหารจำพวก พาสต้า และขนมปัง
  • การใช้สมุนไพร มีสมุนไพร หลายชนิด ช่วยรักษาโรคลำไส้เล็กอักเสบได้
  • การใช้อาหารเสริม ผู้ป่วยโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง อาจขาดสารอาหารบางชนิด สามารถใช้อาหารเสริมทดแทนการขาดสารอาหารได้
  • การนวดกดจุดที่ฝ่าเท้า การนวดฝ่าเท่า ช่วยบรรเทาอาการของโรคลำไส้ เพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น

โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง โรคยูซี ( Ulcerative colitis ) เยื่อบุผิวของลำไส้ใหญ่อักเสบ ทำให้เกิดแผลที่ผนังทางเดินอาหาร อุจาระมีเลือดปน มีไข้สูง เหนื่อย อ่อนเพลีย ผิวซีด เป็นโลหิตจาง น้ำหนักตัวลด โรคระบบทางเดินอาหาร เกิดที่ลำไส้ใหญ่ รักษาไม่หายขาด สาเหตุ อาการ การรักษาทำอย่างไร ผู้ป่วยต้องทำอย่างไร

มะเร็งลำไส้เล็ก เนื้อร้ายที่ลำไส้เล็ก อาการปวดท้องหลังกินอาหาร ปวดท้องถึงหลัง เบื่ออาหาร มีเลือดออกที่ทางเดินอาหาร สีอุจจาระผิดปรกติ มีก้อนบริเวณท้องส่วนบนขวามะเร็งลำไส้เล็ก โรคระบบทางเดินอาหาร โรคมะเร็ง เนื้อร้าย

มะเร็งลำไส้เล็ก เกิดจากอะไร สาเหตุ ปัจจัยที่ทำให้เกิด โรคมะเร็งลำไส้เล็ก คืออะไร รักษาโรคมะเร็งลำไส้เล็ก อย่างไร สำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้เล็กต้องดูแลอย่างไร โรคในระบบทางเดินอาหาร ความผิดปรกติของเซลล์ในร่างกาย โรคมะเร็งที่พบได้ไมบ่อย ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งลำไส้เล็ก มีอะไรบ้าง

ลำไส้เล็ก

ทำความรู้จักกับ ลำไส้เล็ก หน้าที่ของลำไส้เล็ก นั้นคือ การย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารที่ถูกย่อยเข้ากระแสเลือด เพื่อนำสารอาหารเหล่านั้นไปใช้ประโยชนื ซึ่ง ลำไส้เล็ก นั้นมีความสำคัญต่อร่างกาย ซึ่งใน ลำไส้เล็ก นั้นบทบาทมากที่สุด ในลำไส้เล็กจะมี ติ่งที่ยื่นออกมา เราเรียกติ่งนี้ว่า วิลไล ภาษาอังกฤษ เรียก Villi ส่วนนี้ เป็นส่วนสำคัญที่ใช้เพื่อเพิ่มความสามารถในการดูดซึมสารอาหารของ ลำไส้เล็ก

โครงสร้างลำไส้เล็ก

ลำไส้เล็ก นั้นมีลักษณะเป็นท่อ เป็นกล้ามเนื้อ มีความยาวประมาณ 10 เมตร เป็นจุดที่เชื่อมต่อจากส่วนปลายของกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก นั้นจะสร้างน้ำย่อยออกมา เพื่อประโยชน์ในการย่อยอาหาร และการดูดซึมอาหารให้ได้มากที่สุด ลำไส้เล็ก(Small intestine) สามารถแบ่งได้ 3 ส่วน ประกอบด้วย ลำไส้เล็กตอนต้น เรียก Duodenum ลำไส้เล็กส่วนกลาง เรียก Jejurium  และ ลำไส้เล็กส่วนปลาย เรียก lleum โดยรายละเอียดของลำไส้เล็กส่วนต่างๆ มีรายละเอียด ดังนี้

  • ลำไส้เล็กส่วนต้น ( Duodenum ) คือส่วนที่ต่อจากกระเพาะอาหาร ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่สั่นที่สุด เมื่อเทียบกับลำไส้เล็กส่วนอื่นๆ
  • ลำไส้เล็กส่วนกลาง ( Jejunum ) ส่วนนี้จะมีความยาวประมาณ 9 ฟุต อยู่ต่อจากลำไส้เล็กส่วนต้น
  • ลำไส้เล็กส่วนปลาย ( Ileum ) เป็นส่วนของลำไส้เล็กที่อยู่ปลาย อยู่ติดกับลำไส้ใหญ่ เป็นส่วนที่มีความยาวมากที่สุด เป็นส่วนที่มีความสามารถในการดูดซึมสารอาหารมากที่สุด ของลำไส้เล็ก

โรคมะเร็งลำไส้เล็ก

สำหรับอัตราการเกิด โรคมะเร็งลำไส้เล็ก นั้นเราไม่พบว่ามีการป่วย โรคมะเร็งลำไส้เล็ก ในอัตราที่สูง โดย อัตราการเกิดมะเร็งลำไส้เล็ก ไม่ถึงร้อยละ 1 ของการเกิดมะเร็งในอวัยวะทั้งหมดของร่างกาย แต่โรคมะเร็งชนิดนี้ เราจะพบว่าผู้สูงอายุ ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป มีอัตราการเกิดที่สูงกว่าช่วงอายุที่ต่ำกว่า 50 ปี และอัตราการเกิดโรคเพศชายจะมีอัตราส่วนที่สูงกว่าเพศหญิง

มะเร็งลำไส้เล็ก คือ การเกิดความผิดปรกติของเซลล์ร่างกายบริเวณลำไส้เล็ก ลักษณะเป็นเนื้องอก ก้อนเนื้อร้าย ที่ลามมาจากอวัยวะใกล้เคียง หรือสามารถแพร่่ไปสู่อวัยวะใกล้เคียงได้ เช่น กระเพาะอาหาร ท่อน้ำดี ตับอ่อน เป็นต้น

สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้เล็ก

การเกิด โรคมะเร็งลำไส้เล็ก นั้น ในปัจจุบันเรายัง ไม่สามารถทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงของการเกิด มะเร็งลำไส้เล็ก ได้แน่ชัดนัก แต่มีการพบสารบางตัว ที่ออกมาจากน้ำย่อยจากตับอ่อนและน้ำดี เช่น กรดลิโธโคลิก(Lithocholic) เป็นต้น ปัจจัยที่ทำให้เกิดมะเร็ง มาจาก พันธุกรรม โรคเนื้องอกชนิดดีบริเวณเยื่อบุผิว เนื้องอกชนิดต่อมขนอ่อน แผลที่ลำไส้เล็ก เป็นต้น

ประเภทของมะเร็งลำไส้เล็ก

การเกิดมะเร็งลำไส้เล็ก เราพบว่ามีหลายลักษณะ ซึ่งเราสามารถแบ่งประเภทของมะเร็งลำไส้เล็กได้ 4 ประเภท มีรายละเอียด ดังนี้

  1. มะเร็งลำไส้เล็ก ชนิดต่อม เกิดต่อมที่เยื่อเมือกลำไส้เล็กส่วนต้น และต่อมนี้เกิดการพัฒนาเป็นเนื้องอก
  2. มะเร็งลำไส้เล็ก ชนิดคาซินอย ( Carcinoid ) เป็นการเกิดเนื้อร้ายจากเซลล์enterochromaffin โดยทั่วไปแล้วเนื้องอกที่เกิดขึ้น จะมีขนาดเล็กและส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นที่ลำไส้เล็กเพียงจุดเดียว แต่เมื่อเนื้องอกนี้พัฒนาตัวจนมีขนาดใหญ่ขึ้น จะสามารถลามจนเกิดเนื้อร้ายได้
  3. มะเร็งลำไส้เล็ก ชนิดกล้ามเนื้อเรียบ เป็นการเกิดชั้นของกล้ามเนื้อ ลักษณะเรียบ ที่ลำไส้เล็ก
  4. มะเร็งลำไส้เล็ก ชนิดเนื้อร้ายของต่อมน้ำเหลือง เป็นเนื้องอกชนิดร้าย เกิดจากต่อมน้ำเหลืองที่ผนังลำไส้เล็ก แต่มะเร็งชนิดนี้ มีความแตกต่างจากมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่รุกล้ำถึงลำไส้เล็ก

อาการของผู้ป่วยมะเร็งลำไส้เล็ก

อาการของมะเร็งลำไส้เล็ก นั้น ก็จะเกิด การผิดปรกติของระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเราสามารถสรุป อาการของโรคมะเร็งลำไส้เล็ก ได้ดังนี้

  1. มีอาการปวดท้องส่วนบน ปวดท้องตื้อๆ หลังรับประทานอาหาร อาการปวดสามารถลามไปปวดบริเวณหลัง
  2. มีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
  3. มีเลือดออกที่ทางเดินอาหาร แบบเรื้อรัง สังเกตุอาการจาก สีอุจจาระผิดปรกติ มีเลือดปนที่อุจจาระ อุจจาระมีสีดำ
  4. น้ำหนักตัวลดลง ร่างกายอ่อนแอ โลหิตจางฃ
  5. มีก้อนบริเวณท้องส่วนบนขวา เกิดจากเนื้องอก เนื้อร้าย มีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อเนื้องอกมีขนาดใหญ่ขึ้น

วิธีการรักษามะเร็งลำไส้เล็ก

การรักษาโรคมะเร็งลำไส้เล็ก นั้น หากพบว่ามีมะเร็ง ต้องทำการรักษาด้วยการตัดเนื้อร้ายออกและการฉายรังสี การทำเคมีบำบัด เพื่อป้องกันการเติบโตของเนื้อร้าย เราสามารถสรุป วิธีการรักษามะเร็งลำไส้ ได้ดังนี้

  • การรักษามะเร็งลำไส้เล็กด้วยการผ่าตัด ซึ่งการผ่าตัดแพทยืจะทำการผ่าตัดลำไส้เล็ก หัวตับอ่อน การผ่าตัดท่อลำไส้เล็กแบบเป็นช่วงๆ และการผ่าตัดส่วนของกระเพาะอาหาร เป็นการตัดเนื้อร้ายออกจากร่างกาย แต่การผ่าตัดยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เนื่องจากเนื้อร้ายสามารถเจริญเติบโตได้ ดังนัั้น ต้องมีการรักษาด้วยเคมีบำบัดควบคู่ไปด้วย
  • การรักษามะเร็งลำไส้เล็กด้วยการฉายรังสีและการทำเคมีบำบัด เป็นการทำให้เนื้อร้าย และเซลล์มะเร็งผ่อ ไม่สามารถเจริญเติบโตได้อีก

วิธีการดูแลผู้ป่วยมะเร็งลำไส้เล็ก

สำหรับ การดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้เล็ก นั้น การลดการทำงานของระบบทางเดินอาหาร การใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารเป็นสิ่งที่สำคัญ วิธีการดูแลผู้ป่วยมะเร็งลำไส้เล็ก มีดังนี้

  • ผู้ป่วยต้องเลิกการบุหรี่
  • ผู้ป่วยต้องไม่ดื่มสุรา
  • ผู้ป่วยต้องไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชาและกาแฟ
  • อาหารสำหรับผู้ป่วยต้องเป็นอาหารเบาๆ ไม่รสจัด หรือเผ็ด
  • การใช้ยาที่มีผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารต้องปรึกษาแพทย์
  • รับประทานอาหารที่มีกากใยอาหาร เช่น ผลไม้และผักสด
  • ควรให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่ครบห้าหมู่
  • รักษาความสะอาดของภาชนะที่มีส่วนในการรับประทานอาหาร และความสะอาดของสิ่งแวดล้อมของผู้ป่วย

โรคมะเร็งลำไส้เล็ก เกิดเนื้องอกที่ลำไส้เล็ก ปวดท้องหลังรับประทานอาหาร ลามไปถึงหลัง ก้อนเนื้อร้าย สามารถแพร่่ไปสู่อวัยวะใกล้เคียงได้ โรคนี้เกิดจากอะไร แนวทางการรักษาทำอย่างไร สำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้เล็กต้องดูแลอย่างไร


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove