มะเร็งช่องปาก ( Oral cancer ) เนื้อร้ายที่ช่องปาก เกิดจากการสูบบุหรี่ อาการมีก้อนในช่องปาก ลิ้นและเยื้อบุช่องปากมีฝ้าสีขาว แผลในปากหายยาก ไม่สามารถกินอาหารได้

มะเร็งช่องปาก โรคมะเร็ง โรคในช่องปาก เป็นมะเร็งช่องปาก

มะเร็งช่องปาก เป็นการเกิดเนื้อร้ายที่ช่องปาก เป็นโรคที่ทรมาน ทำให้ไม่สามารถกินอาหารได้ อาการของโรคมะเร็งช่องปากเป็นอย่างไร อะไรคือปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค การรักษาและการดูแลผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก ทำอย่างไร รวมอยู่ในบทความนี้

ช่องปาก คือ อวัยวะเริ่มต้นของระบบทางเดินอาหาร ที่มีอวัยวะหลายส่วน ได้แก่ ริมฝีปาก กระพุ้งแก้ม เหงือก ลิ้น รวมถึงเนื้อเยื่อใต้ลิ้น ด้วยซึ่งอวัยวทั้งหมดในช่องปากสามารถเกิดเนื้อร้ายได้ โรคมะเร็งช่องปาก ทางการแพทย์ เรียก Oral cancer สำหรับมะเร็งช่องปาก พบว่า ร้อยละ 10 ของผู้ป่วยโรคมะเร็ง เป็นโรคมะเร็งช่องปาก พบมากในกลุ่มคนวัยกลางคน อายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป และโอกาสในการเกิดโรค ผู้ชายมีโอกาสเกิดมากกว่าผู้หญิง

ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดมะเร็งในช่องปาก

เราได้รวบรวมสาเหตุที่เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งในช่องปาก มาซึ่งส่วนใหญ่กิดจากการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้องการใช้สารเสพติดและการพักผ่อนน้อย โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งในช่องปาก ประกอบด้วย

  • การสูบบุหรี่เป็นประจำ
  • การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เป็นประจำ
  • การกินอาหารที่มีส่วนผสมของสารก่อมะเร็งเป็นประจำ เช่น การเคี้ยวหมากพลู เป็นต้น
  • การอักเสบในช่องปากเป็นประจำ การอักเสบเรื้อรัง ทำให้เกิดการระคายเคือง หากเกิดนานๆ เซลล์และเนื้อเยื่อในช่องปากสามารถเปลี่ยนเป็นเนื้อร้ายได้
  • การติดเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสเอชพีวี (Human Papilloma virus) เป็นการติดเชื้อไวรัสจากการมีเพศสัมพัน์ทางปาก
  • ผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งในอวัยวะใกล้เคียงกับช่องปาก เช่น มะเร็งลำคอ และมะเร็งศีรษะ

ปัจจัยเสี่ยงที่เป็นสาเหตุของมะเร็งในช่องปากมากที่สุด คือ การสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ จากสถิติของผู้ป่วยมะเร็งในช่องปาก พบว่าร้อยละ 90 ของผู้ป่วยมะเร็งในช่องปาก สูบบุหรี่และดื่มสุรา เป็นประจำ

อาการผู้ป่วยโรคมะเร็งช่องปาก

อาการของผู้ป่วยมะเร็งช่องปากนั้น จะมีอาการให้เห็นชัดเจนในอวัยวะที่อยู่ในช่องปาก โดยรายละเอียด ดังนี้

  • บริเวณลิ้นและเยื้อบุช่องปาก จะมีฝ้าสีขาวหรือสีแดง
  • เกิดแผลที่ช่องปาก และแผลในช่องปากนั้นหายยาก ใช้เวลามากกว่า 14 วันถึงหาย
  • ที่ช่องปาก เช่น เหงือก พื้นปาก เพดานปาก มีก้อนเนื้อเกิดขึ้น และขนาดของก้อนเนื้อจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่ก้อนเนื้อนี้ไม่มีอาการเจ็บปวด
  • สุขภาพฟันไม่แข็งแรง เช่น ฟันโยก ฟันหลุด
  • การเคี้ยวอาหารและการกลืนอาหาร เกิดความยากลำบาก
  • เกิดโลหิตไหลผิดปรกติที่ช่องปาก
    มีก้อนที่ลำคอ ซึ่งคือ ต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำคอ โต คลำได้จากมีโรคมะเร็งลุกลาม แต่มักไม่มีอาการเจ็บปวด
    อนึ่ง หากโรคมะเร็งช่องปาก แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ก็อาจมีอาการตามอวัยวะนั้น ๆที่โรคแพร่กระจายไปได้ เช่น มะเร็งกระจายไปกระดูก อาจมีอาการปวดตามกระดูกในส่วนต่าง ๆที่โรคแพร่กระจายไป

อาการหลักๆของมะเร็งช่องปากนั้น สังเกตุจากผ้าและก้อนเนื้อที่อวัยวะในช่องปาก หากเกิดความผิดปรกติ อย่าปล่อยให้นาน ให้รีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและรักษาอย่างทันท่วงที่

ระยะของการเกิดโรคมะเร็งช่องปาก

มะเร็งช่องปาก นั้นสามารถแบ่งระยะของการเกิดโรคได้เป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่1 ถึงระยะที่ 4 โดยรายละเอียดของระยะการเกิดโรคมะเร็งช่องปาก มีดังนี้

  • ระยะที่ 1  เริ่มเกิดก้อนเนื้อ ที่มีขนาดยังไม่เกิน 2 เซ็นติเมตร ในระยะนี้จะสัมผัสได้ว่ามีก้อนเนื้อแต่ยังไม่เกิดการรบกวนการดำรงชีวิตนัก
  • ระยะที่ 2 ขนาดของก้อนเนื้อร้ายใหญ่ขึ้น แต่ขนาดยังไม่เกิน 4 เซ็นติเมตร ขนาดของเนื้อร้ายเริ่มใหญ่ในระยะนี้เกิดความระคายเคืองในช่องปาก และรวบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
  • ระยะที่ 3 ขาดของก้อนเนื้อร้ายใหญ่ขึ้น และลามไปที่คอและต่อมน้ำเหลือง ในระยะนี้การเกิดมะเร็งยังอยู่ที่ลำคอไม่ลามไปส่วนอื่นๆของร่างกาย
  • ระยะที่ 4 เชื้อมะเร็งลุกลามเข้าเนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆในร่างกาย เชื้อโรคแพร่กระจายเข้าสู่กระแสโลหิต เป็นระยะสุดท้าย

การแพร่กระจายของมะเร็งช่องปาก นั้นสามารแพร่กระจายได้ 3 ทาง คือ

  • การแพร่กระจายไปยังอวัยวะข้างเคียง
  • การแพร่กระจายไปต่อมน้ำเหลืองที่คอ
  • การแพร่กระจายไปตามกระแสเลือด

การวินิจฉัยโรคมะเร็งช่องปาก

ในการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งช่องปาก นั้นสามารถตรวจโรคได้จากาการตรวจชิ้นเนื้อ ซึ่ง วิธีตรวจโรคมะเร็งช่องปาก สามารถทำได้ ดังนี้

  • ตรวจชิ้นเนื้อ เป็นการตัดชิ้นเนื้อ เพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา เพื่อวินิจฉัยโรคมะเร็ง
  • การตรวจเลือด การเจาะเลือด เพื่อตรวจและประเมินสภาพร่างกายทั่วๆไป เช่น ดูค่าเบาหวาน ดูการทำงานของไขกระดูก ดูการทำงานของไต ดูการทำงานของตับ ดูระดับเกลือแร่ในร่างกาย
  • เอกซเรย์ปอด เพื่อตรวจดูการแพร่กระจายของเชื้อมะเร็งที่จะเข้าสู่ปอด และช่องอก
  • ตรวจปัสสาวะ เพื่อดูสภาพร่างกาย
  • ตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เพื่อตรวจดูการลุกลามของเชื้อมะเร็งในอวัยวะต่างๆ
  • ตรวจอัลตราซาวน์ช่องท้อง เพื่อสุขภาพภายในช่องท้องและตับ
  • ตรวจสแกนกระดูก เพื่อดูสุขภาพกระดูก
  • ตรวจสุขภาฟัน

ในการตรวจโรคมะเร็งนั้น จำเป็นต้องตรวจอย่างลเอียด เพื่อประเมินการเกิดโรคและระยะของโรค และเพื่อการรักษาอย่างถูกต้อง ปัจจุบันมีการตรวจคัดกรองมะเร็งช่องปาก ยังไม่มีวิธีตรวจคัดกรองโรคมะเร็งช่องปาก แต่สามารถสังเกตุอาการของโรคได้จากอาการของโรคมะเร็งช่องปาก เช่น มีแผลในช่องปากที่รักษาไม่หาย มีฝ้าในช่องปาก มีก้อนเนื้อในช่องปาก เป็นต้น

การรักษามะเร็งช่องปาก

สำหรับการรักษามะเร็งในช่องปากนั้น หลังจากการตรวจเพื่อวินิจฉัยโรคแล้ว การรักษานั้นก็เหมือนการรักษาโรคมะเร็งทั่วไป คือ รักษาด้วยการผ่าตัด การฉายรังสี และการทำเคมีบำบัด ซึ่งต้องทำทั้ง 3 อย่างควบคู่กัน

  • การรักษามะเร็งช่องปาก ด้วยการผ่าตัด จะใช้การผ่าตัดสำหรับผู้ป่วยที่ยังไม่เกินระยะที่ 3 โดยจะตัดเอาก้อนเนื้อร้ายออก อาจต้องตัดต่อมน้ำเหลืองลำคอออกด้วย หากปรเมินว่าอาจลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลือง
  • การรักษามะเร็งช่องปาก ด้วยการฉายรังสี วิธีนี้จะใช้ 2 วิธี คือ การฉายรังสีและการฝังแร่ เพื่อทำลายเซลล์มะเร็งแต่การฉายรังสีนั้น ต้องขึ้นอยู่กับตำแหน่งและขนาดของเนื้อร้าย
  • การรักษามะเร็งช่องปาก โดยใช้เคมีบำบัด เป็นการให้เคมีเพื่อทำลายเนื้อร้าย ทำลายเซลล์มะเร็งทั่วร่างกาย

การรักษามะเร็งในวิธีต่างๆ นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งการเลือกการรักษาจะต้องอยู่ในการวินิจฉัยของแพทย์อย่างใกล้ชิด

ผลข้างเคียงของการรักษามะเร็งช่องปาก

การรักษามะเร็งช่องปากนั้น ต้องใช้ทั้งการผ่าตัด การฉายรังสี และการทำเคมีบำบัด ซึ่งมีผลข้างเคียงหลายอย่างที่ตามมาหลังจากการรักษาโรค เราสามารถสรุปผลข้างเคียงของการรรักษาโรคมะเร็งได้ ดังนี้

  • ผลข้างเคียงจากการผ่าตัด คือ ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บ ปวดที่แผล การติดเชื้อเกิดได้ง่าย เนื่องจากช่องปากเป็นอวัยวะที่ถูกสัมผัสได้ง่าย
  • ผลข้างเคียงของการแายรังสี คือ ต้องดูแลผิวหนังให้ดี เนื่องจากการฉายรังสีจะส่งผลกระทบต่อผิวหนังและเนื้อเยื่อที่ถูกฉายรังสี
  • ผลข้างเคียงของการทำเคมีบำบัด คือ ร่างกายของผู้ป่วยจะอ่อนเพลีย มีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ภาวะเกล็ดเลือดต้ำ และการทำงานของไขกระดูกต่ำ

การป้องกันการเกิดโรคมะเร็งช่องปาก

เราสังเกตุได้ว่าการเกิดมะเร็งช่องปาก ส่วนหนึ่งเกิดจากการไม่ตรวจสุขภาพร่างกายอย่างสม่ำเสมอ และการใช้ชีวิตไม่ถูกต้อง เป็นอันตรายต่อสุขภาพในช่องปาก การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงและการหมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและสมบูรณ์คือ การป้องกันการเกิดมะเร็งช่องปากที่ดีที่สุด เราสามารถสรุปการป้องกันมะเร็งในช่องปากได้ดังนี้

  • หากใช้ฟันปลอม ให้ล้างแลทำความสะอาดฟันปลอมอย่าให้มีสิ่งแปลกปลอม
  • ให้ทำความสะอาดช่องปากด้วยการแปรงฟัน อย่างถูกวิธีอย่างน้อย วันละ 2 ครั้ง
  • ให้อมน้ำบาม้วนปากหลังจากรับประทานอาหาร เพื่อล้างคราบสกปรก และเชื้อโรคที่การแปรงฟันเข้าไม่ถึง
  • หมั่นตรวจสุขภาพในช่องปากเป็นประจำปีละ 2 ครั้ง
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง
  • ไม่สูบบุหรี
  • ไม่ดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์

มะเร็งช่องปาก จักว่าเป็นโรคอันตราย ซึ่งความรุนแรงของโรคนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ระยะของโรค อายุและความแข็งแรงของผู้ป่วย รวมถึง โรคอื่นๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคเหล่านี้หากเป็นร่วมกับมะเร็งในช่องปาก จะมีความอันตรายมากขึ้น ดังนั้น การดูแลสุขภาพ เป็นสิ่งสำคัญ

มะเร็งช่องปาก ( Oral cancer ) การเกิดเนื้อร้ายที่ช่องปาก โรคมะเร็ง โรคในช่องปาก เป็นโรคที่ทรมาน การสูบบุหรี่และดื่มสุรา เป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรค มีก้อนในช่องปาก ลิ้นและเยื้อบุช่องปากมีฝ้าสีขาว แผลในปากหายยาก ไม่สามารถกินอาหารได้ ปัจจัยเสี่ยง สาเหตุ อาการ การรักษาโรค ทำอย่างไร

มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งทวารหนัก ( Colon Cancer ) เนื้อร้ายที่ลำไส้ใหญ่หรือทวารหนัก เกิดจากพฤติกรรมการกิน อาการปวดท้องเป็นๆหายๆ ท้องผูกสลับท้องเสีย ถ่ายเป็นเลือดมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคมะเร็ง

มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งทวารหนัก ( Colon Cancer ) เนื้อร้ายที่ลำไส้ใหญ่หรือทวารหนัก โรคอันดับ 3 ของโลก อาการปวดท้องเป็นๆหายๆ ท้องผูกสลับท้องเสีย ถ่ายอุจจาระมีเลือดปน เกิดจากพฤติกรรมการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพ จากสถิติของผู้ป่วย โรคมะเร็ง พบว่ามีผู้ป่วย โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก สามารถเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย เพศชายมีอัตราการเกิดโรคสูงกว่าเพศหญิง และแนวโน้มการเกิดโรคพบว่ามีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สัญญาณอะไรบ้างบ่งบอกว่าท่านควรตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อ คัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

  • ปวดท้องเป็นพักๆ การปวดแบบเป็นๆหายๆ ปวดตามจังหวะการบีบตัวของลำไส้ อาการปวดจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆและปวดบ่อยมากขึ้น
  • ท้องผูกสลับท้องเสีย ระบบการขับถ่ายผิดปกติ มีอาการท้องผูกต่อเนื่องกันหลายวัน สลับกับท้องเสียจากการติดเชื้อ
  • อุจจาระมีเลือดปด เป็นมูก เป็นผลมาจากตัวเนื้องอก ที่ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
  • ก้อนอุจจาระมีขนาดเล็ก เนื่องจากรูของลำไส้ใหญ่มีขานดแคบลง
  • ปวดท้องถ่ายอุจจาระตลอดเวลา แต่ถ่ายไม่ออก ไม่มีอุจจาระแต่ปวดท้อง เนื่องมาจากการมีก้อนเนื้องอกในทวารหนัก ทำให้ร่างกายมีความรู้สึกเหมือนมีอุจจาระในทวารหนักตลอดเวลา

เรามาทำความรุ้จักกับ โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ กันว่าเป็นอย่างไร

โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นอีก โรคมะเร็ง ที่พบว่าเกิดกับ คนอายุ 55 ปีขึ้นไป โอกาสในการเกิดในเพศชายและหญิงมีอัตราเท่าๆกัน ลำไส้ใหญ่ เป็นอวัยวะในช่องท้อง

สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ พบว่าปัจจัยด้านพฤติกรรมการกิน เป็นสาเหตุหลักของปัญหา และปัจจัยด้านการถ่ายทอดทางพันธุกรรม มีผลต่อการเกิดโรค เรามีปัจจัยการเกิดโรคมาให้ดังนี้

  • การกินอาหารที่มีไขมันสูง บ่อยและเป็นเวลานานสะสมหลายปี เนื่องจาก ไขมัน เป็นอาหารที่ไม่มีกากใยอาหาร ส่งผลเสียต่อระบบลำไส้ โดยเฉพาะ คนที่กิยอาหารที่มีกากาใยอาหารน้อย
  • การถ่ายทอดทางพันธุกรรม จากสถิติ มีการพบว่าในผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เคยมี่บุคคลในครอบครัวเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เหมือนกัน
  • ป่วนโรคติ่งเนื้อเมือกที่ลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นเนื้องอกที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้

อาการของผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

สำหรับอาหารของผู้ป่วยที่เป็น โรคโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ พบว่ามีอาการผิดปรกติ เกี่ยวกับระบบการย่อยอาหารและขับถ่ายเริ่มมีอาการผิดปรกติ อาการผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มี ดังนี้

  • อุจจาระเป็นเลือด มีมูกปนเลือดในอุจจาระ
  • ท้องผูกสลับกับท้องเสีย โดยไม่ทราบสาเหตุ
  • ปวดท้องเรื้อรัง

ระยะของอาการโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

สำหรับ โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เราพบว่ามีระยะการเกิดโรค 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ถึง ระยะที่ 4 ซึ่ง รายละเอียดของ โรคมะเร็ง ระยะต่างๆ มีดังนี้

  • โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ระยะที่ 1 จะมีก้อนเนื้อ และแผลขนาดเล็กที่ผนังลำไส้ใหญ่
  • โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ระยะที่ 2 ก้อนเนื้อและแผล ลุกลามไปจนถึงเยื่อหุ้มลำไส้ใหญ่
  • โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ระยะที่ 3 ก้อนเนื้อและแผล ลุกลามเข้าสู่ต่อมน้ำเหลือง ที่อยู่ใกล้กับลำไส้ใหญ่
  • โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ระยะที่ 4 เชื้อมะเร็งเข้าสู่ต่อมน้ำเหลือง และลามสู่อวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย และกระแสเลือด

สำหรับ การวินิจฉัยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เริ่มจากการ ตรวจสอบประวัติของผู้ป่วย และอาการผิดปรกติของร่างกาย ตรวจร่างกาย ตรวจทวารหนัก ส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ และตัดชิ้นเนื้อไปตรวจทางพยาธิวิทยา

การตรวจเพื่อคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ นั้นสามารถตรวจเพื่อ คัดกรองโรคมะเร็ง ได้ เหมือน มะเร็งเต้านม การตรวจ คัดกรองโรคมะเร็ง มีความจำเป็น เนื่องจาก มะเร็งลำไส้ใหญ่ ส่วนมากจะตรวจพบในระยะที่มากกว่าระยะที่ 2 แล้ว การรักษาจะยาก

การรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

การรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เราใช้การ ผ่าตัดชิ้นเนื้อออก และรักษาร่วมกับอาหารทำเคมีบำบัด การฉายแสง เพื่อให้เนื้อร้ายฝ่อ แต่การรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่จะได้ผลดมากน้อย ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเนื้อร้าย และระยะของโรค

การป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

การป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ให้หลีกเลี้ยงปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรค ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อระบบการย่อยอาหารและการขับถ่าย หมั่นตรวจคัดกรอง โรคมะเร็ง เป็นระยะๆ


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove