ลำไส้อักเสบ ( Enterocolitis ) เกิดจากหลายสาเหตุทั้งติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ อาการของโรคปวดท้องรวมกับท้องเสีย อุจจาระเป็นมูกเลือดเหม็น อุจจาระสีซีด อ่อนเพลีย ลำไส้อักเสบ โรคระบบทางเดินอาหาร โรคไม่ติดต่อ โรคลำไส้

โรคลำไส้อักเสบ ภาษาอังกฤษ เรียก Enterocolitis โรคลำไส้อักเสบ คือ ภาวะที่เกิดจากเนื้อเยื่อภายในลำไส้อักเสบ  ซึ่งสาเหตุของการอักเสบมักเกิดจากการติดเชื้อโรค แต่สามารถเกิดการอักเสบโดยไม่ติดเชื้อได้เหมือนกัน ลำไส้อักเสบ เกิดขึ้นกับทั้งลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ ทั้งนี้ลำไส้อักเสบ อาจเกิดร่วมกับโรคกระเพาะอักเสบ หรือ ทวารหนักอักเสบได้

การเกิดลำไส้อักเสบแบบเฉียบพลัน จะเกิดการอักเสบอย่างกระทันหันภายในระยะเวลา 7 วัน แต่ถ้าหากอาการอักเสบเป็นๆ หายๆ เราจะเรียกว่า ลำไส้อักเสบเรื้อรัง โรคลำไส้อักเสบจะพบมากในประเทศที่มีสุขอนามัยไม่ดี

สาเหตุของการเกิดโรคลำไส้อักเสบ

สำหรับ สาเหตุของลำไส้อักเสบ นั้น เราสามารถแบ่งสาเหตุของโรคได้ 2 ลักษณะ คือ อาการลำไส้อักเสบจากการติดเชื้อโรค และ โรคลำไส้อักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ โดยรายละเอียด มีดังนี้

  • ลำไส้อักเสบจากการติดเชื้อโรค ซึ่งเชื้อโรคที่ทำให้เกิดลำไส้อักเสบ คือ แบคทีเรีย ไวรัส ปรสิต และเชื้อรา แต่เชื้อแบคทีเรีย เป็นเชื้อโรคที่ทำให้เกิดลำไส้อักเสบมากที่สุด เชื้อแบคทีเลียที่พบมากที่สุดคือ เชื้อแบคทีเรียอีโคไลและเชื้อแบคทีเรียสตาพีโลคอกคัส เป็นสาเหตุของโรคอาหารเป็นพิษ โรคบิด โรคไทฟอยด์ อหิวาตกโรค
    สำหรับเชื้อไวรัสนั้น เชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคลำไส้อักเสบ คือ ไวรัสโรตา ไวรัสอะดีโน ไวรัสซีเอมวี ลักษณะของการติดเชื้อไวรัสเกิดจากระบบภูมิต้านทานร่างกายบกพร่อง ส่วนเชื้อปรสิตที่เป็นสาเหตุของลำไส้อักเสบ คือ อะมีบา(Amoeba) พยาธิตัวกลม เป็นต้น นอกจากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และปรสิต แล้วเชื้อราก็คือ เชื้อโรคอีกตัวหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคลำไส้อักเสบ มักพบในคนที่มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคบกพร่อง เช่น โรคเอดส์
  • ลำไส้อักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ เป็นสาเหตุของลำไส้อักเสบที่พบได้ไม่บ่อย ลักษณะของลำไส้อักเสบเกิดจาก ลำไส้ขาดเลือด เป็นต้น

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคลำไส้อักเสบ

สำหรับกลุ่มที่มี ความเสี่ยงของการเกิดโรคลำไส้อักเสบ เกิดจากปัจจัย 2 ส่วน คือ ปัจจัยของโรคที่สาเหตุจากการติดเชื้อและปัจจัยของโรคจากการไม่ติดเชื้อ สามารถแยกปัจจัยเสี่ยงเป็นข้อๆ ได้ดังนี้

  • กลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่สะอาด
  • นักท่องเที่ยวและนักเดินทาง อาจจะเดินทางไปในสถานที่ทีไม่สะอาดและเกิดการติดเชื้อโรคได้
  • กลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน โอกาสในการรับเชื้อโรคโดยไม่รู้ตัวได้
  • กลุ่มคนที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่เป็นโรคระบบทางเดินอาหาร
  • กลุ่มคนที่คนในนครอบครัวมีประวัติโรคระบบทางเดินอาหาร
  • เด็กที่คลอดก่อนกำหนด

อาการของผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบ

สำหรับผู้ป่วยที่เป็น โรคลำไส้อักเสบ นั้น จะมีอาการ ท้องเสียร่วมกับปวดท้อง ลักษณะปวดแบบบีบ นอกจากอาการปวดท้องแล้ว จะพบว่ามีอาการอื่นๆ ดังต่อไปนี้ คือ อุจจาระเหลวเป็นมูก มีเลือดปน กลิ่นเหม็นมากกว่าปรกติ อุจจาระสีซีดกว่ารกติ มีไข้สูง หนาวสั่น คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย

อาการที่น่ากังวลคือ อาการเสียน้ำมาก จนร่างกายขาดน้ำ หากร่างกายเกิดช็อกต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลพบแพทย์โดยด่วน

การรักษาโรคลำไส้อักเสบ

สำหรับ การรักษาโรคลำไส้อักเสบ นั้น ใช้การรักษาอยู่ 2 อย่าง คือ การรักษาสาเหตุของโรคและการประคับประครองอาการของโรค รายละเอียด ดังนี้

  • การรักษาโรคลำไส้อักเสบ ที่สาเหตุของโรค เช่น การใช้ยาปฏิชีวนะในการฆ่าเชื้อโรคทีเป็นสาเหตุของอาการอักเสบ
  • การรักษาโรคลำไส้อักเสบ ด้วยการประคับประคองอาการของโรค เช่น การให้เกลือแร่เพื่อชดเชยอาการขาดน้ำ และการให้ยาแก้ปวด ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น

การดูแลตัวเองสำหรับผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบ

การดูแลตัวเองสำหรับผู้ที่เป็นโรคลำไส้อักเสบนั้น มีวิธีดูแลตัวเอง

  • ให้รับประทานอาหารอ่อนๆ ที่ย่อยง่าย
  • ให้ดื่มน้ำให้มากขึ้น เพื่อชดเชยอาการขาดน้ำ
  • ให้รับประทานอาหารมีประโยชน์ครบ 5 หมู่
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • รักษาความสะอาดของอาหารและน้ำดื่มที่รับประทาน

การป้องกันการเกิดโรคลำไส้อักเสบ

สำหรับ การป้องกันโรคลำไส้อักเสบ นั้นสามารถป้องกันได้โดยการลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคที่หมด โดยรายละเอียด ของการป้องกันการเกิดโรคลำไส้อักเสบ ดังนี้ที่

  • รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน
  • รักษาความสะอาดของอาหาร น้ำดื่ม
  • กินอาหารปรุงสุกเสมอ
  • ล้างมือทุกครั้งก่อนกินอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ
  • ใช้ส้วมเสมอในการขับถ่าย เพื่อลดโอกาสเกิดโรคระบาดติดต่อทางอุจจาระ
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่สกปรกและแออัด
  • หากจำเป้นต้องไปอยู่ในสถานที่ไม่สะอาด ต้องทำความสะอาดชำระร่างกายให้สะอาดเสมอ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

โรคลำไส้อักเสบ นั้น ไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่โรคนี้หากเกิดภาวะเรื้อรัง จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หลีกเลี่ยงโรคนี้ได้ก็เป็นดี อาการปวดท้อง ท้องเสีย อุจจาระเป็นมูก อาการเหล่านี้เป็น อาการของโรคลำไส้อักเสบ ซึ่งเป็นการระคายเคืองที่ลำไส้เป็นเวลานานจากปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร สามารถพบได้บ่อยในคนช่วงอายุประมาณ 15-30 ปี และมักจะเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ลำไส้อักเสบ รักษาอย่างไร อาการลำไส้อักเสบสามารถรักษาด้วยวิธีธรรมชาติได้

ซึ่ง ลำไส้อักเสบ โดยทั่วไปเป็น โรคที่ไม่รุนแรง ทางการแพทย์สามารถรักษาและควบคุมโรคได้ สำหรับอาการของโรคนี้จะมีการอักเสบเกิดขึ้นเฉพาะที่ลำไส้  ซึ่งความสำคัญของโรคนี้เป็นอาการโรคเรื้อรัง ที่จะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้ป้วย วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ โรคลำไส้อักเสบ กันว่า เป็นอย่างไร อะไรเป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคนี้ อาการของโรคเป็นอย่างไร รักษาอย่างไร และป้องกันอย่างไร

โรคลำไส้อักเสบ ( Enterocolitis ) คือ ภาวะเนื้อเยื่อลำไส้อักเสบ เกิดจากหลายสาเหตุทั้งการติดเชื้อและการไม่ติดเชื้อ เกิดจากการระคายเคืองที่ลำไส้เป็นเวลานาน  เกิดกับลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ สามารถเกิดร่วมกับโรคกระเพาะอักเสบ ทวารหนักอักเสบ อาการของโรคไส้อักเสบ คือ ปวดท้อง ท้องเสีย อุจจาระเป็นมูก สาเหตุ อาการ การรักษา และ การดูแลโรคทำอย่างไร

มะเร็งกระเพาะอาหาร ( Cancer of Stomach ) เนื้อร้ายที่กระเพาะอาหาร กินเค็มจัด ของหมักดอง อาการอุจจาระมีเลือด อุจจาระมีสีดำ น้ำหนักลด ปวดท้อง ก้อนเนื้อที่ลิ้นปี่มะเร็งกระเพาะอาหาร โรคระบบทางเดินอาหาร โรคไม่ติดต่อ การรักษามะเร็ง

มะเร็งกระเพาะอาหาร คือ โรคจากการเกิดเนื้อร้ายชนิดหนึ่ง ที่เซลล์เยื่อบุกระเพาะอาหาร ซึ่งเนื้อร้ายหรือเซลล์นั้นเกิดการแบ่งตัวอย่างผิดปกติ จนเป็นเนื้อร้ายที่เกิดขึ้นบริเวณกระเพาะอาหาร แต่สามารถกระจายตัวไปยังอวัยวะสำคัญของร่างกายอื่นๆได้ ไม่ว่าจะเป็น ตับ ตับอ่อน ลำไส้ ปอด รังไข่ รวมถึงต่อมน้ำเหลืองได้ มะเร็งกระเพาะอาหารมีสาเหตุของโรคอย่างไร อาการของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร การตรวจวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคทำอย่างไร สำหรับคนที่กลัวโรคมะเร็งกระเพาะอาหารต้องทำอย่างไร

สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร

การเกิดโรคมะเร็งที่กระเพาะอาหาร มีสาเหตุและปัจจัยต่างๆ โดยสามารถแบ่งเป็นข้อๆได้ ดังนี้

  • พันธุกรรม ในกลุ่มคนที่มีญาติสายตรง เช่น พ่อ แม่ พี่น้อง ป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร มีโอกาสเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้ ซึ่งหากพบว่าญาติสายตรงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารต้องหมั่นตรวจสุขภาพบ่อยๆ
  • การติดเชื้อแบตทีเรีย เฮลโคแบกเทอร์ไพโลรี (Helicobacter pylori) เป็นเชื้อโรคที่ทำใหเเกิดแผลในกระเพาะอาหาร และสามารถลามเกิดเนื้อร้ายในกระเพาะอาหารได้
  • การดื่มเหล้าหรือสูบบุหรี่จัด เป็นสาเหตุของโรคร้ายทั้งหลายรวมถึงโรคมะเร็งกระเพาะอาหารด้วย
  • การกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น อาหารรสเค็มจัด อาหารหมักดอง อาหารรมควัน อาหารที่มีดินประสิวเจือปน เป็นต้น
  • กินผักและผลไม้น้อย เนื่องจากอาหารประเภทนี้มีกากใยอาหาร ที่ช่วยในการล้างและทำความสะอาดลำไส้ ช่วยลดการเกิดโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร
  • การมีประวัติการผ่าตัดกระเพาะอาหาร มานานกว่า ๒๐ ปี
  • การเกิดเนื้องอกที่กระเพาะและลำไส้ ซึ่งเนื้องอกบางชนิดสามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม

ระยะของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร

สำหรับ โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร นั้น สามารถแบ่งระยะของโรคได้ เป็น 4 ระยะ ตามระดับความรุนแรงของโรค ซึ่งรายละเอียดของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารระยะต่างๆ มีดังนี้

  • มะเร็งกระเพาะอาหาร ระยะที่ 1 เนื้อร้ายอยู่ในชั้นเยื่อเมือกถึงชั้นกล้ามเนื้อของกระเพาะอาหาร ยังไม่มีการลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลือง
  • มะเร็งกระเพาะอาหาร ระยะที่ 2 เนื้อร้ายที่กระเพาะอาหารลุกลามเข้าเยื่อบุช่องท้อง แต่ยังไม่ลุกลามไปถึงต่อมน้ำเหลือง
  • มะเร็งกระเพาะอาหาร ระยะที่ 3 เนื้อร้ายที่กระเพาะอาหารลุกลามเข้าอวัยวะข้างเคียง เช่น ม้าม ลำไส้เล็ก ตับอ่อน และเยื่อบุช่องท้อง รวมถึงต่อมน้ำเหลือง
  • มะเร็งกระเพาะอาหาร ระยะที่ 4 เนื้อร้ายมีการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ทั่วอวัยวะภายในของร่างกาย

อาการของผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร

สำหรับ ผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหาร ในระยะเริ่มต้นนั้น มักจะไม่แสดงอาการให้เห็นอย่างเด่นชัด มีลักษณะอาการ คล้ายกับโรคกระเพาะอาหารธรรมดา หรือ โรคแผลที่กระเพาะอาหาร ซึ่งลักษณะ อาการ ดังนี้ อาหารไม่ย่อย รู้สึกไม่สบายท้อง ท้องอืดหลังกินข้าว คลื่นไส้เล็กน้อยแต่มักไม่อาเจียน เบื่ออาหาร แสบร้อนกลางอก เป็นต้น

เมื่อเกิด มะเร็ง รุนแรงมากขึ้น จะแสดงอาการให้เห็นอย่างชัดเจนมากขึ้น ลักษณะอาการ คือ มีเลือดปนในอุจจาระ อุจจาระมีสีดำ อาเจียนเป็นเลือด น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ ปวดท้อง มีก้อนเนื้อบริเวณลิ้นปี่ หากเกิดการแพร่กระจายของเชื้อมะเร็ง จะพบว่าเกิดอาการต่อมน้ำเหลืองโต ตับโต ตาเหลือง ตัวเหลือง มีน้ำในช่องท้อง หายใจลำบาก เป็นต้น

วินิจฉัยมะเร็งกระเพาะอาหารของแพทย์ทำอย่างไร

เมื่อผู้ป่วยมีอาการดังกล่าวมาข้างต้น และสงสัยว่าจะเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ทางแพทย์จะมีวิธีในการวินิจฉัยโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ดังต่อไปนี้

  • แพทย์จะซักประวัติ เช่น ลักษณะของอาการปวดท้อง สีของอุจจาระ ประวัติการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อประกอบการวินิจฉัย
  • ตรวจร่างกายด้วยการเอกซเรย์ทางเดินอาหารส่วนบน
  • ทำการเอกซเรย์กลืนแป้ง
  • อัลตราซาวน์ระบบภายในหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร เพื่อดูร่องรอยของโรค
  • เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่ช่องท้อง เพื่อดูร่องรอยของโรคที่บริเวณหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กส่วนต้น
  • การตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจทางพยาธิ
  • การตรวจเลือดซีบีซี (CBC) เพื่อประเมินสภาพร่างกายทั่วๆไป เบาหวาน การทำงานของไต การทำงานของตับ และดูระดับเกลือแร่ในเลือด การตรวจเลือดเพื่อหาสารมะเร็งชนิดซีอีเอ (CEA)
  • ทำการเอกซเรย์ปอด เพื่อดูความผิดปกติในช่องอกและปอด
  • ตรวจปัสสาวะ เพื่อประเมินสภาพร่างกายทั่วๆไปของผู้ป่วยก่อนการรักษา

รักษามะเร็งกระเพาะอาหารอย่างไร

สำหรับการรักษาโรคมะเร็งที่กระเพาะอาหารนั้น มีวิธีการในการรักษาอยู่ 4 วิธี คือ การผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด การฉายรังสีรักษา และการประคับประคองตามอาการของผู้ป่วย ซึ่งการรักษาด้วยวิธีการต่างๆนั้นขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ว่าจะใช้การรักษาอย่างไร ซึ่งรายละเอียดของการรักษาโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร มีดังนี้

  • การรักษามะเร็งกระเพาะอาหาร ด้วยการผ่าตัด เป็นวิธีแรกที่จะใช้ในการรักษา การผ่าตัดนั้นจะทำการผ่าตัดเนื้อร้ายที่กระเพาะอาหารออกจากร่างกายออกก่อน
  • การรักษามะเร็งกระเพาะอาหาร ด้วยการใช้ยาเคมีบำบัด การใช้เคมีบำบัดนั้นทำเพื่อลดขนาดของก้อนเนื้อร้าย ซึ่งการใช้เคมีบำบัดจะทำร่วมกับการฉายรังสี
  • การรักษามะเร็งกระเพาะอาหาร ด้วยการรังสี ทำเพื่อบรรเทาอาการและลดการแพร่กระจายของเนื้อร้าย
  • การรักษาด้วยการประคับประคองเพื่อบรรเทาอาการของผู้ป่วย เพื่อให้ร่างกายและอวัยวะอื่นๆที่ได้รับผลกระทบค่อยๆฟื้นตัวและหายเอง

ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร

สำหรับการป้องกันโรคมะเร็งกระเพาะอาหารนั้นยังไม่มีวิธีใดที่มีประสิทธิภาพ 100 % แต่การลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค เช่น หลีกเลี้ยงการรับประทานอาหารปิ้งย่าง หลีกเลี่ยงการกินของหมักดอง หลีกเลี่ยงกินอาหารเค็มจัด เลิกการดื่มเหล้าและเลิกการสูบบุหรี่  รับประทานอาหารประเภทผักและผลไม้เป็นประจำ

โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ( Cancer of Stomach ) คิือ การเกิดเนื้อร้ายที่กระเพาะอาหาร สาเหตุของโรคจากการกิน เค็มจัด ของหมักดอง อาหารเจือปนดินประสิว มะเร็งกระเพาะอาหาร ในระยะแรกคล้ายโรคกระเพาะอาหารธรรมดา เมื่อแสดงอาการชัดเจน จะมีเลือดปนในอุจจาระ อุจจาระมีสีดำ อาเจียนเป็นเลือด น้ำหนักลดลง ปวดท้อง มีก้อนเนื้อบริเวณลิ้นปี่ การรักษาและดูแลเมื่อเป็นมะเร็ง


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove