การกินปลาดิบสาเหตของโรคพยาธิใบไม้ในตับ ทำเกิดอาการท้องอืด ตัวเหลือง ตาเหลือง คันตามตัว ปวดท้องด้านขวาบน ซึ่งพยาธิจะทำให้ตับอักเสบ การรักษาป้องกันโรคทำอย่างไร
โรคพยาธิใบไม้ตับ เกิดจากการเจริญเติบโตของพยาธิใบไม้ในตับสายพันธุ์โอปิสทอร์คิส วิเวอร์รินี ( Ophisthorchis Viverrini ) อาศัยในร่างกายทำให้เกิดการติดเชื้อที่ท่อน้ำดี ทำให้ท่อน้ำดีอักเสบเรื้อรัง พยาธิใบไม้ตับเกิดมากกับประชากรไทย ภาคอีสาน ที่นิยมกินปลาดิบ พยาธิใบไม้ในตับสามารถอาศัยอยู่ในร่างกายมนุษย์ได้นานถึง 26 ปี
สาเหตุของโรคพยาธิใบไม้ตับ
สำหรับการติดโรคพยาธิใบไม้ตับ เกิดจากการอาศัยและเจริญเติบโตของพยาธิใบไม้ในตับในร่างกายมนุษย์ และ พยาธิใบไม้ในตับทำให้เกิดการติดเชื้อโรคภายในท่อน้ำดีของตับ ทำให้ตับอักเสบ และ เสียหาย ซึ่งพยาธิใบไม้ในตับจะอาศัยในปลาน้ำจืด เช่น ปลาตะเพียน ปลาซิว ปลาสร้อย ปลาแก้มช้ำ ปลาขาวนา และปลาขาว หรือ ปลาร้า หากรับประทานปลาเหล่านี้โดยไม่ปรุงให้สุกจะทำให้พยาธิใบไม้ในตับเข้าสู่ร่างกายได้
อาการของโรคพยาธิใบไม้ตับ
สำหรับโรคพยาธิใบไม้ในตับ จะแสดงอาการผิดปรกติของโรคที่เกิดจากตับ ซึ่งอาการของโรคจะขึ้นอยู่กับอาการอักเสบของตับว่ามากน้อยเพียงใด
การวินิจฉัยโรคพยาธิใบไม้ตับ
แนวทางการวินิจฉัยโรคพยาธิใบไม้ในตับ นั้นแพทย์จะเริ่มจากการซักประวัติของผู้ป่วย ตรวจอุจจาระ ตรวจอัลตราซาวด์ หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์
การรักษาพยาธิใบไม้ตับ
แนวทางการรักษาโรคพยาธิใบไม้ตับ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการผู้ป่วย ว่ามีอาการแทรกซ้อนและอาการติดเชื้อร่วมหรือไม่ ซึ่งการรักษาใช้ยารักษาโรคและการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับดุลย์พินิจของแพทย์ และ ความแข็งแรงของผู้ป่วย รายละเอียด ดังนี้
นอกจากนั้น การรักษาใช้การรักษาด้วยการประคับประคองตามอาการของโรค เช่น ยาแก้ปวด ต่อท่อระบายน้ำดี ลดอาการตัวเหลืองตาเหลือง หรือ เจาะน้ำออกจากช่องท้อง เป็นต้น
การป้องกันพยาธิใบไม้ตับ
แนวทางการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ในตับ คือ การป้องกันพยาธิเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งปลาน้ำจืดเป็นพาหะนำโรค แนวทางการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ในตับ มีดังนี้
โรคพยาธิใบไม้ในตับ สาเหตุเกิดจากการกินปลาดิบ ทำเกิดอาการ เช่น ท้องอืด ตัวเหลือง ตาเหลือง คันตามตัว ปวดท้องด้านขวาบน เมื่อพยาธิเข้าสู่ร่างกายทำให้ตับอักเสบ การรักษาและแนวทางการป้องกันโรค ทำอย่างไร