พยาธิในช่องคลอด ภาวะติดเชื้อปรสิตที่ระบบสืบพันธ์ของสตรี อาการคันหี ช่องคลอดเหม็น ตกขาวเป็นสีเขียว ตกขาวมีฟอง ปวดเวลาฉี่ แนวทางการรักษาและป้องกันโรคทำอย่างไร
โรคพยาธิในช่องคลอด ( Trichomoniasis ) คือ โรคจากภาวะติดเชื้อโรคที่ระบบสืบพันธ์เพศหญิง เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์อย่างไม่ปลอดภัย ซึ่งอาการที่สำคัญ คือ คันอวัยวะเพศ อวัยวะเพศมีกลิ่นเหม็น ตกขาวผิดปรกติ และ ปวดแสบเวลาปัสสาวะ สามารถเกิดได้กับทุกเพศ ทั้งเพศชายและเพศหญิง ส่วนมากเกิดกับสตรี โรคนี้สามารถกลับมาติดเชื้อซ้ำได้หลังจากรักษาหายแล้ว
สาเหตุของโรคพยาธิในช่องคลอด
โรคนี้เกิดจาก เชื้อโรคโปรโตซัว ชื่อ Trichomonas Vaginalis เป็นพยาธิที่สามารถพบในช่องคลอด หรือ น้ำอสุจิ เชืื้อโรคจะสามารถแพร่จากผู้ป่วยที่มีเชื้อสู่คนอื่นๆได้ จากการมีเพศสัมพันธ์ ซี่งเชื้อโรคจะทำให้เกิดความผิดปรกติที่ระบบสืบพันธ์ ทั้งในช่องคลอดและท่อปัสสาวะ โดยกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงการเกิดโรค มีดังนี้
- กลุ่มคนที่อายุเกิน 40 ปี
- กลุ่มคนที่มีพฤติกรรมชอบมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่ใช้สามีหรือภรรยาของตนเอง
- กลุ่มคนที่ไม่สวมถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์
- กลุ่มคนที่ทำงานเกี่ยวกับบริการทางเพศต่างๆ
อาการของผู้ป่วยโรคพยาธิในช่องคลอด
สำหรับคที่ติดพยาธิในช่องคลอด ในระยะแรกของการติดเชื้อ 30 วันแรก ไม่แสดงอาการ แต่หลังจากนั้น ผู้ป่วยจะแสดงอาการผิดปรกติต่างๆ ดังนี้
- ตกขาวมากผิดปกติ
- ตกขาวเป็นฟอง ซึ่งตกขาวมีสีต่างๆ เช่น สีขาว สีเทา สีเหลือง หรือ สีเขียว
- ตกขาวมีมีกลิ่นเหม็นคาวปลา
- เลือดออกจากช่องคลอด
- อวัยวะเพศบวม แดง
- คันที่อวัยวะเพศ
- ปัสสาวะบ่อยผิดปรกติ
- ปวดเวลาปัสสาวะ
- เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์
การตรวจวินิจฉัยโรคพยาธิในช่องคลอด
สำหรับการวินิจฉัยโรค เมื่อเกิดอาการผิดปรกติที่ช่องคลอด แพทย์จะทำการวินิจฉัย จากการซักประวัติ และ สังเกตุอาการต่างๆ จากนั้นตรวจร่างกายเบื้องต้น เพื่อการโรคต่างๆ เช่น โรคเอดส์ โรคไวรัสตับอักเสบ โรคหูด โรคเริม หนองใน เป็นต้น และ ทำการตรวจภายใน เก็บตัวอย่างน้ำเมือกจากการตกขาว เพื่อตรวจหาพยาธิ เพื่อวางแผนการรักษาอย่างถูกต้อง
การรักษาโรคพยาธิในช่องคลอด
สำหรับแนวทางการรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อพยาธิในช่องคลอด ใช้การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะเป็นหลัก และ การดูแลตนเอง ไม่ให้เกิดการติดเชื้อซ้ำ โดยแนวทางการรักษา มีดังนี้
- ให้ยา เมโทรนิดาโซล หรือ ทินิดาโซล ให้รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- ช่วงการรักษาห้ามดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันอาการคลื่นไส้ อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น
- ห้ามมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างการรักษา
- สำหรับหญิงมีครรภ์ หรือ อยู่ในระหว่าการให้นมบุตร ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานยาทุกชนิด
การป้องกันโรคพยาธิในช่องคลอด
สำหรับการป้องกันโรคพยาธิในช่องคลอด โรคนี้สาเหตุจากการติดเชื้อโรคจากการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีเชื้อโรค ดังนั้นการป้องกันโรคต้องป้องกันที่สาเหตุของการเกิดโรค โดยรายละเอียด ดังนี้
- ไม่มีเพศสัมพันธ์อย่างไม่ปลอดภัย
- ไม่เปลี่ยนคู่นอน
- สวมถุงยางอนามัย เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคจากการมีเพศสัมพันธ์
- หากมีอาการผิดปรกติจากการตกขาว หรือ ปัวสาวะแสบ ให้ปรึกษาแพทย์โดยเร็ว
พยาธิในช่องคลอด การติดเชื้อปรสิตที่ระบบสืบพันธ์ มีอาการคันหี ช่องคลอดเหม็น ตกขาวเป็นสีเขียว ตกขาวมีฟอง และ ปวดเวลาฉี่ โรคนี้รักษาอย่างไร และ การป้องกันต้องทำอะไรบ้าง
Last Updated on March 17, 2021