โยคะท่างู หรือ ท่าภุชงคาสนะ โยคะท่าพื้นฐาน ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณลำตัว แขน และไหล่ ยืด ช่วยลดอาการปวดหลัง เป็นส่วนหนึ่งของชุดท่าโยคะสุริยมันสการ
โยคะท่างู หรือ ท่าภุชงคาสนะ โยคะท่าพื้นฐาน ท่าเอนไปด้านหลัง ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณลำตัว แขน และไหล่ ยืด ช่วยลดอาการปวดหลัง การทำท่างู มักจะเป็นส่วนหนึ่งของ ชุดท่าโยคะสุริยมันสการ หรือ ชุดท่าไหว้พระอาทิตย์
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากให้รูปร่างสมส่วน หน้าอกสวย ใหญ่ขึ้น และ ก้นกระชับ คุณไม่ควรพลาดกับโยคะท่านี้ การออกกำลังกาย โยคะ ท่างู ( Cobra ) ท่านี้หากคุณฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณหัวไหล่ ข้อมือ และ นิ้วมือของคุณแข็งแรงมากขึ้น เป็นการช่วยยืดหยุ่นกล้ามเนื้อและเพิ่มความแข็งแรงให้แผ่นหลังส่วนล่าง ช่วยนวดกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้อง เพื่อลดอาการปวดประจำเดือนสำหรับคุณผู้หญิง ช่วยให้ปอดและตับทำงานดีขึ้น ลดอาการตับโต ม้ามโต สรรพคุณของโยคะท่านี้ถือว่ามีประโยชน์มาก
วิธีการฝึกโยคะท่างู
การออกกำลังกายโยคะ ท่างู (Cobra) ทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการให้รูปร่างสมส่วน กระชับสะโพก และกระชับหน้าอก เพราะขณะฝึกฝนท่านี้ ต้องเกร็งกล้ามเนื้อเกือบทุกส่วน แต่โยคะท่านี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องกระดูกสันหลัง และมีปัญหาเรื่องเส้นประสาทถูกกดทับ เพราะอาจจะทำให้บาดเจ็บเพิ่มขึ้นได้
การออกกำลังกายโยคะ ท่างู (Cobra) เรายังสามารถปรับเปลี่ยนและพลิกแพลงไปสู่ท่างูจงอางได้ โดยการงอเข่าเพื่อให้เท้าแตะศรีษะ ขึ้นอยู่กับการยืดหยุ่นของแผ่นหลังส่วนล่างของแต่ละคน ในส่วนคนที่ฝึกฝนจนชำนาญแล้ว ก็สามารถทำท่านี้ต่อเนื่องได้โดยไม่รู้สึกฝืนหรือปวดหลัง
การออกกำลังกายโยคะ ท่างู Cobra เป็นท่าที่ช่วยให้หลับสบาย การฝึกฝนโยคะอย่างสม่ำเสมอ คุณจะพบการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะรูปร่างที่ดีขึ้น ผิวพรรณดูสดใสเพราะเลือดลมไหลเวียนได้ดี ทางด้านจิตใจก็ทำให้คุณรู้สึกสงบ โยคะสอนให้มีสติ ฝึกฝนโดยใช้สมาธิอยู่กับตัวเอง อย่างน้อย 1 ชั่วโมงต่อวัน ผ่อนคลายความตึงเครียดจากภาระหน้าที่ หรือปัญหาต่างๆ ที่รับมาในแต่ละวัน เราไม่สามารถหนีหรือหลีกเลี่ยงปัญหาได้ แต่เราสามารถหาเวลาเพื่อปล่อยวาง แล้วตั้งสติได้ เพื่อหาทางออก หาทางแก้ไขปัญหา ให้ออกมาดีที่สุด
ประโยชน์ของการฝึกโยคะท่างู
ข้อควรระวังในการฝึกโยคะท่างู
โยคะ (สันสกฤต: योग) เป็นกลุ่มของการปฏิบัติหรือการประพฤติทางกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ โดยถือกำเนิดที่ประเทศอินเดีย หลายพันปีมาแล้ว วิธีการฝึกโยคะนั้นมีการได้ถ่ายทอดจากอดีตถึงปัจจุบัน ในแถบหุบเขาอินดัส วอลเลย์ มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โดยนักโบราณคดีได้ค้นพบไม้แกะสลัก และงานศิลปะประเภทรูปปั้น ที่มีการฝึกโยคะ นักปราชญ์ชาวฮิน ชื่อ ปตัญชลี ได้ปรับปรุงรูปแบบการฝึกโยคะขั้นพื้นฐาน และได้เขียนตำราสูตรการฝึกโยคะไว้ 8 ข้อ ผู้ที่ฝึกและปฏิบัติโยคะ หากเป็นชายจะเรียกว่า โยคี และหากเป็นสตรีจะเรียกว่า โยคินี โยคะมาเป็นการออกกำลังกาย จะเน้นความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกระดูกทำให้เลือดและสารอาหารไปเลี้ยงส่วนประสาท ทำให้การทำงานของต่อมต่างๆทำงานดีขึ้น ท่าต่างๆในการฝึกโยคะ จะยืดเหยียดกล้ามเนื้อตามแบบของโยคะสอดคล้องกับการหายใจ และการทำสมาธิ การฝึกโยคะจะทำให้สุขภาพจิตและสุขภาพกายดี
แหล่งอ้างอิง