ว่านชักมดลูก ( Curcuma comosa Roxb. ) สมุนไพรสำหรับสตรีแก้ปัญหาช่องคลอดหลวมไม่กระชับ สรรพคุณช่วยบีบมดลูก ขับน้ำความปลา ทำให้มดลูกเข้าอู่สำหรับสตรีหลังคลอดบุตร
ว่านชักมดลูก ( Curcuma comosa Roxb. ) สมุนไพรสำหรับสตรี มีปัญหาช่องคลอดหลวม ไม่กระชับ แก้ไขได้ด้วยว่านชักมดลูก สรรพคุณของว่านชักมดลูก เช่น แก้ท้องอืดเฟ้อ เป็นยาบีบมดลูก ทำให้มดลูกเข้าอู่สำหรับสตรีหลังคลอดบุตร แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ขับประจำเดือน แก้โรคมดลูกพิการปวดบวม ปวดท้องประจำเดือน แก้ริดสีดวงทวาร รักษาไส้เลื่อน ยาขับเลือด ยาขับลม ขับน้ำคาวปลา แก้โรคลมชัก ช่วยย่อยอาหาร แก้ตกขาว มีการวิจัยว่านชักมดลูก พบว่า มีเอสโตรเจน ซึ่งมีฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนเพศหญิง เนื่องจากมีสารออกฤทธิ์ในกลุ่มไดแอริลเฮปตานอยด์ มีฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้ว่านชักมดลูกสามารถแก้ไขปัญหาสุขภาพของสตรีวัยทองได้เป็นอย่างดี
ว่านชักมดลูก ถือเป็น สมุนไพร ชนิดหนึ่ง เป็นพืชตระกูลขิง มีหัวอยู่ใต้ดิน ว่านชักมดลูก มีอยู่ 2 สายพันธุ์ คือ ว่านชักมดลูกตัวเมีย ภาษาอังกฤษ เรียก Curcuma comosa Roxb. และ ว่านชักมดลูกตัวผู้ ภาษาอังกฤษ เรียก Curcuma latifolia Roscoe มีชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Curcuma xanthorrhiza Roxb ว่านชักมดลูกพบว่ามีการปลูกมากในจังหวัดเลย และเพชรบูรณ์ แต่เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศอินโดนีเซีย
ลักษณะของต้นว่านชักมดลูก
ว่านชักมดลูก เป็นพืชล้มลุก มีความสูงประมาณ 1 เมตร หัวของว่านชักมดลูกอยู่ใต้ดิน ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร มีลักษณะใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับกัน รูปวงรี ขนาดกว้างประมาณ 15 เซ็นติเมตรและยาวประมาณ 40 เซ็นติเมตร ก้านกยาว 20 เซ็นติเมตร
- หัวของว่านชักมดลูก อยู่ใต้ดิน ขนาดยาวถึง 10 เซ็นติเมตร เนื้อสีส้มถึงสีส้มแดง หัวใต้ดินของว่านชักมดลูกตัวผู้ จะมีลักษณะจะมีลักษณะต่างจากตัวเมียตรงที่ หัวใต้ดินจะกลมแป้นมากกว่า และแขนงจะยาวมากกว่า หัวใต้ดินของว่านชักมดลูกตัวเมีย จะมีลักษณะของหัวกลมรีตามแนวตั้ง มีแขนงสั้น
- ใบว่านชักมดลูก เป็น ใบเดี่ยว เรียงสลับ ออกเป็นกระจุกเหนือดิน รูปวงรีหรือรูปวงรีแกมใบหอกกว้าง 15 – 20 ซม. ยาว 40 – 90 ซม. มีแถบสีม่วงกว้างได้ถึง 10 ซม. บริเวณกลางใบ ดอกช่อเชิงลด ออกที่บริเวณกาบใบ
- ก้านดอกว่านชักมดลูก ยาว 15 – 20 ซม. กลีบดอกสีแดงอ่อน ใบประดับสีม่วง เกสรตัวผู้ที่เป็นหมัน แปรรูปคล้ายกลีบดอกสีเหลือง ผลแห้ง แตกได้
การนำเอาว่านชักมดลูกมาใช้ประโยชน์ เราสามารถนำส่วน เหง้าและราก มาใช้ประโยชน์ทางสมุนไพร รายละเอียด ดังนี้
- รากของว่านชักมดลูก ใช้แก้ท้องอืดเฟ้อได้ดี
- เหง้าของว่านชักมดลูก ใช้เป็นยาบีบมดลูก สำหรับทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว ใช้กับสตรีหลังคลอดบุตร ช่วยให้ประจำเดือนมาตามปรกติ รักษาโรคมดลูกพิการปวดบวม แก้ปวดประจำเดือน ใช้รักษาริดสีดวงทวารหนัก รักษาไส้เลื่อน เป้นยาขับเลือด ช่วยขับลม ขับน้ำคาวปลา แก้โรคลมชัก ช่วยย่อยอาหาร
สรรพคุณทางยาของว่านชักมดลูก
- ช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น
- ช่วยรักษาอาการมดลูกทรุดตัว หรือ มดลูกต่ำ
- ช่วยขยายหน้าอก
- ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส มีเลือดฝาด
- ช่วยลดรอยเหี่ยวย่น ฝ้า และ รอยดำ
- ช่วยลดอาการอารมณ์แปรปรวนของสตรี เช่น อารมณ์ฉุนเฉียว จิตใจห่อเหี่ยว โกรธง่าย อ่อนไหวง่าย ให้หายไป
- ช่วยกระชับหน้าท้องหลังคลอดลูก
- ช่วยกระชับช่องคลอด ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็ว
- ช่วยป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก
- ช่วยทำให้ซีสต์ในช่องคลอดฝ่อ
- ช่วยเพิ่มน้ำหล่อลื่นในช่องคลอด
- ช่วยแก้อาการประจำเดือนมาไม่ปกติ
- แก้อาการปวดท้องระหว่างมีประจำเดือน
- ช่วยแก้อาการตกขาว
- ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศในสตรี
- ช่วยขับน้ำคาวปลา
- ช่วยแก้อาหารเป็นพิษ
- ช่วยป้องกันและรักษาโรคกระดูกพรุน
- ช่วยบำรุงหลอดเลือด
ข้อควรระวังในการบริโภคยาว่านชักมดลูก
- จะทำให้มีการตกขาวมากกว่าปกติ
- อาจทำให้เวียนหัว ปวดหัว มีไข้ ไอ แต่อาการนี้จะเกิดกับสตรีที่ไม่แข็งแรง หากพบปัญหานี้ให้ลดปริมาณการบริโภค
- อาจมีผื่นขึ้นที่ผิวหนังและลำตัว หากมีผื่นมาก แนะนำให้ลดปริมาณการบริโภคลง
- อาจปวดหน้าอก รู้สึกตึงหน้าอก ปวดมดลูก
- สตรีในวัยทอง ที่หมดประจำเดือนไปแล้ว อาจจะมีประจำเดือนกลับมาได้