ติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( E.coli ) เป็นสาเหตุของอาการท้องเสีย อุจจาระร่วง โรคทั่วไปที่พบบ่อยในช่วงอากาศร้อน อาหารเน่าเสียบ่อย การติดเชื้ออีโคไลรักษาอย่างไรE.Coli โรค การติดเชื้อแบคทีเรีย แบคทีเรียอีโคไล

แบคทีเรียอีโคไล ภาษาอังกฤษ เรียก Escherichia coli เรียกย่อๆว่า E. coli คือ เชื้อแบคทีเรียประเภทหนึ่งพบในลําไส้ของสิ่งมีชีวิตในสัตว์เลือดอุ่นรวมถึงมนุษย์ โดยปกติแล้วแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) จะไม่ทําอันตรายต่อร่างกายของสิ่งมีชีวิต หากอยู่ในลําไส้ของสิ่งมีชีวิตจะมีประโยชน์ช่วยย่อยอาหาร แต่หากแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) เข้าสู่อยวัยวะอื่นๆของร่างกาย จะทำให้เกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรง เช่น ทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ติดเชื้อในกระแสเลือด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

เชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) เป็นเชื้อแบคทีเรียที่สร้างสารพิษ ซึ่งทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหารของมนุษย์ ซึ่งอาการที่พบบ่อย คือ ท้องร่วง และ อุจจาระมีเลือดปน และในบางรายอาจมีอาการรุนแรง ทำให้เกิดความผิดของไต

กลไกของการติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli )

เชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) จะสร้างชิกา ซึ่งสามารถแบ่งได้ 2 กลุ่ม คือ STX1 ( Shiga toxin 1 ) และ STX2 ( Shiga toxin 2 ) เชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) จะสร้างโปรตีนชื่อ อินติมิน ( Intimin ) ซึ่งโปรตีนอินติมินใช้ในการเข้าไปเกาะเซลล์ที่เยื่อบุผนังของลำไส้ และ จะสร้างสารพิษ ชนิดเอนเทอโรฮีโมลัยซิน ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกและไตวายในที่สุด

ชนิดของเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli )

เชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) สามารถแบ่งได้ 6 ชนิด ประกอบด้วย  Enterotoxigenic E coli ( ETEC ), Enterohemorrhagic E coli ( EHEC ) , Enteropathogenic E coli ( EPEC ) , Enteroinvasive E coli ( EIEC ) , Enteroaggregative E coli ( EAEC ) , Shiga-toxin producing E coli ( STEC ) รายละเอียดของเชื้อโรคแต่ละชนิด มีดังนี้

  • ETEC ( Enterotoxigenic E coli ) เชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) ชนิดนี้ ทำให้อุจจาระเหลว เชื้อโรคชนิดนี้จะเข้าไปเกาะที่ผนังของลำไส้เล็กและปล่อยสารพิษเข้าไปทำลายเยื่อบุลำไส้ เป็นสาเหตุของอาการถ่ายอุจจาระเหลว
  • EHEC ( Enterohemorrhagic E coli ) เชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) ชนิดนี้ ทำให้มีการถ่ายอุจจาระเป็นเลือด เชื้อโรคชนิดนี้จะสร้างสารพิษในลำไส้ทำให้มีเลือดออกเวลาถ่ายอุจจาระ
  • STEC ( Shiga-toxin producing E coli ) เชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) ชนิดนี้ จะเข้าไปจับที่ผนังของลำไส้ใหญ่ จากนั้นจะปล่อยสารพิษหลายชนิด ซึ่งสารพิษเป็นพิษต่อผนังหลอดเลือด
  • EPEC ( Enteropathogenic E coli ) เชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) ชนิดนี้ จะทำให้ถ่ายอุจจาระเหลว เชื้อโรคชนิดนี้จะเกาะอยู่ตามลำไส้เล็ก
  • EIEC ( Enteroinvasive E coli ) เชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) ชนิดนี้ ทำให้เกิดอาการถ่ายอุจจาระเหลว เชื้อโรคจะเข้าไปทำลายลำไส้ใหญ่ และปล่อยสารพิษ จนทำให้เกิดอาการถ่ายอุจจาระเหลว
  • EAEC ( Enteroaggregative E coli ) เชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) ชนิดนี้ จะเกาะอยู่ในลำไส้ใหญ่และลำไส้เล็ก และปล่อยสารพิษ(toxin) เข้าไปทำลายเยื่อบุลำไส้

สาเหตุของการติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli )

โดยปกติแล้วแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) จะอาศัยอยู่ในลําไส้ของสิ่งมีชิวิต เช่น สุกร โค กระบือ เป็นต้น และ เชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) จะถูกขับออกจากสิ่งมีชีวิตผ่านทางอุจจาระ เมื่ออุจจาระลงดินหรือลงสู่แหล่งน้ำ หากสภาพสิ่งแวดล้อมเหมาะแก่การเจริญเติบโตของแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) ก็จะเป็นแหล่งเพาะแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) ชั้นดี และ เชื้อเหล่านี้จะสามารถปนเปื้อนอาหารและน้ำดื่ม และสามารถเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ได้ในที่สุด

ช่องทางการเข้าสู่ร่างกายของเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) สามารถเข้าสู่ร่างกายมนุษย์โดยทางอาหารหรือการสัมผัส   สามารถสรุปสาเหตุทั่วไปที่อาจทำให้ได้รับเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) ได้ดังนี้

  • การรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ไม่สะอาด ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli )
  • การสัมผัสเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) และ เข้าสู่ร่างกายในช่องทางต่างๆ เช่น แผล ปาก หู จมูก เป็นต้น
  • การสัมผัสมูลสัตว์ที่มีเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli )ปะปน
  • การสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli )
  • การว่ายน้ำในสระน้ำหรือแหล่งน้ำที่มีเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli )ปะปน

อาการของผู้ป่วยติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli )

สำหรับอาการของผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ การแสดงอาการของโรคมีตั้งแต่ไม่แสดงอาการใดๆเลยจนถึงเกิดอาการรุนแรง เช่น ขับถ่ายเหลวเป็นน้ำ อาการคลื่นไส้อาเจียน มีไข้ต่ำ ปวดท้อง ขับถ่ายมีเลือดปน ซึ่งความรุนแรงต่างๆของอาการนั้นขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกายของแต่ละคน

หากการติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) เกิดกับเด็กทารกหรือเด็กเล็ก อาการมักจะไม่แน่นอน บางรายคล้ายอาการของเด็กโต คือ ท้องร่วง ต่อมาจะเกิดทางเดินปัสสาวะอักเสบ และหากเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) เข้ากระแสเลือด จะทำให้มีไข้สูง ตาเหลือง หายใจลำบาก เบื่ออาหาร อาเจียน ถ่ายอุจจาระเหลว มีอาการซึมเศร้า และหากรักษาล่าช้า อาจทำให้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นอันตรายถึงชีวิตได้

การรักษาผู้ป่วยติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli )

สำหรับแนวทางการรักษาอาการของผู้ป่วยที่ติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) ไม่จำเป้นต้องใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษา เนื่องจากอาการของโรคเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) สร้างสารพิษออกมา การให้ยาปฏิชีวนะในการรักษาอาจเป็นการกระตุ้นให้ เชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) ปล่อยสารพิษออกมามากขึ้น ซึ่งทำให้อาการของโรคหนักมากขึ้น การรักษาใช้การประคับประครองการสูญเสียน้ำในร่างกายควบคู่กับควบคุมไม่ให้เกิดอาการแทรกซ้อนต่างๆ เช่น ให้น้ำเกลือร่วมกับการให้ยาลดไข้ และร่างกายจะมีกระบวนการในการขับสารพิษออกจากร่างกายทำให้อาการดีขึ้นและหายเป็นปรกติได้เอง

การป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli )

สำหรับแนวทางการป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) สามารถทำได้โดยการหลีกเลี่ยงการรับสารพิษหรือสิ่งสกปรกเข้าสู่ร่างกายในช่องทางต่างๆ รวมถึงทำร่างกายให้แข็งแรงสามารถรับมีกับเชื้อโรคได้ ซึ่งสามารถสรุปแนวทางต่างๆได้ดังนี้

  • ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังจากการเข้าห้องน้ำ รวมถึงหลังจากการสัมผัสสัตว์ ก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง
  • ถ่ายอุจจาระลงในห้องส้วมที่ถูกสุขลักษณะ โดยไม่ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงในแหล่งน้ำ
  • รับประทานอาหารที่ปรุงสุก และถูกสุขลักษณะ
  • ควรเก็บอาหารประเภทเนื้อสัตว์ไว้ในอุณหภูมิต่ำ เพื่อลดการเกิดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) ในเนื้อสัตว์
  • ล้างผักสดให้สะอาด โดยการปล่อยน้ำไหลผ่านผักประมาณ 2 นาที
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • พักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
  • หากมีอาการท้องเสียขั้นรุนแรง ควรไปพบแพทย์โดยด่วน และอย่ารับประทานยาระงับถ่ายอุจจาระ

การติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) ไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัว เพราะ เชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli ) เป็นเชื้อโรคที่พบเป็นปกติทุกคนอยู่แล้ว ก่อโรคแต่ไม่มีความรุนแรง ดังนั้น ไม่ควรจะตื่นตระหนกกับการติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ( Escherichia coli )

Beezab.com แหล่งความรู้ด้านสุขภาพ สมุนไพร โรค แม่และเด็ก อาหารเพื่อสุขภาพ โยคะ ธรรมะครูบาอาจารย์ ดูแลตัวเองเบื้องต้นด้วยข้อมูลดีๆ เนื้อหาในเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อการศึกษาหรือเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเท่านั้น เราไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือ การรักษาโรคแต่อย่างใด หากคุณมีอาการเจ็บป่วยหรือรู้สึกไม่สบาย ควรคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานของเรา

Beezab.com source of health knowledge, herbs, diseases, mothers and children, healthy food, yoga and Dhamma.  The content on this page is for educational purposes only. We are not intended to be a substitute for medical advice. Diagnosis of disease or treatment of disease in any way If you are sick, You should consult a doctor.

ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักของเรา ถุงกระสอบทรัพย์ทวี จำหน่ายถุงกระสอบมีซิบ สำหรับย้ายหอย้ายบ้าน ย้ายสำนักงาน มีสินค้าประกอบด้วย ถุงสายรุ้ง ถุงไนลอน ถุงการ์ตูน และ ถุงล้อลาก

ภาวะติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส ( Staphylococcus aureus ) MRSA อาการแผลอักเสบ ปอดอักเสบ อาหารเป็นพิษ หากเชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือดอาจทำให้เสียชีวิตได้

mRSA ติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส Staphylococcus aureus

โรคติดเชื้อMRSA คือ ภาวะการติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส ( Staphylococcus aureus ) ซึ่งเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้เป็นเชื้อโรคที่พบในสัตว์จำพวก ม้า แมว หมู แกะ กระต่าย สามารถติดต่อสู่มนุษย์ได้และแสดงอาการต่างๆจากน้อยจนถึงขั้นอาการรุนแรง เช่น ผิวหนังอักเสบ ฝี อาหารเป็นพิษ ปอดบวม ลิ้นหัวใจอักเสบ ข้ออักเสบ ติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งสามารถทำให้เสียชีวิตได้

การติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส ( Staphylococcus aureus ) สามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ  แต่เชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส ( Staphylococcus aureus )สามารถทนทานต่อยาปฏิชีวนะต่างๆ รวมถึง ยาเมธิซิลิน และยาปฏิชีวนะอื่นๆที่ใช้กันทั่วไป การติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส ( Staphylococcus aureus ) ส่วนมากเกิดขึ้นในคนที่ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล อาศัยอยู่ภายใน บ้านพักดูแลผู้ป่วย หรือได้รับการรักษาในศูนย์อนามัยที่มีการจัดให้เป็นศูนย์ล้างไต เป็นต้น

ชนิดของเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส ( Staphylococcus aureus )

เราสามารถแบ่งชนิดของเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส ( Staphylococcus aureus ) ได้ 2 ชนิด ประกอบด้วย HA-MRSA และ CA-MRSA โดยรายละเอียดชนิดของแบคทีเรีย Staphylococcus aureus มีดังนี้

  • HA-MRSA เป็นเชื้อแบคทีเรียที่เกิดในโรคพยาบาล มักเกิดในกลุ่มผู้ป่วยที่อาศัยอยู่ในสถานพยาบาล เช่น โรงพยาบาล ศูนย์ดูแลผู้ป่วย หรือ ศูนย์ล้างไต เป็นต้น
  • CA-MRSA เป็นเชื้อแบคทีเรียที่เกิดในชุมชน มักเกิดเชื้อในโรงเรียนมัธยม สนามกีฬา ผู้ที่อาศัย คุก หรือ ค่ายทหาร จะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อ MRSA ที่สูงขึ้น โดยจะติดต่อผ่านทางการสัมผัส

สาเหตุของการติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส ( Staphylococcus aureus )

สาเหตุของการติดเชื้อมาจากแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส (Staphylococcus aureus) ซึ่งเป็นเชื้อโรคที่ดื้อยาปฏิชีวนะในกลุ่มเมธิซิลิน เราพบว่าเชื้อโรคสามารถแพร่จากสัตว์สู่คนได้ โดยการติดเชื้อสแตฟฟิโลคอกคัส (Staphylococcus aureus) พบได้บ่อยในคนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

แบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส (Staphylococcus aureus) เป็นแบคทีเรียอาศัยอยู่ในผิวหนังหรือโพรงจมูกของคนที่มีสุขภาพดี โดยคนที่มีสุขภาพดีเหล่านี้ไม่แสดงอาการแต่เป็นพาหะนำเชื้อโรค ซึ่งเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น การติดเชื้อที่ผิวหนัง ระบบปัสสาวะอักเสบ ปอดอักเสบ และอาการติดเชื้อในกระแสเลือด รวมถึงอาการอาหารเป็นพิษ

กลุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส ( Staphylococcus aureus )

ส่วนมากกล่มที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส ( Staphylococcus aureus ) คือ กลุ่มคนที่มีทำงานหรือเกี่ยวข้องกับสถานพยาบาล เพราะจากสถิติการเกิดโรคของผู้ป่วย MRSA พบในโรงพยาบาล ซึงสามารถสรุปกลุ่มที่มีความเสี่ยงการติดเลื้อ มีดังนี้

  • ผู้ป่วยอ่อนแอ ที่อยู่ห้อง ICU
  • ผู้ป่วยที่ต้องรับการผ่าตัด
  • ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดทางกระดูก
  • ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการล้างไต
  • ผู้ที่ติดยาเสพติด
  • กลุ่มบุลลากรที่ทำงานในสถานพยาบาล เช่น แพทย์ พยาบาล เภสัชกร นักเทคนิคการแพทย์ ผู้ช่วยพยาบาล เป็นต้น

อาการผู้ป่วยติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส ( Staphylococcus aureus )

สำหรับลักษณะอาการของผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส ( Staphylococcus aureus ) เข้าสู่ร่างกาย ลักษณะทั่วไปของอาการ ผู้ป่วยจะเกิดตุ่มเล็กๆเหมือนโดนแมลงสัตว์กัดต่อย ลักษณะเป็นแผลแดง บวม และมีอาการปวด รู้สึกอุ่นๆที่แผล จากนั้นแผลจะมีหนอง และ อาจมีไข้ขึ้น

หากเป็นแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส ( Staphylococcus aureus ) ชนิด HA-MRSA ผู้ป่วยจะแสดงอาการเจ็บหน้าอก ไอ หายใจลำบาก อ่อนเพลีย ไข้หนาวสั่น ปวดหัว มีผื่นขึ้น และ เป็นแผลเรื้อรัง

หากเชื้อโรคลามเข้าสู่อวัยวะอื่นๆจะแสดงอาการตามอวัยวะต่างๆ เช่น ปอดอักเสบ อาหารเป็นพิษ ข้อกระดูกอักเสบ และ ติดเชื้อในกระแสเลือด เป็นต้น

การรักษาผู้ป่วยติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส ( Staphylococcus aureus )

แนวทางการรักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส ( Staphylococcus aureus ) สามารถใช้การประคับประครองตามอาารร่วมกับการใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น การใช้ยากลุ่ม penicillin erythromycin  ทั้งนี้ยาที่ใช้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส ( Staphylococcus aureus )

การป้องการติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส ( Staphylococcus aureus )

แนวทางการติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส ( Staphylococcus aureus ) สามารถทำได้ด้วยการทำร่างกายให้แข็งแรงและหลีกเลี่ยงปัจจัยการรับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย โดยแนวทางการป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส ( Staphylococcus aureus )  มีดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะที่ไม่จำเป็น เพราะ การใช้ยาปฏิชีวนะที่ไม่จำเป็น ทำให้เกิดผลเสีย เนื่องจากอาจทำให้เชื้อโรคดื้อยา
  • ป้องกันการเกิดแผล หากเกิดแผลต้องรีบรักษา อย่างให้แผลติดเชื้อ รักษาแผลให้สะอาด
  • ไม่ใช้แก้วน้ำ หรือ ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • พักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องากรของร่างกาย
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
  • ดูแลสุขอนามัยพื้นฐานให้สะอาดปราศจากแหล่งเชื้อโรค

มาตรการที่ตั้งเป้าไว้ก็เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอกคัส ( Staphylococcus aureus ) MRSA รวมถึงการติดเชื้อที่เกี่ยวข้อง MRSA ในชุมชนด้วย สำหรับการป้องกันการติดเชื้อชนิดที่สองนั้น สิ่งสำคัญ คือ การรักษาบ้านเรือนให้สะอาด และปราศจากฝุ่นละออง ควรซักล้าง ทำความสะอาด และฆ่าเชื้อพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อย ๆ (เช่น โถส้วม ห้องอาบน้ำ) ของเล่นเด็ก และผ้าปูที่นอน (ด้วยน้ำยาทำความสะอาดภายในบ้านแบบเจือจาง) เป็นประจำ

Beezab.com แหล่งความรู้ด้านสุขภาพ สมุนไพร โรค แม่และเด็ก อาหารเพื่อสุขภาพ โยคะ ธรรมะครูบาอาจารย์ ดูแลตัวเองเบื้องต้นด้วยข้อมูลดีๆ เนื้อหาในเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อการศึกษาหรือเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเท่านั้น เราไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือ การรักษาโรคแต่อย่างใด หากคุณมีอาการเจ็บป่วยหรือรู้สึกไม่สบาย ควรคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานของเรา

Beezab.com source of health knowledge, herbs, diseases, mothers and children, healthy food, yoga and Dhamma.  The content on this page is for educational purposes only. We are not intended to be a substitute for medical advice. Diagnosis of disease or treatment of disease in any way If you are sick, You should consult a doctor.

ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักของเรา ถุงกระสอบทรัพย์ทวี จำหน่ายถุงกระสอบมีซิบ สำหรับย้ายหอย้ายบ้าน ย้ายสำนักงาน มีสินค้าประกอบด้วย ถุงสายรุ้ง ถุงไนลอน ถุงการ์ตูน และ ถุงล้อลาก


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove