ชะอม Climbing Wattle สมุนไพร นิยมนำมาทำอาหาร ต้นชะอมเป็นอย่างไร สรรพคุณของชะอม มีสารต้านอนุมูลอิสระ บำรุงเส้นผม ช่วยการขับถ่าย แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขับลมชะอม สมุนไพร สรรพุคณของชะอม

ต้นชะอม ภาษาอังกฤษ เรียก Climbing Wattle ชื่อวิทยาศาสตร์ของชะอม คือ Acacia pennata (L.) Willd สำหรับชื่อเรียกอื่นๆของชะอม เช่น ผักหละ อม ผักขา พูซูเด๊าะ โพซุยโดะ เป็นต้น ชะอมเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศเขตร้อนแถบเอเชยตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งยอดอ่อนชะอม นิยมนำมาทำอาหารรับประทาน มีเมนูอาหารหลายเมนูที่มีส่วนประกอบของชะอม เช่น ไข่ทอดชะอม แกงส้มชะอมกุ้ง ชะอมชุบไข่  แกงส้มชะอมไข่ รวมถึงนำยอดอ่อนชะอมมาลวกเป็นผักจิ้มกับน้ำพริก เป็นต้น

ชะอม เป็นผักพื้นบ้าน ริมรั่ว เป็นพืชพื้นบ้าน ปลูกง่าย ชะอมไม่ชอบน้ำท่วมขัง ดังนั้นการปลูกชะอม ต้องยกร่องสวน และเว้นระยะห่างให้พอดี ต่อการเดินเก็บชะอม อย่าปลูกชิดกันเกินไปเนื่องจากชะอมมีหนาม ชะอม 1 ไร่ สามารถปลูกได้ถึง 2,000 ต้น การปลูกชะอมง่ายไม่ต้องรดน้ำบ่อย 2 ถึง 3 วัน ค่อยให้น้ำครั้งหนึ่งก็ได้

ลักษณะชองต้นชะอม

ต้นชะอม ไม้พุ่มขนาดไม่ใหญ่ สามารถขยายพันธ์ได้โดยการปักชำ การเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง และการโน้มกิ่งลงดิน สามารถเจริญเติบดตได้ในทุกสภาพดิน ลักษณะของต้นชะอม มีดังนี้

  • ลำต้นชะอม ลักษณะเป็นไม้พุ่ม ลำต้นกลม กิ่งก้านของชะอมมีหนามแหลม
  • ใบชะอม ลักษณะ เป็นใบประกอบขนาดเล็กคล้ายใบกระถิน ใบอ่อนมีกลิ่นฉุน ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม
  • ดอกชะอม ออกดอกเป็นช่อ ดอกออกตามซอกกิ่ง ดอกสีขาว ขนาดเล็ก
  • ผลชะอม ลักษณะเป็นฝักยาว แต่ฝักชะอมจะมีขนาดเล็กกว่าฝักกระถิน

คุณค่าทางโภชนาการของชะอม

สำหรับการบริโภคชะอมเป็นอาหาร นิยมรับประทานใบชะอมเป็นอาหาร ซึ่งเป็นใบส่วนยอดอ่อน นักโภชนาการได้ศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของใบชะอม ขนาด 100 กรัม พบว่า ให้พลังงานมากถึง 57 กิโลแคลอรี่ และ มีสารอาหารสำคัญประกอบด้วย กากใยอาหาร 5.7 กรัม ฟอสฟอรัส 80 กรัม แคลเซียม 58 กรัม ธาตุเหล็ก 4.1 มิลลิกรัม วิตามินเอ 10066 IU (หน่วยสากล) วิตามินบี1 0.05มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.25 มิลลิกรัม วิตามินบี 31.5 มิลลิกรัม วิตามินบี 58 มิลลิกรัม

สรรพคุณของชะอม

สำหรับการใช้ประโยชน์จากชะอมด้านการบำรุงร่างกายและการรักษาโรค สามารถนำมาใช้ประโยชน์จาก ยอดอ่อนชะอม(ใบชะอม) และ รากชะอม ซึ่งสรรพคุณของชะอม มีดังนี้

  • รากชะอม สรรพคุณแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ลดการปวดท้อง และช่วยขับลมในลำไส้ ช่วยบำรุงเส้นเอ็น ช่วยแก้อาการลิ้นอักเสบเป็นผื่นแดง
  • ยอดอ่อนชะอม สรรพคุณมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย ป้องกันมะเร็ง ช่วยลดความร้อนในร่างกาย ลดไข้ เป็นยาอายุวัฒนะ
    ชะอม ช่วยในการขับถ่าย แก้โรคท้องผูก และ ช่วยบำรุงเส้นผม

โทษของชะอม

สำหรับการรับประทานชะอมถึงจะมีสรรพคุณในการรักษาโรคต่างๆมากมาย แต่เนื่องจากชะอมเองมีกรดยูริกสูง หากบริโภคมากเกินไปก็จะส่งผลเสียกับร่างกายได้ ข้อควรระวังในการบริโภคชะอม มีดังนี้

  1. ชะอมจะทำให้น้ำนมแห้ง คุณแม่หลังคลอดไม่ควรรับประทานชะอม
  2. การรับประทานชะอมในช่วงฤดูฝน ชะอมจะมีรสเปรี้ยวทำให้ปวดท้อง
  3. ผู้ป่วยโรคเก๊าฑ์ไม่ควรรับประทานชะอมเป็นอาหาร เนื่องจากมีกรดยูริกสูง

Beezab.com แหล่งความรู้ด้านสุขภาพ สมุนไพร โรค แม่และเด็ก อาหารเพื่อสุขภาพ โยคะ ธรรมะครูบาอาจารย์ ดูแลตัวเองเบื้องต้นด้วยข้อมูลดีๆ เนื้อหาในเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อการศึกษาหรือเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเท่านั้น เราไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือ การรักษาโรคแต่อย่างใด หากคุณมีอาการเจ็บป่วยหรือรู้สึกไม่สบาย ควรคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานของเรา

Beezab.com source of health knowledge, herbs, diseases, mothers and children, healthy food, yoga and Dhamma.  The content on this page is for educational purposes only. We are not intended to be a substitute for medical advice. Diagnosis of disease or treatment of disease in any way If you are sick, You should consult a doctor.

ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักของเรา ถุงกระสอบทรัพย์ทวี จำหน่ายถุงกระสอบมีซิบ สำหรับย้ายหอย้ายบ้าน ย้ายสำนักงาน มีสินค้าประกอบด้วย ถุงสายรุ้ง ถุงไนลอน ถุงการ์ตูน และ ถุงล้อลาก

กระเจี๊ยบเขียว นิยมรับประทานผลเป็นอาหาร ต้นกระเจี๊ยบเขียวเป็นอย่างไร คุณค่าทางโภชนาการ สรรพคุณเป็นยาระบาย บำรุงสมอง โทษของกระเจี๊ยบเขียวมีอะไรบ้างกระเจี๊ยบเขียว ผักสด สมุนไพร สรรพคุณของกระเจี๊ยบเขียว

ต้นกระเจี๊ยบเขียว ภาษาอังกฤษ เรียก Lady‘s Finger ชื่อวิทยาศาสตร์ของกระเจี๊ยบเขียว คือ Abelmoschus esculentus Moench. สำหรับชื่อเรียกอื่นๆของกระเจี๊ยวเขียว เช่น กระเจี๊ยบมอญ กระเจี๊ยบ มะเขือมื่น ส้มพม่า มะเขือหวาย มะเขือมอญ มะเขือพม่า มะเขือละโว้ กระต้าด ถั่วเละ เป็นต้น กระเจี๊ยบเขียว สมุนไพร สรรพคุณ ขับสารพิษในร่างกาย บำรุงกระดูกและฟัน บำรุงสมอง ยาระบาย รักษาโรคกระเพาะ ลำไส้อักเสบ ลดความดันโลหิต ถ่ายพยาธิ แก้ท้องผูก บำรุงตับ

ผลกระเจี๊ยบเขียว นิยมนำมาทำอาหาร โดยใช้ลวกเป็นผักเคียงกับน้ำพริก นอกจากนี้ยังนิยานำมาทำอาหาร หลายชนิด เช่น แกงส้ม แกงใส่ปลาย่าง กระเจี๊ยบเขียวหากกินกับ น้ำพริกกะปิ ปลาทู จะให้รสชาติที่ดีมาก กรเจี๊ยบเขียวเส้นมีใยอาหารตามธรรมชาติ ช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย มีแคลเซียมช่วยในการบำรุงกระดูกและฟัน และยังมี วิตามินต่างๆสูง และนอกจากนั้นยังมีโฟเลตสูง ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง บำรุงสมอง และจำเป็นต่อทารกในครรถ์

ลักษณะของต้นกระเจี๊ยบเขียว

ต้นกระเจี๊ยบเขียว เป็นพืชล้มลุก อายุสั้นเพียง 1 ปี สามารถขยายพันธ์โดยการเพาะเมล็ดพันธ์ ลักษณะของต้นกระเจี๊ยบเขียว มีดังนี้

  • ลำต้นกระเจี๊ยบเขียว ลำต้นตั้งตรงความสูงประมาณ 1 เมตร ลักษณะเป็นไม้เนื้ออ่อน เปลือกลำต้นบาง เนื้อลำต้นมีสีขาวนวล
  • ใบกระเจี๊ยบเขียว ลักษณะเป็นใบเดี่ยว คล้ายใบละหุ่ง คือ ใบกลมเป็นแฉกแบบร่องลึก ปลายใบแหลม ใบหยักแหลมคล้ายฟันเลื่อย โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจ ผิวใบหยาบสากมือ ใบมีสีเขียว
  • ดอกกระเจี๊ยบเขียว ลักษณะดอกเป็นดอกเดี่ยว ออกดอกตามซอกใบ ดอกมีสีเหลืองอมขาว บริเวณกลางดอกมีสีม่วง
  • ผลกระเจี๊ยบเขียว ลักษณะเป็นฝัก เจริญเติบโตมาจากดอก ฝักเรียวยาวปลายฝักแหลม เหมือนรูปนิ้วมือ ฝักมีขนอ่อนๆทั่วฝัก มีสันเป็นเหลี่ยมตามยาว 5 เหลี่ยม ฝักกระเจี๊ยบมีทรงยาวสีเขียว

คุณค่าทางโภชนาการของกระเจี๊ยบเขียว

กระเจี๊ยบเขียวนิยมรับประทานผลสดกระเจี๊ยบเขียวเป็นผักสด ซึ่งนักโภชนาการได้ศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของผลกระเจี๊ยบเขียว ขนาด 100 กรัม พบว่าให้พลังงาน พลังงาน 33 กิโลแคลอรี มีสารอาหารสำคัญ ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 7.45 กรัม น้ำตาล 1.48 กรัม กากใยอาหาร 3.2 กรัม ไขมัน 0.19 กรัม โปรตีน 1.93 กรัม น้ำ 89.58 กรัม วิตามินเอ 36 ไมโครกรัม วิตามินบี 1 0.2 มิลลิกรัม วิตามินบี 2 0.06 มิลลิกรัม วิตามินบี 3 1 มิลลิกรัม วิตามินบี 6 0.215 มิลลิกรัม วิตามินซี 23 มิลลิกรัม วิตามินอี 0.27 มิลลิกรัม วิตามินเค 31.3 ไมโครกรัม ธาตุแคลเซียม 82 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 0.62 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 57 มิลลิกรัม ธาตุโพแทสเซียม 299 มิลลิกรัม และธาตุสังกะสี 0.58 มิลลิกรัม

ฝักของกระเจี๊ยบเขียว มีเมือก ซึ่งมีสารประเภท เพ็กติน ( Pectin ) และกัม ( Gum ) ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารและลำไส้  ช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ รักษาระดับความดันให้สมดุล เป็นยาบำรุงสมองเป็นยาระบาย แก้โรคพยาธิตัวจี๊ด

สรรพคุณของกระเจียบเขียว

สำหรับการใช้ประโยชน์ด้านสมุนไพรจากกระเจี๊ยบเขียว สามารถใช้ประโยชน์จาก ฝักกระเจี๊ยบเขียว ใบกระเจี๊ยบเขียว รากกระเจี๊ยบเขียว และ เมล็ดกระเจี๊ยบเขียว สรรพคุณของกระเจี๊ยบเขียว มีดังนี้

  • ฝักของกระเจี๊ยบเขียว มีเมือก ซึ่งมีสารประเภท เพ็กติน (Pectin) และกัม (Gum) ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารและลำไส้  ช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ รักษาระดับความดันให้สมดุล เป็นยาบำรุงสมองเป็นยาระบาย แก้โรคพยาธิตัวจี๊ด
    รับประทานฝักกระเจี๊ยบ 10 -15 ฝัก ตอนเย็นหรือก่อนนอน สามารถ ลดอาการท้องผูก
    รับประทานฝักกระเจี๊ยบ 3 – 5 ฝัก ก่อนอาหาร ทุกวัน สามารถ รักษา แผลในกระเพาะอาหาร
    รับประทานฝักกระเจี๊ยบ 10 – 15 ฝัก ทุกวัน สามารถ บำรุงตับ
    รับประทานฝักกระเจี๊ยบ 5 ฝัก ก่อนอาหาร 3 มื้อ ติดต่อกันทุกวัน สามารถ กำจัด พยาธิตัวจี๊ด
    รับประทานฝักกระเจี๊ยบ 30 – 40 ฝัก ตอนเย็น หรือ ก่อนนอน สามารถ ดีท็อกซ์ลำไส้ ขับสารพิษ อุจจาระตกค้าง
  • ใบกระเจี๊ยบเขียว สรรพคุณ ลดอาการอักเสบปวดบวมได้ และช่วยทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น ช่วยขับเหงื่อ รักษาโรคปากนกกระจอก
  • รากกระเจี๊ยบเขียว สรรพคุณรักษาแผลพุพอง ช่วยขับปัสสาวะ รักษาโรคซิฟิลิส
  • เมล็ดกระเจี๊ยบเขียว สรรพคุณแก้อาการคัน ช่วยขับปัสสาวะ
  • ยางจากฝักกระเจี๊ยบเขียว สรรพคุณรักษาแผล ช่วยทำให้แผลหายเร็ว
  • ดอกกระเจี๊ยบ สรรพคุณรักษาฝี ช่วยขับปัสสาวะ

โทษของกระเจี๊ยบเขียว

การรับประทานกระเจี๊ยบเขียว หรือ ใช้ประโยชน์ส่วนต่างๆของกระเจี๊ยบเขียว ในการรักษาโรคมีข้อควรระวัง ดังนี้

  • สำหรับเมล็ดแก่ของกระเจี๊ยบเขียว มีความเป็นพิษ ในเมล็ดแก่สารพิษที่มีผลต่อระบบประสาท คือ gossypol จึงไม่ควรรับประทานเมล็ดจากฝักกระเจี๊ยบเขียวแก่
  • การรับประทานกระเจี๊ยบเขียว อาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร ปวดบีบท้อง ท้องอืด หรือ ท้องเสียได้ เนื่องจากกระเจี๊ยบเขียวมีคาร์โบไฮเดรตชนิดที่ทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร
  • การรับประทานกระเจี๊ยบเขียวมากเกินไป อาจทำให้เกิดนิ่วได้ ้เนื่องจากกระเจี๊ยบเขียวมีออกซาเลตสูง
  • กระเจี๊ยบเขียวมีวิตามินเค ที่สรรพคุณช่วยต้านการเกิดลิ่มเลือด สำหรับกลุ่มคนที่กำลังใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดไม่ควรรับประทานกระเจี๊ยบเขียว

กระเจี๊ยบเขียว ( Lady‘s Finger ) ชื่อวิทยาศาสตร์ของกระเจี๊ยบเขียว คือ Abelmoschus esculentus Moench. สมุนไพร คุณค่าทางโภชนาการของกระเจี๊ยบเขียว ประโยชน์และสรรพคุณของกระเจี๊ยบเขียว ขับสารพิษในร่างกาย บำรุงกระดูกและฟัน บำรุงสมอง ยาระบาย รักษาโรคกระเพาะ ลำไส้อักเสบ ลดความดันโลหิต ถ่ายพยาธิ แก้ท้องผูก บำรุงตับคุณ ชื่อเรียกอื่นๆของกระเจี๊ยวเขียว เช่น กระเจี๊ยบมอญ กระเจี๊ยบ มะเขือมื่น ส้มพม่า มะเขือหวาย มะเขือมอญ มะเขือพม่า มะเขือละโว้ กระต้าด ถั่วเละ เป็นต้น

กระเจี๊ยบเขียว พืชท้องถิ่น นิยมรับประทานผล ลักษณะของต้นกระเจี๊ยบเขียว เป็นอย่างไร คุณค่าทางโภชนาการ สรรพคุณของกระเจี๊ยบเขียว เช่น เป็นยาระบาย บำรุงสมอง โทษของกระเจี๊ยบเขียว มีอะไรบ้าง

Beezab.com แหล่งความรู้ด้านสุขภาพ สมุนไพร โรค แม่และเด็ก อาหารเพื่อสุขภาพ โยคะ ธรรมะครูบาอาจารย์ ดูแลตัวเองเบื้องต้นด้วยข้อมูลดีๆ เนื้อหาในเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อการศึกษาหรือเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเท่านั้น เราไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือ การรักษาโรคแต่อย่างใด หากคุณมีอาการเจ็บป่วยหรือรู้สึกไม่สบาย ควรคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานของเรา

Beezab.com source of health knowledge, herbsdiseasesmothers and childrenhealthy foodyoga and Dhamma.  The content on this page is for educational purposes only. We are not intended to be a substitute for medical advice. Diagnosis of disease or treatment of disease in any way If you are sick, You should consult a doctor.


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove