มะระ Bitter melon สมุนไพร ผลมะระมีรสขม นิยมนำมารับประทาน ลักษณะของต้นมระเป็นอย่างไร สรรพคุณของมะระ  เช่น ช่วยป้องกันมะเร็ง ช่วยเจริญอาหาร โทษของมะระ มีอะไรบ้าง

มะระ สมุนไพร พืชสวนครัว สรรพคุณของมะระ

ต้นมะระ ( Bitter melon ) ชื่อวิทยาศาสตร์ของมะระ คือ Momordica charantia L. ชื่อเรียกอื่นๆของมะระ เช่น  ผักเหย ผักไห มะร้อยรู มะห่อย มะไห่ สุพะซู สุพะเด เป็นต้น มะระ เป็นพืชล้มลุก อายุเพียงปีเดียว ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในประเทศเขตร้อน มีเถาเลื้อยยาวตามพื้นดินหรือตามต้นไม้ เป็นพืชตระกูลเดียวกับ ฟัก แตงกวาและบวบ สรรพคุณของมะระ บำรุงดวงตา บำรุงกระดูก แก้กระหายน้ำ รักษาเบาหวาน บำรุงเลือด ช่วยขับสารพิษ แก้หวัด ลดไข้ ขับเสมหะ เป็นยาระบายอ่อนๆ ขับพยาธิ รักษาผิวหนัง รักษาสิว บำรุงน้ำดี ช่วยสมานแผล ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม

มะระในประเทศไทย

สำหรับมะระในประเทศไทย นิยมปลูกมะระตามรั่วบ้าน เพื่อรับประทานผลมะระ และ ยอดอ่อนมะระเป็นอาหาร ในประเทศไทยมีปลูกมากในภาคเหนือ ซึ่งมะระ ที่พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศไทย มีอยู่ 2 สายพันธ์ คือ มะระจีน และ มะระขี้นด รายละเอียดของมะระแต่ละสายพันธ์ มีดังนี้

  • มะระจีน ลักษณะพิเศษ คือ ผลขนาดใหญ่ สีเขียว ผิวขรุขระ เนื้อมาก นิยมนำมาทำอาหาร เช่น ต้มจืด ผัดมะระ เป็นต้น รวมถึงรับประทานเป็นผักสด
  • มะระขี้นก ลักษณะพิเศษ คือ ผลมีขนาดเล็ก รสขมมาก สามารถนำมารับประทานเป็นอาหารรวมถึงทานเป็นผักสดได้

ลักษณะของต้นมะระ

ต้นมะระ  เป็น ไม้เถา พืชตระกุลเดียวกับแตง พืชล้มลุกที่มีอายุเพียงปีเดียว การขยายพันธุ์ของมะระ จะขยายพันธ์โดยใช้เมล็ด ลักษณะของต้นมะระ มีลักษณะดังนี้

  • ลำต้นมะระ เป็นเถา ลำต้นเป็นเหลี่ยม สีเขียว มีขนเ และลำต้นจะสามารถเกาะตามต้นไม้หรือเสาได้โดยใช้รากเป็นตัวเกาะ
  • ใบมะระ ลักษณะเป็นใบเดี่ยว ในเป็นแฉกเว้าลึก 5 แฉก โคนใบกลม ก้านใบยาว ใบสีเขียว มีขนสากๆ
  • ดอกมะระ ลักษณะดอกเป็นดอกเดี่ยว ออกดอกตามซอกใบ ลักษณะคล้ายรูประฆัง กลีบดอกสีเหลือง ก้านดอกยาว
  • ผลมะระ ลักษณะยาวรี ผิวเปลือกบาง ผิวผลมะระขรุขระเป็นร่อง มีเนื้อผลหนา ฉ่ำน้ำ ผลดิบมีสีเขียว ผลสุกจะมีสีแดง
  • เมล็ดมะระ ลักษณะเมล็ดแบนรี ปลายเมล็ดแหลมทั้งสองด้าน เมล็ดอยู่ภายในผลจำนวนมาก

คุณค่าทางโภชนาการของมะระ

สำหรับการรับประทานมะระ นิยมรับประทานผลสดของมะระเป็นอาหาร ซึ่งนักโภชนาการได้ศึกษาผลสดมะระจีน ขนาด 100 กรัม พบว่าให้พลังงาน มากถึง 17 กิโลแคลอรี และมีสารอาหารสำคัญ ประกอบด้วย กากใยอาหาร 2.8 กรัม โปรตีน 1 กรัม คาร์โบไฮเดรต 3.7 กรัม ไขมัน 0.17 กรัม วิตามินเอ 380 มิลลิกรัม วิตามินB1 0.04 มิลลิกรัม วิตามินB2 0.4 มิลลิกรัม วิตามินB3 0.4 มิลลิกรัม วิตามิน B5 0.212 มิลลิกรัม วิตามินB6 0.043 มิลลิกรัม วิตามินซี 84 มิลลิกรัม ธาตุสังกะสี 0.8 มิลลิกรัม ธาตุแคลเซียม 19 มิลลิกรัม ธาตุทองแดง 0.034 ไมโครกรัม ธาตุเหล็ก 0.43 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 17 มิลลิกรัม แมงกานีส 0.089 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 31 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 296 ไมโครกรัม และ โซเดียม 5 มิลลิกรัม

ผลมะระจีน มีสารสำคัญหลายชนิด เช่น แคแรนทิน ( charantin ) โพลีเปปไทด์ พี ( p-insulin ) และ วิซิน ( vicine ) ซึ่งมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด

รสขมของมะระ มาจากสารเคมี ที่มีชื่อว่า Momodicine สารชนิดนี้ มีประโยชน์ช่วยกระตุ้นความรู้สึกทำให้อยากกินอาหาร ช่วยให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารทำงานได้มีประสิทธิภาพ เป็นยาระบายอย่างอ่อนๆ

สรรพคุณของมะระ

สำหรับการใช้ประโยชน์จากมะระ เพื่อการบำรุงร่างกายและการรักษาโรค นั้น สามารถนำมาใช้ประโยชน์ ได้จาก ผล เถา เมล็ด ราก ใบ ซึ่งนำเอาไปใช้ประโยชน์ สรรพคุณของมะระ มีดังนี้

  • รากของมะระ สารารถนำมาใช้ปรุงเป็นยาบำรุง ฝาดสมาน แก้ริดสีดวงทวาร และเป็นยาธาตุ รักษาโรคกระเพาะอาหารช่วยแก้อาการบิด
  • เถาของมะระ ช่วยดับพิษร้อนภายในร่างกาย  ช่วยแก้อาการบิด
  • เมล็ดของมะระ สามารถช่วยปรับสมดุลของธาตุในร่างกาย ช่วยขับพยาธิตัวกลม
  • ใบสดของมะระ มีรสขม นำมาลวก หรือต้มดื่ม สามารถใช้เป็นยาฟอกเลือด ยาระบาย ช่วยเจริญอาหาร ช่วยแก้กระหายน้ำ ช่วยบรรเทาอาการหวัด ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยลดอาการฟกช้ำ ช่วยแก้อาการผดผื่นคัน
  • ใบแห้งของมะระ นำมาบดให้ละเอียดกับน้ำกินเป็นยา ช่วยขับพยาธิ ขับลม และบำรุงธาตุ
  • ผลสดของมะระ นิยมนำมาทำอาหาร ให้รสขม นำมารับประทาน ช่วยรักษาโรคเบาหวาน บำรุงธาตุ มีเบต้าแคโรทีนช่วยป้องกันมะเร็ง ช่วยทำให้ดวงตาสดใส ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ขับเสมหะ เป็นยาระบายอ่อน มะระช่วยแก้ตับ ม้ามพิการ บำรุงน้ำดี  ผลของมะระนำมาคั้นเอาน้ำใช้อมแก้อาการปากเปื่อย
  • ผลแห้งของมะระ นำมาบดให้ละเอียด โรยบริเวณที่เป็นแผล ใช้ทาแก้คัน หิด และโรคผิวหนัง
  • ผลสุกของมะระ นำมาทาหน้ารักษาสิวได้

โทษของมะระ

หากไม่อยากกินมะระที่ขมมากนัก ควรเริ่มตั้งแต่การเลือกซื้อ คือเลือกผลที่มีสีเขียวอ่อน อวบ และมีลายห่าง ๆ เพราะจะขมน้อยกว่าผลที่มีสีเขียวเข้มและลายถี่ และก่อนนำมะระไปปรุงอาหาร ให้ผ่าแล้วเอาเมล็ดและไส้ในออกจนหมด จากนั้นหั่นแล้วนำไปแช่น้ำเกลือสักพัก จะช่วยให้มะระลดความขมลงได้

มะระ ( Bitter melon ) คือ สมุนไพร พืชสวนครัว ผลมะระมีรสขม นิยมนำมารับประทาน ลักษณะของต้นมระเป็นอย่างไร สรรพคุณของมะระ  เช่น ช่วยป้องกันมะเร็ง ช่วยเจริญอาหาร โทษของมะระ มีอะไรบ้าง

Beezab.com แหล่งความรู้ด้านสุขภาพ สมุนไพร โรค แม่และเด็ก อาหารเพื่อสุขภาพ โยคะ ธรรมะครูบาอาจารย์ ดูแลตัวเองเบื้องต้นด้วยข้อมูลดีๆ เนื้อหาในเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อการศึกษาหรือเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเท่านั้น เราไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือ การรักษาโรคแต่อย่างใด หากคุณมีอาการเจ็บป่วยหรือรู้สึกไม่สบาย ควรคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานของเรา

Beezab.com source of health knowledge, herbsdiseasesmothers and childrenhealthy foodyoga and Dhamma.  The content on this page is for educational purposes only. We are not intended to be a substitute for medical advice. Diagnosis of disease or treatment of disease in any way If you are sick, You should consult a doctor.

กระเจี๊ยบแดง Roselle สมุนไพร นิยมนำดอกกระเจี๊ยบมารับประทาน ทำเครื่องดื่ม ต้นกระเจี๊ยบเป็นอย่างไร สรรพคุณช่วยขับปัสสาวะ ช่วยสมานแผล ช่วยขับลม โทษของกระเจี๊ยบ

กระเจี๊ยบแดง สมุนไพร สรรพคุณของกระเจี๊ยบ

ต้นกระเจี๊ยบแดง ( Roselle ) ชื่อวิทยาศาสตร์ของกระเจี๊ยบ คือ Hibiscus sabdariffa Linn. สมุนไพร สรรพคุณของกระเจี๊ยบ ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยสมานแผล แก้ท้องอืด แก้ท้องเฟ้อ ช่วยขับลม เป็นยาระบาย รักษาโรคกระเพาะ รักษาลำไส้อักเสบ  ขับเสมหะ ลดไขมันในเลือด บำรุงเลือด บำรุงธาตุ ขับน้ำดี แก้ปัสสาวะขัด ลดไข้ แก้ไอ แก้นิ่ว แก้กระหายน้ำ

กระเจี๊ยบ ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hibiscus sabdariffa Linn. ชื่ออื่นๆของกระเจี๊ยบ เช่น กระเจี๊ยบเปรี้ยว ผักเก้งเค้ง ส้มเก้งเค้ง ส้มตะเลงเครง ส้มปู ส้มพอเหมาะ แกงแดง ส้มพอดี เป็นต้น ต้นกระเจี๊ยบ เป็นพืชล้มลุก อายุสั้น เพียงแค่ปีเดียว นิยมปลูกสำหรับนำดอกมาใช้ประโยชน์หลัก ได้แก่ นำดอกมาต้มเป็นน้ำกระเจี๊ยบ ส่วนอื่นๆรองลงมา ได้แก่ ใบ และยอดอ่อนนำมาปรุงอาหาร สีของดอกใช้เป็นสีผสมอาหาร และเครื่องดื่ม เป็นต้น เรานำเอาส่วนยอดใบ กลีบเลี้ยง เมล็ด ยอดและใบ ของกระเจี๊ยบมาใช้ประโยชน์แบบสดๆ ส่วนกลีบเลี้ยง ใบ เมล็ด สามารถนำมาตากแห้งเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

คุณค่าทางโภชนาการของกระเจี๊ยบแดง

ต้นกระเจี๊ยบนิยมรับประทานผลเป็นอาหาร ซึ่งนักโภชนาการได้ศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของกลีบดอกกระเจี๊ยบขนาด 100 กรัม พบว่าให้พลังงาน 49 กิโลแคลอรี โดยพบว่ามีสารอาหารสำคัญ ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 11.31 กรัม ไขมัน 0.64 กรัม โปรตีน 0.96 กรัม วิตามินเอ 14 ไมโครกรัม วิตามินบี 1 0.011 มิลลิกรัม วิตามินบี 2 0.028 มิลลิกรัม วิตามินบี 3 0.31 มิลลิกรัม วิตามินซี 12 มิลลิกรัม ธาตุแคลเซียม 215 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 1.48 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 51 มิลลิกรัม ธาตุฟอสฟอรัส 37 มิลลิกรัม ธาตุโพแทสเซียม 208 มิลลิกรัม และธาตุโซเดียม 6 มิลลิกรัม

ลักษณะของต้นกระเจี๊ยบแดง

ต้นกระเจี๊ยบ เป็นพรรณไม้พุ่ม ขนาดเล็ก อายุของกระเจี๊ยบ 1 ปี สามารถขยายพันธ์โดยการเพาะเมล็ดพันธ์ ลักษณะของต้นกระเจี๊ยบแดง มีดังนี้

  • ลำต้นของกระเจี๊ยบสูงประมาณ  2 เมตร กิ่งก้านของกระเจี๊ยบจะมีสีสีม่วงอมแดง
  • ใบของกระเจี๊ยบ ขอบใบจะเว้าลึก หยัก เป็นรูปวงรี แหลม
  • ดอกของกระเจี๊ยบ เป็นสีสีชมพู  ก้านดอกจะสั้น กลีบรองดอกจะมีลักษณะแหลม มีสีแดงเข้ม
  • เมล็ดของกระเจี๊บย เป็นสีน้ำตาล

กระเจียบ ขยายพันธุ์ โดยใช้เมล็ด ชอบดินร่วนซุยและดินเหนียวที่อุ้มน้ำ กระเจี๊ยบอุดมไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และวิตามินซี นอกจากนี้ยังมีเส้นใยสูง ช่วยให้การขับถ่ายสะดวก ส่วนเมือกเหนียวของกระเจี๊ยบเป็นสารเคลือบกระเพาะ ช่วยรักษาโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบได้ดีอีกด้วย

สรรพคุณของกระเจี๊ยบ

สำหรับการนำเอากระเจี๊ยบมาใช้ประโยชน์ทางสมุนไพร และ การรักษาโรค เราสามารถนำมาใช้ประโยชน์จาก ยอด ใบ เมล็ด ดอก โดยรายละเอียดของสรรพคุณของกระเจี๊ยบ มีดังนี้

  • ยอดและใบของกระเจี๊ยบ สามารถใช้ ช่วยย่อยอาหาร ละลายเสมหะ ขับปัสสาวะ หล่อลื่นลำไส้ เป็นยาบำรุงธาตุและเป็นยาระบาย  นำมาตำพอกฝี ล้างแผล
  • เมล็ดของกระเจี๊ยบ สามารถช่วยลดไขมันในเลือด บำรุงเลือด บำรุงธาตุ ขับน้ำดี ขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะขัด เป็นยาระบายอ่อนๆ เมล็ดของกระเจี๊ยบสามารถ นำมาบดเป็นผงผสมน้ำกินได้
  • ดอกกระเจี๊ยบ นำมาต้มชงน้ำดื่ม ช่วยให้สดชื่น ขับปัสสาวะ ขับน้ำดี ลดไข้ แก้ไอ แก้นิ่ว แก้กระหายน้ำ

โทษของกระเจี๊ยบแดง

สำหรับการรับประทานกระเจี๊ยบเป็นอาหาร หรือใช้เป็นยารักษาโรค มีข้อควรระวัง ดังนี้

  • สำหรับคนที่มีอาการท้องเสียอยู่ ไม่ควรกินน้ำกระเจี๊ยบ เนื่องจากน้ำกระเจี๊ยบมีสรรพคุณเป็นยาระบาย
  • น้ำกระเจี๊ยบ มีสรรพคุณช่วยขับปัสสาวะ ไม่ควรดื่มน้ำกระเจี๊ยบเข้มข้นในปริมาณมากและติดต่อกันนาน ๆ เนื่องจากอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ

ต้นกระเจี๊ยบแดง ( Roselle ) สมุนไพร นิยมนำดอกกระเจี๊ยบมารับประทาน และ ทำเครื่องดื่ม ลักษณะของต้นกระเจี๊ยบ เป็นอย่างไร สรรพคุณของกระเจี๊ยบ เช่น ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยสมานแผล ช่วยขับลม โทษของกระเจี๊ยบ มีอะไรบ้าง

Beezab.com แหล่งความรู้ด้านสุขภาพ สมุนไพร โรค แม่และเด็ก อาหารเพื่อสุขภาพ โยคะ ธรรมะครูบาอาจารย์ ดูแลตัวเองเบื้องต้นด้วยข้อมูลดีๆ เนื้อหาในเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อการศึกษาหรือเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเท่านั้น เราไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือ การรักษาโรคแต่อย่างใด หากคุณมีอาการเจ็บป่วยหรือรู้สึกไม่สบาย ควรคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานของเรา

Beezab.com source of health knowledge, herbsdiseasesmothers and childrenhealthy foodyoga and Dhamma.  The content on this page is for educational purposes only. We are not intended to be a substitute for medical advice. Diagnosis of disease or treatment of disease in any way If you are sick, You should consult a doctor.


ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove