หอมหัวใหญ่ นิยมนำมาทำอาหาร มีประโยชน์ด้านสมุนไพร สรรพคุณบำรุงเลือด บำรุงหัวใจ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ทำความรู้จักกับหอมหัวใหญ่ว่าเป็นอย่างไร

หอมหัวหใญ่ สรรพคุณหอมใหญ่ สมุนไพร

หอมหัวใหญ่ ภาษาอังกฤษ เรียก Onion ชื่อวิทยาศาสตร์ของหอมใหญ่ คือ Allium cepa L. สำหรับชื่อเรียกอ่ืนๆของหอมหัวใหญ่ เช่น หัวหอม หัวหอมใหญ่ หอมฝรั่ง หอมหัว เป็นต้น หอมหัวใหญ่มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชียกลาง และแหล่งผลิตหอมหัวใหย่ที่สำคัญของโลก ได้แก่ ประเทศจีน สหรัฐอเมริกา และประเทศอินเดีย นิยมนำมาทำอาหารรับประทาน

หอมหัวใหญ่มีวิตามินซีสูง และสารอื่นๆ เช่น สารเคอร์ซีทิน สามารถช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระในร่างกาย สรรพคุณอื่นๆของหอมใหญ่ เช่น รักษาเบาหวาน รักษาโรคหัวใจ ลดน้ำตาลในเลือด บำรุงระบบโลหิต ช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ป้องกันโรคต่างๆได้ดี

ลักษณะของต้นหอมหัวใหญ่

ต้นหอมหัวใหญ่ เป็นพืชล้มลุก สามารถขยายพันธ์โดยการแยกหน่อ ลักษณะของต้นหอมหัวใหญ่ มีดังนี้

  • ต้นหอมใหญ่ มีความสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร มีหัวอยู่ใต้ดินคล้ายหัวหอม ลักษณะกลมป้อม มีเปลือกนอกบาง ๆ สีม่วงแดงหุ้มอยู่ แต่เมื่อแห้งแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล
  • ใบหอมใหญ่ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเป็นกระจุก 3-4 ใบ ลักษณะเป็นรูปดาบ มีความกว้างประมาณ 2-4 เซนติเมตร และยาวประมาณ 20-40 เซนติเมตร เส้นใบจีบตามยาวลักษณะคล้ายพัด
  • ดอกหอมใหญ่ ออกดอกเป็นช่อ แทงขึ้นมาจากลำต้นใต้ดิน กลีบดอกมีสีขาว

คุณค่าทางโภชนาการของหอมหัวใหญ่

สำหรับการบริโภคหอมหัวใหญ่นิยมรับประทานหัวหอมใหญ่ ซึ่งนักโภชนาการได้ศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของหัวหอมใหญ่ขนาด 100 กรัม พบว่าให้พลังงานมากถึง 40 กิโลแคลอรี มีสารอาหารสำคัญประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 9.34 กรัม น้ำตาล 4.24 กรัม กากใยอาหาร 1.7 กรัม ไขมัน 0.1 กรัม โปรตีน 1.1 กรัม น้ำ 89.11 กรัม วิตามินบี 1 0.046 มิลลิกรัม วิตามินบี 2 0.027 มิลลิกรัม
วิตามินบี 3 0.116 มิลลิกรัม วิตามินบี 5 0.123 มิลลิกรัม วิตามินบี 6 0.12 มิลลิกรัม วิตามินบี 9 19 ไมโครกรัม วิตามินซี 7.4 มิลลิกรัม
ธาตุแคลเซียม 23 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 0.21 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 10 มิลลิกรัม ธาตุแมงกานีส 0.129 มิลลิกรัม ธาตุฟอสฟอรัส 29 มิลลิกรัม ธาตุโพแทสเซียม 146 มิลลิกรัม ธาตุสังกะสี 0.17 มิลลิกรัม และ ธาตุฟลูออไรด์ 1.1 ไมโครกรัม

สรรพคุณของหอมหัวใหญ่

สำหรับการใช้ประโยชน์จากหอมหัวใหญ่ ด้านการบำรุงร่างกายและการรักษาโรค ใช้ประโยชน์จากหัวหอมใหญ่ ซึ่งสรรพคุณของหอมหัวใหญ่ มีดังนี้

สามารป้องกันการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ ช่วยแก้การนอนไม่หลับได้ ช่วยทำให้เจริญอาหาร ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย ช่วยกำจัดสารตะกั่วและโลหะหนักที่ปนเปื้อนมากับอาหาร ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ลดความเสี่ยงของอัมพาต ช่วยรักษาโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด ช่วยในการขยายหลอดเลือด ช่วยทำให้เลือดไม่ไปอุดตันในหลอดหลอด ช่วยในการสลายลิ่มเลือดปกป้องหลอดเลือดเลี้ยงสมองเกิดการอุดตัน ลดความอ้วน ช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยลดความดันโลหิต แก้ความดันโลหิตสูง ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ช่วยรักษาไข้หวัด แก้หวัดคัดจมูก และช่วยลดน้ำมูก ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ หอมหืด คุณช่วยขับเสมหะได้ ช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยแก้ท้องร่วง ช่วยขับพยาธิ ช่วยในการขับปัสสาวะ ช่วยแก้ลมพิษ ลดอาการปวดอักเสบ ช่วยฆ่าเชื้อโรค ช่วยรักษาผิวหนังที่ถูกน้ำร้อนลวกได้

 

โทษของหอมหัวใหญ่

สำหรับการรับประทานหอมหัวใหญ่ เพื่อการบำรุงร่างกายและการรักษาโรคยังไม่พบรายงานว่าการกินหอมหัวใหญ่มีโทษ แต่มีข้อควรระวังในการใช้ประโยชน์จากหอมหัวใหญ่ ดังนี้

  • หอมหัวใหญ่มีกลิ่นฉุนและมีน้ำมันหอมระเหย ทำให้ระคายเคืองดวงตาและหากผิวมีบาดแผลจะทำให้เกิดอาการแสบ
  • หอมหัวใหญ่เมีกลิ่นแรง อาจทำให้เกิดกลิ่นปาก ทำให้มีกลิ่นตัวแรงยิ่งขึ้น

วิธีปลูกหอมหัวใหญ่ สามารถปลูกได้จากการเพาะต้นกล้า โดยหว่านเมล็ดพันธุ์ให้ทั่วแปลงกล้า รดน้ำให้ทั่ว หลังจากที่เมล็ดงอกประมาณ 10-15 วัน ใช้หญ้าแห้งคลุมดินอย่าให้แปลงชื้น หรือร้อนเกินไป เมื่อกล้าอายุได้ 45 วัน ก็ย้ายเพื่อลงแปลงปลูก จัดเป็นแถว ห่างกัน 10 – 15 เซ็นติเมตร หมั่นพรวนดิน และกำจัดวัชพืช หลังจากย้ายกล้าลงแปลงปลูกประมาณ 90-100 วัน ก็ สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว

Beezab.com แหล่งความรู้ด้านสุขภาพ สมุนไพร (แบ่งตามสรรพคุณรักษาโรคของสมุนไพร) โรค (แบ่งต่ามอาการป่วยของอวัยวะต่างๆ) แม่และเด็ก อาหารเพื่อสุขภาพ โยคะ ธรรมะครูบาอาจารย์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลการดูแลตัวเองเบื้องต้น ข้อมูลดีๆในเว็ยไซต์แห่งนี้เนื้อหามีไว้เพื่อการศึกษาหรือเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเท่านั้น เราไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือ การรักษาโรคแต่อย่างใด หากคุณมีอาการเจ็บป่วยหรือรู้สึกไม่สบาย ควรคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานของเรา

ท่าสุนัขยืดขึ้น Upward-Facing Dog ช่วยยืดหลัง เพิ่มความแข็งแรงของหลัง แขน ข้อมือ ช่วยยืดอก ไหล่ ทำให้สะโพกกระชับ ห้ามทำในสตรีมีครรภ์และผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลัง

ท่าสุนัขยืดขึ้น โยคะ การฝึกโยคะ โยคะพื้นฐาน

วิธีการฝึกโยคะท่าสุนัขยืดขึ้น

  1. ให้นอนคว่ำราบกับพื้น ขาให้เหยียดและให้หลังเท้าติดกับพื้น ให้งอข้อศอกและวางมือไว้ข้างลำตัว ในท่ายันพื้น
  2. จากนั้นหายใจเข้าอย่างช้าๆ ก้มหัวลง จากนั้นใช้แขนดันตัว และยกสะโพกสูงขึ้นให้สุด
  3. ค้างเอาไว้ และยกให้ส่วนสะโพกขึ้น โดยที่ส่วนที่รับน้ำหนักจะเป็นมือละข้อมือ
  4. ค่อยๆผ่อนคลายและลดตัวลงเรียบกับพื้น ทำแบบนี้ไปมาสัก 5-6 รอบ

ประโยชน์ของโยคะท่าสุนัขยืดขึ้น

การทำโยคะท่า สุนัขยืดขึ้นบ่อยๆ จะช่วยให้ กล้ามเนื้อหลัง แขน และข้อมือแข็งแรง อวัยวะภายในช่องท้องจะแข็งแรง สะโพกจะเข้ารูปสวยกระชับ ผู้ที่ทำท่านี้จะช่วยผ่อนคลาย ลดการปวดหัว และให้นอนหลับสบาย

ข้อห้ามในการทำท่าโยคะสุนับยืดขึ้น

การทำโยคะท่าสุนับยืด ห้ามทำในสตรีมีครรภ์ ผู้ที่ป่วยเกี่ยวกับโรคกระดูกสันหลัง และผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคข้อมือ ผู้ป่วยโรคกระดูกเปราะ

ท่าสุนัขยืดขึ้น ( Upward-Facing Dog ) ท่านี้จะช่วยยืดหลัง เพิ่มความแข็งแรงของหลัง แขน ข้อมือ ช่วยยืดอก ปอด ไหล่ ท้อง ทำให้สะโพกกระชับ ห้ามทำในสตรีมีครรภ์ และ ผู้ที่ป่วยเกี่ยวกับโรคกระดูกสันหลัง

โยคะ (สันสกฤต: योग) เป็นกลุ่มของการปฏิบัติหรือการประพฤติทางกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ โดยถือกำเนิดที่ประเทศอินเดีย หลายพันปีมาแล้ว วิธีการฝึกโยคะนั้นมีการได้ถ่ายทอดจากอดีตถึงปัจจุบัน ในแถบหุบเขาอินดัส วอลเลย์ มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โดยนักโบราณคดีได้ค้นพบไม้แกะสลัก และงานศิลปะประเภทรูปปั้น ที่มีการฝึกโยคะ นักปราชญ์ชาวฮิน ชื่อ ปตัญชลี ได้ปรับปรุงรูปแบบการฝึกโยคะขั้นพื้นฐาน และได้เขียนตำราสูตรการฝึกโยคะไว้ 8 ข้อ ผู้ที่ฝึกและปฏิบัติโยคะ หากเป็นชายจะเรียกว่า โยคี และหากเป็นสตรีจะเรียกว่า โยคินี โยคะมาเป็นการออกกำลังกาย จะเน้นความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกระดูกทำให้เลือดและสารอาหารไปเลี้ยงส่วนประสาท ทำให้การทำงานของต่อมต่างๆทำงานดีขึ้น ท่าต่างๆในการฝึกโยคะ จะยืดเหยียดกล้ามเนื้อตามแบบของโยคะสอดคล้องกับการหายใจ และการทำสมาธิ การฝึกโยคะจะทำให้สุขภาพจิตและสุขภาพกายดี

แหล่งอ้างอิง

  • Denise Lardner Carmody, John Carmody (1996), Serene Compassion. Oxford University Press US. p. 68.
  • Stuart Ray Sarbacker, Samādhi: The Numinous and Cessative in Indo-Tibetan Yoga. SUNY Press, 2005, pp. 1–2.
  • Tattvarthasutra [6.1], see Manu Doshi (2007) Translation of Tattvarthasutra, Ahmedabad: Shrut Ratnakar p. 102

ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove