ท่าภูเขา Mountain Pose ช่วยรักษาสมดุลของร่างกาย แก้ปวดหลังปวด แก้ปวดฝ่าเท้า ช่วยกล้ามเนื้อขาและหน้าท้องแข็งแรง ผู้ฝึกต้องไม่เป็นโรคความดันต่ำ

ท่าภูเขา โยคะ การฝึกโยคะ โยคะพื้นฐาน

โยคะพื้นฐาน ท่าภูเขา คือ การยืนในลักษณะเป็นภูเขา ที่มีความมั่นคง หนักแน่น แต่ตระหง่านขึ้นสู่ฟ้า และสุดท้ายความสงบนิ่ ซึ่งหลายๆ เข้าใจผิดว่า ท่านี้คือการยืนตรงธรรมดา เก็บก้นกบ แขม่วท้อง เท่านั้น แต่ความเป็นจริง ถ้าฝึกยืนท่านี้ จะช่วยในการจัดระเบียบร่างกาย เนื่องจากต้องใช้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆอย่างเต็ม การปฏิบัตเพียง 5 นาที ก็เหนื่อยได้ ในขณะที่ยืนนั้นการเก็บก้นกบ หลายคนทำไม่ได้ โดยหาก้นกบไม่เจอ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนในการฝึก

วิธีทำโยคะท่าภูเขา

โดยยืนตรงเท้าชิดกัน เหยียดหัวเข่าให้ตึง เกร็งกล้ามเนื้อต้นขา เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง ยืดอกขึ้น แผ่นหลังเหยียดตรง ต้นคอตั้งตรง สายตามองตรง ระหว่างนี้ รักษาสมดุลของร่างกาย ไม่ให้ล้ม แขนสองข้างพนมมือ และค่อยๆยกขึ้นเหนือศีรษะ ค้างเอาไว้ จากนั้นค่อยๆผ่อนมือลง จากนั้นทำแบบเดิม 3-4 ครั้ง จากนั้นหยุดพัก

หากเรายืนได้ถูกต้องฝ่าเท้าจะมีแรงกดแน่น กล้ามเนื้อขาจะเกร็งเพื่อส่งแรง หน้าท้องด้านหน้าส่วนล่างจะถูกใช้เพื่อเก็บก้นกบ ยืดอก ขึ้น ลำคอเหยียดตรง ตามองไปข้างหน้า เราจะสัมผัสได้ถึงแนวเส้นตรงจากข้อเท้าขึ้นไปถึงเข่า จากเข่าถึงสะโพก เลยไปถึงไหล่ จนถึงใบหู และไล่ขึ้นไปจนกลางกระหม่อม จะรู้สึกเกิดพลังงานจากเท้าไปถึงกลางกระหม่อม

เรื่องการเก็บก้นกบนั้นไม่ใช้แค่การม้วนก้นกบไปข้างหน้า หรือ การแอ่นเชิงกราน แต่ต้อง รดึงก้นกบลงพื้นในลักษณะที่เชิงกรานแอ่นไปด้านหลังเล็กน้อย เพื่อเตรียมพร้อมการเดิน และรองรับส่วนของกระดูกต้นขา เมื่อเราเก็บก้นกบลงมาหาพื้น จะช่วยให้เรายืนอย่างมั่นคง แต่เราจะเดินยากขึ้น ดังนั้น การเก็บก้นกบ จึงมีความสำคัญสำหรับการปฏิบัติท่านี้อย่างมาก นอกจากท่าภูเขาจะเป็นท่าเริ่มต้นของดยคะพื้นฐานในท่ายืน แล้วท่าภูเขายังเป็นพื้นฐานของการปฏิบัตโยคะพื้นฐานในท่ายืน

ท่าภูเขามีประโยชน์อย่างไร คือ ช่วยให้บุคลิกภาพดี ลำตัวตั้งตรง กล้ามเนื้อต้นขา หน้าท้อง และข้อเท้าแข็งแรง ลดอาการปวดหลังและฝ่าเท้า

ข้อห้ามฝึกสำหรับในการฝึกท่าภูเขา คือ ห้ามทำท่านี้ในคนที่มีอาการปวดศีรษะ คนที่นอนไม่หลับ และคนที่มีภาวะความดันต่ำ

สำหรับ โยคะท่าภูเขานั้น ท่านี้เป็นท่าพื้นฐานของโยคะ เป็นท่าแรกของการไหว้พระอาทิตย์ ที่รวมจิตใจและร่างกายเป็นหนึ่งเดียวก่อนที่จะเริ่มการฝึก เป็นท่าของอาสนะท่ายืนทุกท่า ช่วยฝึกการเก็บก้นกบได้เป็นอย่างดี เป็นพื้นฐานการฝึกโยคะ อาสนะที่ มั่นคง และปลอดภัย โยคะท่าภูเขา จะเป็นลักษณะ การยืนเหมือนภูเขา ให้ความมั่นคงและหนักแน่น และสงบนิ่ง หลายๆคนมักมองข้ามท่านี้ โดยนึกว่าท่านี้คือการยืนตรงธรรมดา

หลายคนได้ยินครูพูดถึงการเก็บก้นกบ แต่นึกว่าการเก็บก้นกบ คือการแขม่วท้องเท่านั้น แต่ความเป็นจริงแล้วสำหรับผู้ฝึกใหม่ ถ้าฝึกยืนในท่านี้ โดยสามารถจัดระเบียบร่างกาย และใช้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆอย่างเต็มที่ แค่ 5 นาทีก็จะรู้สึกเหนื่อยได้ จนเมื่อกล้ามเนื้อต่างๆในร่างกายเริ่มคุ้นเคยจึงจะสามารถยืนได้อย่างสงบ ในขณะที่บางคนยืนยังไงก็ไม่เข้าใจเรื่องเก็บก้นกบสักที หาก้นกบไม่เจอ และอาจใช้เวลาหลายเดือนถึงจะเข้าใจ

ถ้าเรายืนท่านี้ถูก เราจะรู้สึกฝ่าเท้ามีแรงกดแน่นลงกับพื้นไม่ใช่แค่วางเฉยๆ กล้ามเนื้อขามีการเกร็งเพื่อส่งแรง หน้าท้องด้านหน้าส่วนล่างในระดับลึกถูกใช้งาน เพื่อใช้ในการเก็บก้นกบ อกยืด ขึ้น ลำคอเหยียดตรง ตามองตรงไปข้างหน้า เราจะสัมผัสได้ถึงแนวเส้นตรงจากข้อเท้า ขึ้นไปถึงเข่า จากเข่าถึงข้อสะโพก เลยไปถึงไหล่ จนถึงใบหู และไล่ขึ้นไปจนกลางกระหม่อม รู้สึกพลังงานที่ตรงผ่านเท้าเราขึ้นไปกลางกระหม่อมเลยทีเดียว มาดูเรื่องการเก็บก้นกบ ไม่ใช้การม้วนก้นกบไปข้างหน้า หรือการแอ่นเชิงกราน แต่คือการดึงก้นกบลงพื้น (Neutral) ปกติร่างกายเราจะยืนตรง ในลักษณะที่เชิงกรานแอ่นไปด้านหลังเล็กน้อยเพื่อเตรียมพร้อมการเดิน รองรับส่วนของกระดูกต้นขาในการเคลื่อนไหว ตรงกันข้าม เมื่อเราเก็บก้นกบลงมาหาพื้น จะช่วยให้เรายืนอย่างมั่นคงขึ้น แต่เราจะเดินยากขึ้น ดังนั้นการเก็บก้นกบจึงมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อให้เราอยู่ในอาสนะต่างๆได้อย่างมั่นคง นอกจากนั้นยังเป็นการป้องกันหลังล่าง

นอกจากท่าภูเขาจะเป็นท่าเริ่มต้นของท่ายืนอื่นๆแล้ว ท่าภูเขายังเป็นพื้นฐานที่ดีอย่างมากสำหรับท่าแพลงค์ ชาตุรังกา ท่า Headstand ฯลฯ เพราะใช้การจัดระเบียบร่างกายแบบเดียวกับหมด เพียงแต่ปรับทิศทาง และใช้ส่วนอื่นในการสัมผัสพื้นแทนเท้า เท่านั้นเอง

ท่าภูเขา ( Mountain Pose ) ท่านี้ ช่วยรักษาสมดุลของร่างกาย แก้ปวดหลังปวด แก้ปวดฝ่าเท้า ช่วยกล้ามเนื้อขาและหน้าท้องแข็งแรง ผู้ฝึกต้องไม่เป็นโรคความดันต่ำ ปวดศรีษะ หรือ นอนไม่หลับ

โยคะ (สันสกฤต: योग) เป็นกลุ่มของการปฏิบัติหรือการประพฤติทางกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ โดยถือกำเนิดที่ประเทศอินเดีย หลายพันปีมาแล้ว วิธีการฝึกโยคะนั้นมีการได้ถ่ายทอดจากอดีตถึงปัจจุบัน ในแถบหุบเขาอินดัส วอลเลย์ มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โดยนักโบราณคดีได้ค้นพบไม้แกะสลัก และงานศิลปะประเภทรูปปั้น ที่มีการฝึกโยคะ นักปราชญ์ชาวฮิน ชื่อ ปตัญชลี ได้ปรับปรุงรูปแบบการฝึกโยคะขั้นพื้นฐาน และได้เขียนตำราสูตรการฝึกโยคะไว้ 8 ข้อ ผู้ที่ฝึกและปฏิบัติโยคะ หากเป็นชายจะเรียกว่า โยคี และหากเป็นสตรีจะเรียกว่า โยคินี โยคะมาเป็นการออกกำลังกาย จะเน้นความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกระดูกทำให้เลือดและสารอาหารไปเลี้ยงส่วนประสาท ทำให้การทำงานของต่อมต่างๆทำงานดีขึ้น ท่าต่างๆในการฝึกโยคะ จะยืดเหยียดกล้ามเนื้อตามแบบของโยคะสอดคล้องกับการหายใจ และการทำสมาธิ การฝึกโยคะจะทำให้สุขภาพจิตและสุขภาพกายดี

แหล่งอ้างอิง

  • Denise Lardner Carmody, John Carmody (1996), Serene Compassion. Oxford University Press US. p. 68.
  • Stuart Ray Sarbacker, Samādhi: The Numinous and Cessative in Indo-Tibetan Yoga. SUNY Press, 2005, pp. 1–2.
  • Tattvarthasutra [6.1], see Manu Doshi (2007) Translation of Tattvarthasutra, Ahmedabad: Shrut Ratnakar p. 102

โยคะท่าอีกา ( Crow Pose ) ท่าโยคะที่บ่งบอกถึงความสำเร็จของการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ท่าที่ต้องใช้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและความสมดุลของร่างกาย

ท่าอีกา โยคะ การฝึกโยคะ โยคะพื้นฐาน

การออกกำลังกายโยคะ ท่าอีกา Crow Pose ท่านี้คล้ายๆกับท่า หกกบ ของบ้านเรา แต่ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่ใช้ไม่ได้แตกต่างกันเลย ต้องใช้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขน และข้อมือ ช่วยยืดหยุ่นกล้ามเนื้อสะโพก กล้ามเนื้อหลัง และบริเวณลำคอ ประกอบกับการใช้สมาธิเพื่อสร้างสมดุลให้กับร่างกายในการทรงตัว ท่านี้ถือว่าต้องใช้ความชำนาญในการฝึกฝนค่อนข้างมาก ช่วงฝึกฝนในตอนแรกๆ หากกล้ามเนื้อแขนและข้อมือของคุณยังไม่แข็งแรง อาจสั่นเป็นเจ้าเข้ากันเลยทีเดียว ยิ่งประกอบกับการขาดสมาธิด้วยแล้ว อาจได้หกล้ม หน้ากระแทกพื้นกันวันละหลายหน กว่าจะบินได้แบบอีกา สำหรับการฝึกฝนท่านี้

วิธีการฝึกโยคะท่าอีกา ( Crow Pose )

  1. เริ่มต้นด้วยการนั่งยองๆ จากนั้นกางนิ้วมือทั้งห้านิ้ววางราบลงกับพื้น เหตุผลที่ให้กางนิ้วออกเพื่อให้กระจายน้ำหนักให้ทั่วทั้งผ่ามือ
  2. จากนั้นงอข้อศอกโน้มตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย ใช้เข่าหนีบโดยให้อยู่ระดับเหนือข้อศอก แล้วค่อยๆยกสะโพกขึ้นจิกปลายเท้าแล้วยกให้เท้าลอยขึ้นทีละข้าง เพื่อปรับสมดุลร่างกายก่อน
  3. พยายามเทน้ำหนักไปที่แขน และกระจายน้ำหนักลงไปที่นิ้วมือทั้งห้านิ้ว หากยกขาทั้งสองขึ้นได้แล้ว ก็ให้พยายามเหยียดข้อศอกขึ้นเล็กน้อย ทำค้างไว้ซัก 30 วินาที โดยหายใจเข้า-ออกตามปกติ
  4. จากนั้นค่อยๆผ่อนคลายด้วยการวางเท้าลงสู่พื้น

นอกจากคิวการจัดระเบียบร่างกายที่บอกไปด้านบนนะคะ สิ่งที่สำคัญมากๆ คือ

  • อย่ากลั้นหายใจ
  • เลิกดูถูกตัวเองนะคะ ว่า “ทำไม่ได้อ้ะ” “เค้ากลัว” เปลี่ยนมันซะ ลองคิดข้ามชอตไปถึงตอนที่บินอย่างสง่างามแล้วพยายามอยู่ในท่าให้นาน

โยคะท่าอีกา Crow Pose ถือว่าเป็นท่าที่ต้องใช้ร่างกายหลายส่วนประกอบกัน เมื่อฝึกฝนจนชำนาญก็จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ฝึกฝนได้มากในเรื่องการสร้างสมดุล และ การทรงตัว ซึ่งท่านี้ก็จะสามารถพลิกแพลงต่อเนื่องไปสู่ท่าโยคะที่ยากได้อีกหลายท่า ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนของแต่ละบุคคล

โยคะท่าอีกา Crow Pose โยคะท่านี้ ผู้ฝึกฝนควรละทิ้งความกังวลทั้งหลายทิ้งไปก่อน ไม่ว่าจะกังวลว่าจะทำไม่ได้ หรือ ความกังวลว่าจะเจ็บตัวเพราะหน้ากระแทกพื้น แต่ควรหันมาฝึกสมาธิ และพยายามทรงตัวโดยยกขาขึ้นทีละข้างแทน แทนที่จะดีดยกขาขึ้นพร้อมกัน นั่นถือว่าเสี่ยงต่อการหกล้มและทำให้ร่างกายเสียสมดุล การฝึกฝนควรมีการทำท่าพื้นฐานเพื่ออุ่นเครื่องก่อน เพื่อยืดเส้นหรือคลายกล้ามเนื้อ จะช่วยทำให้ร่างกายของคุณพร้อมสำหรับการฝึกฝนได้ดีขึ้น และการฝึกฝนควรทำไปตามขั้นตอน อย่ารีบร้อนหรือรีบเร่ง เพราะนอกจากจะสร้างความเครียดแล้ว ยังมีโอกาสทำผิดพลาดได้สูงด้วย

โยคะท่าอีกา Crow Pose จะทำท่านี้สำเร็จได้ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ไม่แนะนำให้คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อมือฝึกฝนท่านี้ เพราะอาจทำให้บาดเจ็บมากขึ้นไปอีก ควรปลอดภัยไว้ก่อนเพื่อความสุขในการออกกำลังกายท่าอีกาหรือท่านกยาง ซึ่งเรียกกันว่า ผกาสนะ (bakasana) ในภาษาสันสกฤตนั้น เป็นหนึ่งในท่าการทรงตัวด้วยแขนท่าแรกๆ ที่นักเรียนโยคะจะได้เรียน ท่าอีกานี้ช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้แขน ข้อมือ และกล้ามเนื้อหน้าท้อง มันยังยืดบริเวณหลังส่วนบนกับโคนขาหนีบด้วย ผกาสนะอาจจะเรียนรู้ลำบากสักหน่อย แต่ถ้าฝึกเป็นประจำก็จะสามารถทำท่านี้ได้คล่องจนสามารถดัดแปลงไปสู่ท่าอาสนะอื่นๆ ที่ยากขึ้นได้

โยคะ (สันสกฤต: योग) เป็นกลุ่มของการปฏิบัติหรือการประพฤติทางกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ โดยถือกำเนิดที่ประเทศอินเดีย หลายพันปีมาแล้ว วิธีการฝึกโยคะนั้นมีการได้ถ่ายทอดจากอดีตถึงปัจจุบัน ในแถบหุบเขาอินดัส วอลเลย์ มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โดยนักโบราณคดีได้ค้นพบไม้แกะสลัก และงานศิลปะประเภทรูปปั้น ที่มีการฝึกโยคะ นักปราชญ์ชาวฮิน ชื่อ ปตัญชลี ได้ปรับปรุงรูปแบบการฝึกโยคะขั้นพื้นฐาน และได้เขียนตำราสูตรการฝึกโยคะไว้ 8 ข้อ ผู้ที่ฝึกและปฏิบัติโยคะ หากเป็นชายจะเรียกว่า โยคี และหากเป็นสตรีจะเรียกว่า โยคินี โยคะมาเป็นการออกกำลังกาย จะเน้นความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกระดูกทำให้เลือดและสารอาหารไปเลี้ยงส่วนประสาท ทำให้การทำงานของต่อมต่างๆทำงานดีขึ้น ท่าต่างๆในการฝึกโยคะ จะยืดเหยียดกล้ามเนื้อตามแบบของโยคะสอดคล้องกับการหายใจ และการทำสมาธิ การฝึกโยคะจะทำให้สุขภาพจิตและสุขภาพกายดี

แหล่งอ้างอิง

  • Denise Lardner Carmody, John Carmody (1996), Serene Compassion. Oxford University Press US. p. 68.
  • Stuart Ray Sarbacker, Samādhi: The Numinous and Cessative in Indo-Tibetan Yoga. SUNY Press, 2005, pp. 1–2.
  • Tattvarthasutra [6.1], see Manu Doshi (2007) Translation of Tattvarthasutra, Ahmedabad: Shrut Ratnakar p. 102

ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove